ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเจ็บสาหัส ขาขาด 1 ราย ใกล้ "ปราสาทตาควาย"
มีรายงานว่า พลทหารอดิศร ป้อมกลาง สังกัดร.23/1 กองทัพบก ได้เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 350 (ช้างศึก) ใกล้ปราสาทตาควาย จังหวัดสระแก้ว ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นขาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้การรักษา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนที่ยังมีความตึงเครียดจากปัญหาการรุกล้ำ
ทั้งนี้พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันนี้(27ส.ค.) เวลา 15.45 น. พลทหารอดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป
โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า นับเป็นเหตุการณ์รวมครั้งที่ 6 และเป็นเหตุการณ์ครั้งที่ 3 ที่เกิดขึ้นหลังจากฝ่ายไทยและกัมพูชาได้มีข้อตกลงหยุดยิงร่วมกัน จึงชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอยู่ตลอด รวมถึงการไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีในอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด จึงนับเป็นการลอบโจมตีเป้าหมายกำลังพลฝ่ายไทยที่เป็นไปอย่างจงใจและมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์
เหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ได้เกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าการใช้อาวุธโดยฝั่งกัมพูชายังคงมีความพยายามอยู่ตลอดในช่วงหลังจากมีข้อตกลงหยุดยิง
จึงเชื่อได้ว่าเรื่องทุ่นระเบิดนี้น่าจะมีการวางแผนใช้กันมาอย่างเป็นระบบตลอดพื้นที่แนวชายแดน เพื่อเจตนานำมาใช้คุกคามทำร้ายฝ่ายไทย โดยเฉพาะจุดเกิดเหตุอยู่ในเขตพื้นที่ภายในเส้นปฏิบัติการฝั่งไทย
ยอมรับว่าพฤติกรรมและการกระทำลักษณะเช่นนี้เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการดำเนินการคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดที่ทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการอยู่ ผ่านกลไกทวิภาคีของทั้งสองประเทศในช่วงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณ หน้าบังเกอร์ 11–12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบเข้ากับ กับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่
1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor
2. จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก
3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บที่ข้อมือซ้าย อาการไม่รุนแรง ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก
ขณะนี้หน่วยที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย
สืบเนื่องจากเหตุการณ์นี้ พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวภายหลังการเข้าร่วมประชุมผู้บัญชาการทหารสูงสุดภูมิภาคอินโด–แปซิฟิก ประจำปี 2568 ที่จังหวัดเพชรบุรี ว่า ไทยได้ใช้เวทีการประชุมชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้แทนจาก 29 ประเทศ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยืนยันว่าไทยปฏิบัติทุกอย่างภายใต้กรอบกติกาสากล มุ่งปกป้องผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชน ไม่ต้องการเห็นการสู้รบ แต่จำเป็นต้องรักษาอธิปไตยของชาติ
พลเอกทรงวิทย์ระบุเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีความพยายามบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ชายแดน จึงต้องใช้โอกาสนี้ยืนยันข้อเท็จจริง เช่น การทำร้ายทหาร–ประชาชน รวมถึงการลักลอบวางทุ่นระเบิดในดินแดนไทย พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากนานาชาติสนับสนุนการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน
ในส่วนของมาตรการป้องกันระยะยาว ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเผยว่า ขณะนี้กองทัพบกอยู่ระหว่างพิจารณาและเริ่มดำเนินการสร้าง “กำแพงถาวร” บริเวณแนวชายแดนในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 และ 2 โดยเมื่อวานนี้ ได้มอบหมายให้เสนาธิการลงพื้นที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนไทย และจะมีการสร้างแนวป้องกันที่แข็งแรงเพื่อยับยั้งการรุกล้ำและปกป้องความปลอดภัยของประชาชน