กรมพัฒน์ ไล่เช็กบิลธุรกิจนอมินี 853 ราย เสียหาย 1.5 หมื่นล้าน ท่องเที่ยว อสังหาเจอเยอะสุด
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า สถิติการดำเนินคดีผู้ประกอบการต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีจัดตั้งธุรกิจตั้งแต่เดือนก.ย.67- 31 ก.ค.68 ได้ดำเนินคดีไปแล้ว 873 ราย สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ 15,587 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ถูกดำเนินคดีส่วนใหญ่เป็นธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง110 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 252 ราย ธุรกิจอีคอมมเมิร์ช 11 ราย ธุรกิจก่อสร้าง 25 ราย และธุรกิจอื่นๆ475 ราย เช่น เหมืองแร่
“ปี 68 กรมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำหนดเป้าหมายการตรวจสอบกลุ่มธุรกิจเสี่ยงที่เข้าข่ายการเป็นนอมินี ซึ่งมีชาวต่างชาติเข้ามาถือหุ้นสัดส่วนตั้งแต่ 0.01% ขึ้นไป จำนวน 46,918 รายทั่วประเทศ โดยล่าสุดในเดือนก.ค.68 ได้รับแจ้งดำเนินคดีนอมินีในกลุ่มอสังหาฯ และก่อสร้างเพิ่มเติมแล้ว โดยหลายจังหวัดก็ตรวจสอบธุรกิจเสร็จแล้วและไม่พบการกระทำผิด เช่น อ่างทอง”
สำหรับเป้าหมายการตรวจสอบต่อเนื่องในปีนี้ จะโฟกัสไป 6 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก 2.ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ 3.ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ขนส่ง และคลังสินค้า 4.ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท 5.ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร และ 6.ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป
นอกจากนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ ยังได้ทำเรื่องเสนอนายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ชุดใหม่ หลังคณะกรรมการชุดเดิม มีองค์ประกอบของคณะกรรมการเปลี่ยนไป ซึ่งหลังจากนี้หากนายกฯ มีคำสั่งแต่งตั้งก็จะเริ่มนัดประชุมได้ทันทีในเดือนก.ย.68 เพื่อติดตามความก้าวหน้าการแก้ปัญหาสินค้าไม่มีคุณภาพอย่างเร่งด่วน พร้อมกับจะมีการพิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการ 2 คณะ ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับเอสเอ็มอีไทย และแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ 2. คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว
นางอรมน กล่าวว่า สถิติจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ใน 7 เดือนของปี 68 (ม.ค.-ก.ค.68) มีจำนวน 51,548 ราย ลดลงจากปีก่อน 2,672 ราย หรือ 4.93% ขณะที่ทุนจดทะเบียน 171,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน2,375 ล้านบาท หรือ 1.41% โดยธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 4,107 ราย 2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3,259 ราย และ 3.ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร 2,118 ราย ส่วนการจัดตั้งธุรกิจใหม่เฉพาะเดือนก.ค.68 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 7,710 ราย เพิ่มขึ้น 9.78% ทุนจดทะเบียนรวม 22,018 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจเลิกกิจการช่วง 7 เดือนปี 68 มีจำนวน 8,069 ราย เพิ่มขึ้น 140 ราย ทุนจดทะเบียนเลิกสะสมอยู่ที่ 50,700 ล้านบาท ลดลง 34,880 ล้านบาท หรือ 40.76 โดยธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 707 ราย 2.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 412 ราย และ 3.ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร 352 ราย ส่วนธุรกิจเลิกกิจการเฉพาะเดือนก.ค.68 มีจำนวน 1,825 ราย เพิ่มขึ้น 357 ราย หรือ 24.32% และมีทุนจดทะเบียนเลิก 20,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,753 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันมีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 2.01 ล้านราย ทุนจดทะเบียนรวม 31.02 ล้านล้านบาท