ปลา 2 ชนิด ที่ไม่ควรกินบ่อย เพราะเสี่ยงต่อการสะสมยาปฏิชีวนะและโลหะหนักในร่างกาย

ในสำรับอาหารของหลายครอบครัวไทย ปลา มักเป็นเมนูสุดโปรด ไม่ว่าจะเป็นปลาช่อนตุ๋นหม้อดิน ปลาทับทิมทอดกรอบ ปลาคาร์ปต้มยำ แค่ได้ยินชื่อก็น้ำลายสอแล้ว แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่ามีปลาบางชนิดที่แฝงไปด้วย อันตราย กินมากไม่เพียงแค่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังอาจเป็นภัยเงียบอีกด้วย

1. ปลาทะเลขนาดใหญ่

ปลาหรูหราบางชนิด เช่น ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ปลาดาบ (ปลากระโทงดาบ) มักถูกยกย่องว่าเป็นปลาที่อุดมด้วยสารอาหาร แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ปลาเหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่มที่มีสารปรอทสะสมในปริมาณสูง เนื่องจากอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร จึงสะสมสารพิษได้มาก หากหญิงตั้งครรภ์หรือเด็กเล็กบริโภคมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อการพัฒนาระบบประสาทและสติปัญญา

2. ปลาที่เลี้ยงโตเร็วผิดปกติ

ปลาบางชนิดถูกเลี้ยงในบ่อให้เติบโตเร็วแบบ ทางลัด ภายในเวลาเพียง 3 เดือนก็สามารถจับขายได้ ซึ่งการเติบโตเร็วขนาดนี้มักมาพร้อมกับการใช้ยาปฏิชีวนะและสารเร่งโตจำนวนมาก นอกจากนี้ปลาพวกนี้มักอาศัยอยู่ใกล้ตะกอนดินก้นบ่อ ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อปรสิตหรือปนเปื้อนโลหะหนัก

วิธีเลือกปลาที่ปลอดภัย

สังเกตสี ปลาสดจะมีเนื้อใส สีเนื้อสดใส หากมีจุดเหลืองหรือซีดขาวควรหลีกเลี่ยง

ดมกลิ่น ปลาสดจะมีกลิ่นคาวอ่อนๆ ถ้ากลิ่นฉุนแรงเกินไป อาจเป็นปลาที่ผ่านการฟอกหรือใช้สารเคมี

ลองกดดู ปลาสดเนื้อจะแน่น กดแล้วเด้งคืน ถ้าเนื้อยวบหรือบุ๋ม แสดงว่าคุณภาพต่ำ

กินปลาอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ?

ควรกินปลาเพียง 2-3 มื้อต่อสัปดาห์ มื้อละประมาณ 100-150 กรัม

กินควบคู่กับผักที่มีวิตามินซีสูง เช่น บร็อคโคลี แครอท เพื่อช่วยขับสารพิษ

ควรเลือกวิธีการทำอาหารที่ นึ่ง หรือต้ม มากกว่าการทอด เพื่อรักษาสารอาหารไว้ได้มากที่สุด

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ควรเลือกปลาขนาดเล็ก ปลาน้ำจืด เช่น ปลาสลิด ปลานิล หรือปลาที่เลี้ยงในระบบปลอดภัย และสามารถเลือกอาหารทะเลอย่างกุ้ง หอยแครง หอยแมลงภู่ ซึ่งให้โปรตีนสูงและมีความเสี่ยงน้อยกว่า

ปลาเป็นอาหารอร่อยก็จริง แต่การกินปลาให้ อร่อยและปลอดภัย ต่างหากคือสิ่งสำคัญ อย่าปล่อยให้มื้ออาหารของครอบครัวกลายเป็น กับดักสุขภาพ เพราะเลือกปลาผิด

ข้อมูลจาก soha

เรียบเรียง สยามนิวส์