30 มิ.ย. จับตา “อนุผลิต” ไฟเขียวเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่
นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” จากมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 . ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการประชุม ได้มีมติและสั่งการให้กรมการข้าว ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ร่วมกับ ธ.ก.ส. จัดทำโครงการและหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง 2568กับกรมส่งเสริมการเกษตรพร้อมรายละเอียดงบประมาณตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 เสนอคณะอนุฯด้านการผลิต ก่อนเสนอ นบข.พิจารณา และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามระเบียบต่อไป
ล่าสุด วันที่ 27 มิถุนายน 2568 นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ส่งหนังสือด่วนที่สุด นัดประชุมวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มี 4 วาระ ซึ่งในวาระที่ 4 มีข้อย่อย 4 เรื่องดังนี้ 1.จะมีพิจารณาเงื่อนไขโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568 2.แนวทางการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวไม่เหมาะสมไปปลูกพืชทดแทนที่ให้มูลค่าสูง 3.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว และ (ร่าง) ข้อเสนอเชิงนโยบายรักษาเสถียรราคาข้าวเปลือกด้วยศูนย์ข้าวชุมชน
นายปราโมทย์ กล่าวว่า หากผลสรุปได้ความคืบหน้าอย่างไรจะมาแจ้งให้ชาวนาทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี ทางรองนายกฯพิชัย ก็รับปากแล้วว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากเกษตรกรได้รับผลกระทบจากราคาข้าวตกต่ำจริง แล้วถ้ามีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ไม่มีผลจะต้องดำเนินนโยบายจากมติ นบข. ยกเว้นยุบสภา เท่านั้น
ด้านแหล่งข่าว นบข. เผย กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งขึ้นทะเบียนนาปรัง (คลิก) มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียน 851,696 ครัวเรือน พื้นที่ 11.85 ล้านไร่ ยังมีเกษตรกรบางส่วนในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร,นครศรีธรรมราช,นราธิวาส,ปัตตานี,พังงา,พัทลุง,ภูเก็ต,ยะลาและสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ กาญจนบุรี,ประจวบคีรีขันธ์ ,เพชรบุรี,ราชบุรี และสมุทรสงครามอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียน ซึ้งการกำหนดกรอบช่วงเวลาในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรนาปรัง ดังนี้
- การปลูกข้าวนาปรัง2568 วันที่ 1 มีนาคม-15 มิถุนายน 2568
- การขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงข้อมูล หลังปลูก 15-60 วัน (ถึงสิงหาคม 2568 คาดว่ายังคงเหลือกลุ่มนี้ประมาณ 65,307.36 ไร่
อย่างไรก็ดีทางกรมส่งเสริมการเกษตรได้แจ้งปัญหาไปแล้วว่าหากพิจารณาความเดือดร้อนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนไม่ทันกรอบระยะเวลาวันที่ 30 เมษายน 2568 ที่กำหนดจะทำอย่างไร เนื่องจากก็จัดเป็นข้าวนาปรัง เช่นเดียวกัน
ขณะที่ แหล่งข่าว ธ.ก.ส. กล่าวว่า เม็ดเงินที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาปรัง มีเพียงพอ แล้วพร้อมจ่ายทันที หลังมีมติ ครม.เห็นชอบออกมา ซึ่งก่อนหน้าโครงการดังกล่าว ทางกรมการค้าภายใน ในฐานะเลขานุการ ได้ส่งหนังสือติดตามสอบถามความคืบหน้าในการดำเนินการถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เร่งดำเนินงานตามนโยบาย โดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากราคาข้าวเปลือกตกต่ำ
สำหรับขั้นตอนตรวจสอบสิทธิผ่านออนไลน์เงินช่วยเหลือนาปรัง มี 3 ขั้นตอนดังนี้
คลิกไปที่เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com
กรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก
หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก จะมีรายละเอียดเปิดบัญชีจำนวนเงิน และ โครงการช่วยเหลือที่ได้รับ