เงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค. สกสค.จ่าย 9 แสนทุกราย เริ่มงวด ก.ค.68
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)ประกาศว่าเงินสงเคราะห์ครอบครัวช.พ.ค. (การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา) ต่ำกว่า 900,000 บาท ทางสกสค.จะจ่าย 900,000 บาททุกราย เริ่มตั้งแต่งวดเดือน 07/2568 เป็นต้นไป
สำหรับการขอรับเงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค. จะต้องมีเอกสารและเงื่อนไขดังต่อไปนี้
เอกสารของผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัว
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาใบสำคัญการสมรส/ใบสำคัญการหย่า (ถ้ามี)
- สำเนาใบเปลี่ยนแปลง ชื่อ - สกุล (ถ้ามี)
- สำเนาใบ คร.2 (ถ้ามี)
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย
- สำเนาใบมรณบัตรของผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวที่ถึงแก่ความตายไปก่อน (ถ้ามี)
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นบุตรบุญธรรม หรือ หนังสือรับรองบุตรนอกสมรสที่บิดารับรองแล้ว (ถ้ามี)
- สำเนาเอกสารอื่นๆ เช่นหนังสือมอบอำนาจ
หมายเหตุ
- กรณีผู้มีสิทธิรับเงินฯ เป็นบุคคลสาบสูญ ให้ใช้คำสั่งศาลที่มีคำสั่งให้เป็นบุคคลสาปสูญ
- กรณีผู้มีสิทธิรับเงินฯ เสียชีวิตในต่างประเทศ ให้นำใบมรณบัตรจากสำนักทะเบียนกงสุลไทยประจำประเทศนั้นๆโดยมีนายทะเบียนสถานกงสุลเป็นผู้ลงนามรับแจ้งการตาย (เป็นฉบับภาษาไทย)
อนึ่งสมาชิกครอบครัว หรือ หลายคนที่ยังไม่รู้ว่าช.พ.ค.คืออะไร ส่วน ช.พ.ส. คืออะไร"ฐานเศรษฐกิจ"มัดรวมคำตอบมานำเสนอดังนี้
- ช.พ.ค. หมายความว่า การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา
- ช.พ.ส. หมายความว่า การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่ความตาย
การสมัครเป็นสมาชิก ช.พ.ค.และ ช.พ.ส. ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง สมัครผ่านช่องทางใด
1. ผู้ที่สมัครสมาชิก ช.พ.ค. - ช.พ.ส. ต้องมีอายุไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์ และดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้
(1) ครู
(2) คณาจารย์
(3) ผู้บริหารสถานศึกษา
(4) ผู้บริหารการศึกษา
(5) บุคลากรทางการศึกษาอื่น
(6) ผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
(7) สมาชิกคุรุสภา (เป็นสมาชิกคุรุสภาก่อนวันที่ 12 มิ.ย. 2546)
สมัครสมาชิก ช.พ.ค. – ช.พ.ส. ด้วยตนเอง ณ สำนักงาน สกสค จังหวัด ที่ท่านสังกัด
อัตราการชำระเงินในการสมัครเข้าเป็นสมาชิก ช.พ.ค. – ช.พ.ส.
- สมัครเข้าเป็นสมาชิก ช.พ.ค. ค่าสมัคร 50 บาท เงินสงเคราะห์ล่วงหน้า 100 บาท
- สมัครเช้าเป็นสมาชิก ช.พ.ส. ค่าสมัคร 50 บาท เงินสงเคราะห์ล่วงหน้า 50 บาท
อนึ่ง เงินสงเคราะห์ล่วงหน้า เพื่อสำรองไว้เป็นค่าจัดการศพและจะคืนให้เท่าที่สมาชิก ช.พ.ค. ผู้นั้นไม่ตกอยู่ภายใต้ความผูกพันที่จะต้องจ่ายเงินสงเคราะห์ตามที่จ่ายไว้ล่วงหน้า
สิทธิในการเป็นสมาชิก ช.พ.ค. และ ช.พ.ส. จะมีผลตั้งแต่เมื่อไหร่
- นับตั้งแต่วันที่เจ้าหน้าที่รับใบสมัครและได้รับชำระเงินค่าสมัคร เงินสงเคราะห์ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งคุณสมบัติครบถ้วนเป็นไปตามระเบียบ ช.พ.ค. ที่กำหนด
สมาชิก ช.พ.ค. และ ช.พ.ส. จะต้องชำระเงินสงเคราะห์งานศพ ศพละเท่าไร และต้องชำระเงินสงเคราะห์รายศพอย่างไรบ้าง
- ศพรายละ 1 บาท สมาชิกจะต้องชำระเงินสงเคราะห์รายศพให้แก่ทายาทเพื่อนสมาชิกที่ถึงแก่ความตายทุกๆ เดือน
สมาชิก ช.พ.ค. และ ช.พ.ส. จะชำระเงินสงเคราะห์รายศพโดยวิธีใด
- หักเงินเดือนหรือรายได้ ณ ที่จ่าย (กรณีที่ต้นสังกัดหน่วยงานของท่านมีหน่วยหักเงิน)
- ชำระด้วยตนเอง (กรณีหน่วยงานของท่านไม่มีหน่วยหักเงิน)
- หักผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย (กรณีหน่วยงานของท่านไม่มีหน่วยหักเงิน)
ช่องทางการตรวจสอบสถานะการเป็นสมาชิก ช.พ.ค. และ ช.พ.ส. หรือตรวจสอบการชำระเงินต้องทำอย่างไรบ้าง
- ตรวจสอบข้อมูลผ่านเว็บไซต์กิจการ ช.พ.ค. – ช.พ.ส. https://cpkscheck.otep.go.th/ เลือก สมาชิก ช.พ.ค./สมาชิก ช.พ.ส. และกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน
- สำนักงาน สกสค. ที่ท่านสังกัดอยู่
การระบุผู้มีสิทธิ์รับเงินสงเคราะห์ครอบครัว ช.พ.ค.สามารถให้ใครได้บ้าง
ระบุสิทธิให้ผู้ใดก็ได้ โดยสมาชิกระบุความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเป็นไปตามระเบียบ ช.พ.ค. ข้อ 8 ดังนี้
“ข้อ 8 ครอบครัวของสมาชิก ช.พ.ค. หมายถึง บุคคลตามลำดับ ดังนี้
(1) คู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย บุตรบุญธรรม บุตรนอกสมรสที่บิดาจดทะเบียนรับรองแล้ว และบิดามารดาของสมาชิก ช.พ.ค.
(2) ผู้อยู่ในอุปการะอย่างบุตรของสมาชิก ช.พ.ค.
(3) ผู้อุปการะสมาชิก ช.พ.ค.
สิทธิประโยชน์ที่ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวของสมาชิก ช.พ.ค.จะได้รับเมื่อสมาชิกถึงแก่ความตายมีอะไรบ้าง
- จ่ายเงินค่าจัดการศพ จำนวน 200,000 บาท
- เงินสงเคราะห์ครอบครัวประมาณ 700,000 บาท
ทายาทของสมาชิกจะได้รับเงินสงเคราะห์ครอบครัวเมื่อใด
- ในกรณีที่ไม่มีการกู้เงินจะได้รับเงินหลังจากประกาศรายชื่อผู้ถึงแก่ความตายประมาณ 3 เดือน
- ในกรณีที่มีภาระผูกพันเงินกู้กับธนาคารจะได้รับเมื่อธนาคารตรวจสอบการปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว
ในกรณีที่สมาชิก ช.พ.ค.ถึงแก่ความตายและมิได้ทำหนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวช.พ.ค.ไว้ให้แก่ผู้ใด หรือไม่ได้ระบุผู้มีสิทธิรับเงินไว้ จะจ่ายให้กับใคร
กรณีที่สมาชิก ช.พ.ค. ไม่ได้ระบุผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัว จะจ่ายเงินสงเคราะห์ครอบครัวให้แก่บุคคลในครอบครัวของสมาชิกตามข้อ 8 แห่งระเบียบ ช.พ.ค. พ.ศ. 2561 โดยแบ่งจ่ายดังนี้
- กรณีสมาชิก ช.พ.ค. มีคู่สมรส และมีบุตรไม่เกินสองคน เงินสงเคราะห์ครอบครัวแบ่งออกเป็นสองส่วน ให้เป็นของคู่สมรสหนึ่งส่วน และเป็นของบุตรหนึ่งส่วน
- กรณีสมาชิก ช.พ.ค. มีคู่สมรส และมีบุตรเกินกว่าสองคน เงินสงเคราะห์ครอบครัวแบ่งออกเป็นสามส่วน เป็นของบุตรสองส่วน
- กรณีสมาชิก ช.พ.ค. มีคู่สมรส และมีบุตรไม่เกินเกินกว่าสองคน และมีบิดามารดา เงินสงเคราะห์ครอบครัวแบ่งออกเป็นสองส่วน ให้เป็นของคู่สมรสหนึ่งส่วน เป็นของบิดามารดาและบุตรหนึ่งส่วน
- กรณีสมาชิก ช.พ.ค. มีคู่สมรส และมีบุตรเกินกว่าสองคน และมีบิดามารดา เงินสงเคราะห์ครอบครัวแบ่งออกเป็นสามส่วน ให้เป็นของคู่สมรสหนึ่งส่วน เป็นของบิดามารดาและบุตร สองส่วน
- กรณีสมาชิก ช.พ.ค. มีคู่สมรสและมีบิดามารดา เงินสงเคราะห์ครอบครัวแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ให้เป็นของคู่สมรสสามส่วน เป็นของบิดามารดาหนึ่งส่วน
- กรณีสมาชิก ช.พ.ค. มีบุตร และมีบิดามารดา เงินสงเคราะห์ครอบครัว แบ่งออกเป็นห้าส่วนให้เป็นของบุตรสี่ส่วน ให้เป็นของบิดามารดาหนึ่งส่วน
- ในกรณีผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวเป็นผู้อยู่ในอุปการะอย่างบุตร ให้เงินสงเคราะห์ครอบครัวทั้งหมดตกเป็นของผู้อยู่ในอุปการะอย่างบุตร หากมีผู้อยู่ในอุปการะอย่างบุตรหลายคน ให้ได้รับส่วนแบ่งคนละหนึ่งส่วนเท่า ๆ กัน
- ในกรณีผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวเป็นผู้อุปการะ ให้เงินสงเคราะห์ครอบครัวทั้งหมด ตกเป็นของผู้อุปการะ หากมีผู้อุปการะหลายคนให้ได้รับส่วนแบ่งคนละหนึ่งส่วนเท่า ๆ กัน
หมายเหตุ : เงินส่วนแบ่งในส่วนของบุตร รวมทั้งในส่วนของบิดามารดาและบุตร ทุกกรณีให้แบ่ง ดังต่อไปนี้
(1) เงินส่วนแบ่งในส่วนของบุตร ให้บุตรได้รับส่วนแบ่งคนละหนึ่งส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ยังคงศึกษาอยู่และมีอายุไม่เกินยี่สิบห้าปี ให้ได้รับคนละสองส่วน
(2) เงินส่วนแบ่งในส่วนของบิดามารดาและบุตรให้บิดามารดาและบุตรได้รับส่วนแบ่งคนละหนึ่งส่วนเท่า ๆกัน เว้นแต่บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ยังคงศึกษาอยู่และมีอายุไม่เกินยี่สิบห้าปี ให้ได้รับคนละสองส่วน
ที่มาข้อมูล