แกะรอย ‘ฮุน เซน’ ทุบโต๊ะ ใครคือ ‘นายกฯใหม่’ ใน 3 เดือน
สำนักข่าว เฟรซนิวส์ ของกัมพูชา รายงานเมื่อ 24 มิ.ย.ว่า ฮุน เซน บิดานายกฯกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า โพสต์ของผมในวันนี้ เพื่อทำความเข้าใจว่า มีคนไทยเข้ามาก่อกวนเพจเฟซบุ๊กของผม
จากการแทรกแซงของพวกเขา เราสามารถประเมินได้ว่าผู้นำในกรุงเทพฯ ได้ออกคำสั่งที่ชัดเจนเพื่อทำเช่นนี้ การยั่วยุนี้ ไม่ใช่แค่การบุกรุกดินแดนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแทรกแซงบัญชีเฟซบุ๊กของผมด้วย
ตีความได้ว่านี่เป็นความพยายามที่จะเปลี่ยนจุดสนใจความขัดแย้งภายในของพวกเขา ไปสู่การเผชิญหน้ากับกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากเพียงใด การต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายในก็ไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ
ผมคาดว่าประเทศไทยจะมีนายกฯคนใหม่ ภายใน 3 เดือนข้างหน้านี้ และผมก็รู้แล้วว่า ใครจะเป็นนายกฯคนใหม่ แต่ผมจะไม่เปิดเผยในตอนนี้ ปล่อยให้พวกเขาสงสัยไป
ผมก็เรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขข้อขัดแย้งภายในของตนเอง แทนที่จะมารบกวนผม
เท่ากับว่า ฮุน เซน ทุบโต๊ะฟันธงไปแล้วว่า ประเทศไทยจะมีนายกฯคนใหม่ ใน 3 เดือนข้างหน้า แถมรู้ด้วยว่านายกฯคนใหม่เป็นใคร
น่าคิดว่า เหตุการณ์ต่าง ๆ จะเป็นไปตามวาทะของฮุน เซน หรือไม่
ก่อนหน้านั้น ฮุน เซน นำเอาคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์กับ “นายกฯอิ๊งค์” มาเผยแพร่ เป็นข่าวเกรียวกราว
ในประเทศไทย เกิดความเคลื่อนไหวจากหลายกลุ่ม
ไม่ว่าจะเป็น สว. 30 คน นำโดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ประธานกรรมาธิการการทหารและความมั่นคง วุฒิสภา ร้องให้ถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ออกจากตําแหน่งนายกฯ โดยระบุว่าขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) (5)
นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ลงนามและส่งหนังสือไปศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
โดยศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดประชุมพิจารณาในวันที่ 1 ก.ค. นี้
ส่วน ป.ป.ช. ได้เรียกประชุมเมื่อ 23 มิ.ย. มีมติเอกฉันท์ให้รับเรื่องร้องเรียนกรณี น.ส.แพทองธาร ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีคลิปเสียง
โดยสั่งถอดเทปบทสนทนา และจัดทำคำแปลภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานทางคดี ตลอดจนเรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้อง
และให้สำนักงาน ป.ป.ช. รายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมรับทราบเป็นระยะ
นอกจากนี้ ยังมี นายสกนธ์ การกระสัง ยื่นหนังสือถึง กกต. ให้ส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล เพิกถอนสิทธิสมัครเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด
โดยอ้างว่า นางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี อาจกระทำผิดมาตรา 52, 161 และ 164 ของรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา อาทิ 119, 120 และ 157
โดยใช้หลักฐานจากคลิปเสียงดังกล่าว
คดีนี้ มีความเห็นจาก นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวี ระบุว่า ศาลจะต้องมีการเร่งพิจารณา สถานการณ์ชัดเจนว่า เข้าลักษณะ Conflict ระหว่างประเทศ เกิดกระแสที่จะขัดแย้งกันรุนแรง ประชาชนเรียกร้องในทิศทางที่ว่า เราต้องเข้มแข็ง
แล้วข้อมูลเปิดเผยมาว่า นายกฯไปออดอ้อนแบบนั้น เหมือนแสดงท่าทีเป็นรองคู่ขัดแย้ง กระทบถึงเขตแดนของประเทศ และยอมรับว่า พูดจริง
อย่างนี้ไม่มีอะไรเคลือบแคลงสงสัย เหลืออยู่จุดเดียว เอาคำแปลที่เป็นครบสมบูรณ์มากที่สุด ประกอบการพิจารณา น่าจะพอที่จะวินิจฉัยขั้นต้น ขั้นแรกได้เลยว่า จะรับหรือไม่รับคำร้อง
ก่อนจะพิจารณาข้อกล่าวหาต่าง ๆ ผู้ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ไว้ชั่วคราวก่อน จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด
ข้อมูลเวลานี้ชี้ให้เห็นว่า นายกฯไม่เข้มแข็งพอที่จะดูแลประเทศชาติในยามศึกสงคราม หรือขัดแย้งอย่างรุนแรง ท่านนับญาติกับประเทศคู่ขัดแย้ง ถ้าท่านหยุดปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลไม่กระเทือน รองนายกฯก็จะรักษาการแทน แม้ไม่ใช่ตัวจริง แต่ท่านเข้มแข็งมากกว่าแน่ ๆ
และหากเกิดการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็จะไม่สามารถยุบสภาได้
และกล่าวว่า แม้จะมีใครกล่าวหาว่าเป็นนิติสงคราม ก็ยังดีกว่าให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร หรือการปลุกระดมประชาชน 2 ฝ่ายเป็นสงครามกลางเมืองบนท้องถนน ไปทางกฎเกณฑ์กติกาดีกว่า
ขณะที่ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ว่าผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องคลิปเสียงจะส่งผลกระทบในหลาย ๆ เรื่อง นายนครินทร์กล่าวว่า แน่นอนว่าหนักใจ แต่ในเมื่อเราอยู่ตรงนี้ก็ต้องทำตามหน้าที่
นั่นคือกรณีคลิปเสียง ในมุมมองขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แกะรอย ‘ฮุน เซน’ ทุบโต๊ะ ใครคือ ‘นายกฯใหม่’ ใน 3 เดือน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net