โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คลังชี้ทุบศก.หมื่นล้าน หั่นภาษีทรัมป์ทัน1ส.ค.

ไทยโพสต์

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"พิชัย" ประเมินเหตุขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชากระทบเศรษฐกิจหมื่นล้านบาท รับงบกระตุ้น 2.5 หมื่นล้านอาจไม่พอ จ่อดึงงบส่วนอื่นมาเติม ยันสหรัฐปลดล็อกเดินหน้าเจรจาภาษีต่อ มั่นใจข้อเสนอดูดีทันเส้นตาย 1 ส.ค. สมาคมแบงก์เร่งประสาน กกร.- ธปท.-สภาพัฒน์-คลัง ออกมาตรการระยะสั้น-ระยะยาว ปลุก ศก.ใน 1 เดือน

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งเก็บข้อมูลเพื่อประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย ขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ยืดเยื้อยาวนานขนาดไหน หากประเมินในเบื้องต้นตั้งแต่เริ่มมีการโยกย้ายหรืออพยพคน สถานการณ์น่าจะดำเนินมาหลักสัปดาห์ ดังนั้นหากประเมินแบบเร็วๆ โดยไม่นับผลกระทบทางการค้า น่าจะอยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันรัฐบาลยังมีงบในการกระตุ้นเศรษฐกิจเหลือ 4.2 หมื่นล้านบาท จากวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจัดสรรไปแล้ว 1.15 แสนล้านบาท โดยวงเงินที่เหลือนั้นเบื้องต้นมีการจัดสรรไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจะเหลืออีกราว 2.5 หมื่นล้านบาทที่จะสามารถนำมารองรับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาได้ แต่เบื้องต้นมองว่าอาจจะยังไม่เพียงพอ ดังนั้นคงต้องมีการดึงงบประมาณในส่วนอื่นเข้ามาเสริมด้วย

“ผมต้องรวบรวมเอางบมาใช้ ซึ่งรวมถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย เพราะจากสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จะต้องมีการก่อสร้าง ซ่อมแซมบ้านเรือนอีกเยอะมาก ดังนั้นงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีอยู่ 2.5 หมื่นล้านบาทอาจจะไม่พอ ก็อาจจะต้องเอางบที่อื่นมาช่วยด้วย ส่วนถามว่าจะต้องมีการกู้เงินเพิ่มหรือไม่ เบื้องต้นยังไงก็ต้องใช้เงินตามกรอบงบประมาณ ส่วนการกู้เงินก็ต้องกู้ตามแผนของงบประมาณด้วยเช่นกัน” นายพิชัยระบุ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่าอาจจะยังมีการยิงต่อสู้กันอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าหลังจากนี้สถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน

นายพิชัยยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐอเมริกาว่า ก่อนหน้านี้ทางสหรัฐได้ขอหยุดการเจรจาทันที ในช่วงที่มีการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา แต่หลังจากมีการเจราจาหยุดยิง ทางสหรัฐได้กลับมาเดินหน้าเจรจาภาษีกับไทยต่อทันที หน่วยงานที่รับผิดชอบทำงานกันต่อไป

ส่วนการยื่นข้อเสนอต่างๆ ของไทยนั้น ดำเนินการไปแล้วกว่า 99.99% หลังจากนี้คงขึ้นอยู่กับทางสหรัฐว่าจะพิจารณาอย่างไร โดยก่อนหน้านี้ไทยได้มีการพิจารณาปรับปรุงเงื่อนไขและยื่นให้กับทางสหรัฐไปเกือบหมดแล้ว อาจจะเหลือในส่วนของร่างสัญญาที่ไม่จำเป็นต้องรีบดำเนินการให้เสร็จ และเมื่อพิจารณาท่าทีของสหรัฐหลังจากได้รับข้อเสนอของไทยแล้วน่าจะออกมาในทิศทางที่ดี

เมื่อถามว่า หากสหรัฐพิจารณาลดภาษีนำเข้าให้ไทยในระดับ 25% นั้น รับได้หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากเห็น 25% ยังยืนยันว่าข้อเสนอของไทยเป็นข้อเสนอที่ดูดี และจะเป็นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย

"วันนี้ยืนยันว่าสหรัฐสั่งให้กลับมาเจรจากันต่อแล้ว แปลว่าเขาปลดล็อกให้เราแล้ว ส่วนหลังจากนี้ยังเหลืออีก 3 วัน จนกว่าจะถึงวันที่ 1 ส.ค. ก็อยากให้มาดูกัน ตรงนี้เป็นอะไรที่น่าลุ้น ถ้าไม่ทันเขาก็อาจจะเลื่อนให้” รองนายกฯ และ รมว.การคลังระบุ

เมื่อถามว่า นายพิชัยเองจะต้องเดินทางไปสหรัฐด้วยหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูก่อนว่าผลเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าขณะนี้ประธานาธิบดีสหรัฐได้มอบให้ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้เหลือเวลา 3 วัน ซึ่งอาจประกาศก่อนวันที่ 1 ส.ค. ก็ได้ อยู่ประมาณนี้ และคิดว่าเราไม่ควรจะโดน 36% แน่นอน

ทางด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า ปัจจัยเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐจะมีแรงกดดันมากขึ้นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะผลกระทบมีทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่อกลุ่มซัพพลายเชนต่างๆ การปรับตัวจากการทุ่มตลาด (ดัมปิ้ง) การเปิดนำเข้าในรูปแบบที่กำแพงภาษีลดลง และผลกระทบต่อการจ้างงาน

ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทยได้ร่วมมือกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และได้ประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในการเร่งพิจารณาออกมาตรการระยะสั้นและระยะยาวในการฟื้นตัวและขับเคลื่อนเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ให้ครบทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรม โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือน

“เราต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็น Perfect Storm ซึ่งการช่วยเหลือจะต้องมีทั้งการประคับประคองไปจนถึงการฟื้นตัว ซึ่งการฟื้นตัวจะไม่ใช่รูปแบบเดิม ต้องเป็นรูปแบบใหม่เลย เราเข้าใจว่าทรัพยากรของประเทศมีจำกัด เราเห็นในเรื่องแรงกดดันของหนี้ครัวเรือน หนี้สาธารณะ โครงสร้างเศรษฐกิจนอกระบบ ดังนั้นจึงต้องเร่งเข้ามาคิดพิจารณาในวาระแวดล้อม จะทำอย่างไร มีมุมไหนที่เราจะแข่งขันได้ ด้วยรูปแบบอย่างไร และต้องมีการลงทุนใหม่แบบไหน ไม่ใช่แค่การลงทุนเพิ่ม แต่เป็นการลงทุนเพื่อทำให้ของเก่ายังคงอยู่ได้ และอยู่ได้ในรูปแบบใหม่ ในตลาดใหม่ ในโครงสร้างการค้า กฎ กติกาโลกแบบใหม่ ทั้งหมดเป็นเรื่องใหม่ทั้งสิ้น เราต้องเร่งลำดับความสำคัญของแต่ละภาคส่วน ไม่ว่าจะภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเงินและบริการ” นายผยงระบุ.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘เครือข่ายกัญชา’ ร้องนายกฯ ปลด ‘สมศักดิ์’ พ้น รมว.สธ. ออกประกาศกัญชาเอื้อกลุ่มทุน

28 นาทีที่แล้ว

‘เนติบริกร’ ให้การบอก ‘ทักษิณ’ ไม่ได้สิทธิพิเศษแต่เป็นนักโทษสำคัญเลยต้องไปดูแล

29 นาทีที่แล้ว

กองทัพไทยแนะรัฐบาลกัมพูชาหันกลับไปดูแลทหารตัวเองก่อนกล่าวหาใคร

37 นาทีที่แล้ว

ถอดบทเรียนอนาคต: เมื่อพรรคส้มเป็นรัฐบาล และกัมพูชาพร้อมรบเต็มรูปแบบ

37 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

‘ชีวิตดีๆ ในยุคเศรษฐกิจรุ่งเรือง’ แฮชแท็กโหยหาอดีตของคนหนุ่มสาวจีน ที่ครั้งหนึ่งเคย ‘เลือกงานได้’ แต่ปัจจุบันกลับหาความมั่นคงไม่ได้

THE STANDARD

“วันนอร์” ร่อนถ้อยแถลงการณ์ถึง IPU ตอบโต้ ปธ.สภากัมพูชา

สำนักข่าวไทย Online

“เจ้าจ๊อด” ยังอยู่! ทำความรู้จักตูบ 4 ขาแห่งปราสาทตาเมือนธม ขวัญใจแนวหน้า

WeR NEWS

สลด! จ.สุพรรณบุรี ลักลอบผลิตพลุระเบิดดับ 8 ราย

อีจัน

เก๋งปาดหน้าวิน จยย. บานปลายถึงโรงพัก ชาวเน็ตแห่ชมกระจกสุดแกร่ง

Manager Online

ด่วน! โรงงานพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บหลายราย

The Bangkok Insight

(คลิป)สคร.7 ขอนแก่นผนึกโรงพยาบาลเขาวง ค้นหากลุ่มเสี่ยงโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี

Manager Online

"กองทัพไทย" แสดง 5 จุดยืน หลังรัฐบาลกัมพูชา ปฏิเสธข้อเท็จจริง "ละเมิดหยุดยิง"

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...