เปิดชื่อเต็ม 2 สีกา เตรียมให้ปากคำบิ๊กเต่า ปมเปย์ 10 ปี เรื่องมาแดงยังปริศนา
ไม่ต้องย่อ ลุ้นคดีเส้นเงิน ทิดสฤษดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ บิ๊กเต่า รองผบช.ก. เคลียร์ชัดเตรียมเรียก 2 สีกาน้ำตาล สีกาน้ำหวาน
วันนี้ (22 ก.ค.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาอัปเดตความคืบหน้ากรณีเอาผิดกับอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ หรือ “ทิดสฤษดิ์” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขา พร้อมขอออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและเจ้าคณะจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. แต่จนถึงตอนนี้จากการไล่ตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งการลงพื้นที่ปที่วัดจ.นครสวรรค์ การรับฟังข้อมูลจากพระเลขาฯ ก็ยิ่งทำให้คดีนี้เริ่มชัดเจนขึ้นตามลำดับ
บิ๊กเต่ายังบอกด้วยว่า นอกจากเคสสีกากอล์ฟและเคสอดีตพระผู้ใหญ่ที่นครสวรรค์แล้ว ตำรวจยังได้รับเรื่องร้องเรียนอีกเกือบ 200 เรื่อง ซึ่งกระบวนการทุกอย่างกำลังอยู่ในขั้นตอนของการกลั่นกรองโดยละเอียด และเจ้าหน้าที่ยังได้ขอข้อมูลจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในเคสที่ดำเนินคดีกับพระทั้งหมด ทั้งคดีที่เสร็จแล้วและคดีที่ยังไม่เสร็จ ในช่วง 5 ปีย้อนหลังเพื่อนำมาตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ดีในส่วนความคืบหน้าคดีความการเอาผิดกับทิดสฤษดิ์ เรื่องเส้นเงินทุจรติวัดนครสวรรค์จริงหรือไม่นั้น
ล่าสุดมีรายงานว่าสำหรับสีกาทั้ง 2 ราย ปัจจุบันหลักฐานในมือเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุชัดเจนแล้วว่า โดยอ้างอิงข้อมูลจากเนชั่นทีวีระบุ ทีมชุดทำงานของบิ๊กเต่ายืนยันมีเส้นทางการเงินโอนไปที่ปลายทางของ “สีกาน้ำตาล” กับ “สีกาน้ำหวาน”
ส่วนรายอื่นๆ ยังคงมีการสืบในทางลับ รวมถึงเจ้าของร้านดังอย่าเพิ่งดีใจ พบมีเส้นทางการเงินโยงกับ “ทิดสฤษดิ์” เเต่ต้องไปพิสูจน์ว่า จ่ายให้กันในเรื่องใด ล่าสุดมีการรวบหลักฐาน ได้เอกสารหลายอย่าง โดยจะมีการตรวจสอบเชิงลึกต่อไป
ขณะที่ในส่วนการลงพื้นที่เพื่อรวบรวมหลักฐานเอาผิดเกี่ยวกับเส้นเงินบาป วานนี้ (21 ก.ค.) ตำรวจปปป.ได้ไปตรวจสอบข้อร้องเรียนการทุจริต เงินบริจาคก่อสร้างศาสนสถาน จ.นครสวรรค์ โดยมีการเชิญพระครูสุธีธรรมบัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ หรือ “พระเลขา” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ เพื่อขอเข้าทำการตรวจสอบรายละเอียดเส้นทางการเงินเเละการดำเนินโครงการสร้างพุทธอุทยานที่อดีตเจ้าอาวาสเป็นประธานการจัดสร้าง เเต่เงินบริจาคไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์จนเกิดข้อครหานำไปแอบเลี้ยงดูสีกาถึง 2 คนหรือไม่
จากการการตรวจค้น อาทิ สำนักงานวิทยาลัยสงฆ์ ศูนย์บัณทิตศึกษา อาคารรหอสมุดเทคโลยีสารสนเทศ เเละจุดสำคัญบริเวณองค์พระพุทธรูปศรีสรรพัญญู ที่เดินขึ้นไปสำรวจพระรูปเเละในฐานพระพุทธรูป ทำให้ได้ยิ่งเห็นความทรุดโทรม การปล่อยทิ้งร้างโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์
เท่านั้นไม่พอ เมื่อเช็กไปยังบัญชีรายรับ-รายจ่าย โดยเอ็กซเรย์ย้อนหลังไป 10 ปีก็พบว่า วัดนครสวรรค์มีเอกสารบางปีไม่ครบถ้วน จากนี้จึงจำเป็นต้องตรวจสอบความเชื่อมโยงกับบุคคลภายนอก ตอนนี้พบสีกามาพัวพัน 4-5 ราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินของวัด ด้วยเหตุนี้จึงมีการสั่งห้ามเคลื่อนย้ายเอกสารพร้อมกับเตรียมจะเรียนเชิญคณะกรรมการไปจนไวยาวัจกรมาให้ข้อมูล โดยหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องความผิดปกติของเส้นเงินวัดก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
ส่วนตอนที่ซักถามพระครูสุธีธรรมบัณฑิต พระเลขาฯ วัดนครสวรรค์ ถึงสีกาอดีตผู้อำนวยการกรณีที่เจ้าตัวลาออกนั้นมาจากสาเหตุใดกันแน่ ? ซึ่งพระเลขาชี้เเจงเพียงสีการายนี้ลาออกเเค่ตำเเหน่ง “ผู้อำนวยการ” เเต่สถานะอาจารย์ยังคงมีอยู่ โดย “สีกาน้ำตาล” มาดูเเลบัญชีของวิทยาลัยเพราะจบด้านบัญชี เเต่เหตุที่ลาออกเนื่องจากการจัดการบริหารงบประมาณเเละรายได้ในการจัดการศึกษาไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในวิทยาเขต
ทั้งนี้ยอดเงินในบัญชีของวัดนครสวรรค์ทั้ง 5 เล่ม ปัจจุบันมียอดเงินของวัดรวมกันเหลือแค่ราว 1 ล้านบาทเศษเท่านั้น จากปกติที่มักจะมีติดบัญชีสูงถึง 50 ล้านฯ รวมถึงสิ่งที่น่าสงสัยซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียด คือ เหตุใดการที่พระสงฆ์มีสีกาเข้ามาเกี่ยวข้องเป็น 10 ปีจึงเพิ่งมาปรากฏเรื่องราว ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องน่าสงสัยอื่น ๆ ที่ต้องดำเนินการ ได้แก่ในส่วนของ มจร. การสร้างพุทธอุทยาน ที่ยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งที่เงินบริจาคจำนวนมาก และเงินในบัญชีเหลือน้อยมาก บ่งบอกถึงความผิดปกติ , เงินบริจาค , การแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน และเงินบริจาคจากวัดห้วยด้วน ที่มอบให้อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบจำนวนเงินบริจาคทั้งหมด.
อ่านข่าวเพิ่มเติม