โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ความพร้อมระบบการศึกษาไทยในการบูรณาการเทคโนโลยี AI อย่างยั่งยืน

The Story Thailand

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้สร้างจุดเปลี่ยนที่สำคัญ (Disruption) ต่อระบบการศึกษาทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพมหาศาลในการสร้างการเรียนรู้เฉพาะบุคคล (Personalized Learning) และเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผู้สอน แต่ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดความท้าทายด้านจริยธรรม การลอกเลียนผลงาน (Plagiarism) และการบั่นทอนทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) สถานการณ์ปัจจุบันจึงเปรียบเสมือนทางแพร่งสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันหาทิศทางที่ถูกต้อง

จอห์น รัตนเวโรจน์ ประธาน D Tech Association ได้ให้ทรรศนะในงาน Bangkok AI Week ว่า ปัญหาเชิงโครงสร้างที่สำคัญที่สุด เกิดจากความเข้าใจที่จำกัดอยู่แค่ "ความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต" (Internet Safety) ซึ่งเป็นเพียงการป้องกันภัย แต่แก่นแท้ของ "การเป็นพลเมืองดิจิทัล" (Digital Citizenship หรือ DQ) นั้นคือการสร้างทักษะเชิงรุก ทักษะดังกล่าวเริ่มต้นจากระดับพื้นฐาน คือความสามารถในการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ ปลอดภัย และมีจริยธรรม ซึ่งรวมถึงการเข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์และการตรวจสอบข้อมูล จากนั้นจึงต่อยอดสู่ระดับประยุกต์ คือการก้าวจากการเป็นผู้เสพเนื้อหาไปสู่การเป็นผู้สร้าง โดยใช้ AI เป็นเครื่องมือเปลี่ยนไอเดียให้เป็นจริง และท้ายที่สุดคือการพัฒนาสู่ ระดับสูง ซึ่งหมายถึงการมีขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) และต่อยอดทักษะไปสู่การเป็นผู้ประกอบการที่สร้างนวัตกรรมได้จริง หากขาดรากฐานความเข้าใจในระดับแรก การใช้ AI ในระดับที่สูงขึ้นก็จะปราศจากกรอบจริยธรรมชี้นำ ซึ่งเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่ง

สถานการณ์เชิงประจักษ์ในรั้วโรงเรียนได้บ่งชี้ถึงภาวะสุญญากาศทางนโยบายและความไม่พร้อมในทางปฏิบัติอย่างชัดเจน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นผ่านการที่ครูเกือบ 50% เลือกกลับไปใช้การบ้านแบบเขียนด้วยมือซึ่งเป็นมาตรการเชิงรับ และแม้ว่าครู 6 ใน 10 คนจะมองเห็นศักยภาพของ AI แต่ก็ยังเผชิญกับภาวะ "ดาบสองคม" คือเห็นประโยชน์แต่กังวลถึงผลเสียที่ไม่มีแนวทางป้องกันที่ชัดเจน ทั้งหมดนี้ยิ่งน่ากังวลเมื่อพบว่าโรงเรียนมากกว่า 1 ใน 4 ยังขาดนโยบายรองรับ ทำให้การปฏิบัติในแต่ละห้องเรียนเป็นไปอย่างสะเปะสะปะและสร้างความสับสน

เพื่อเป็นสะพานเชื่อมช่องว่างเชิงนโยบายและปฏิบัติ D Tech ได้นำเสนอโซลูชันที่เป็นรูปธรรมผ่านโครงการ "Digital Vaccine" ซึ่งไม่ใช่แนวทาง "One-size-fits-all" แต่เป็นกระบวนการที่ปรับให้เข้ากับแต่ละบริบท กระบวนการนี้เริ่มต้นด้วยขั้นตอนที่สำคัญที่สุด คือ การวินิจฉัยศักยภาพ (Assessment) โดยใช้ระบบของ DQ เพื่อวัดระดับความพร้อมของทั้งนักเรียนและบุคลากร ทำให้โรงเรียนเห็นภาพรวมและสามารถระบุจุดที่ต้องพัฒนาได้อย่างแม่นยำ จากผลการวินิจฉัยดังกล่าว จึงนำไปสู่ขั้นตอนที่สองคือ การสร้าง AI Platform ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละโรงเรียน เปรียบเสมือน "สถานีรถไฟดิจิทัล" (Digital Citizen Train) ที่มีข้อมูลและรูปแบบการใช้งานเฉพาะตัว เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย (Sandbox) ให้นักเรียนได้เรียนรู้การใช้ AI อย่างสร้างสรรค์และมีวิจารณญาณ

ภารกิจเร่งด่วนนี้จึงไม่ใช่เพียงการจัดหาเทคโนโลยี แต่คือการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ทางการศึกษาทั้งหมด เพื่อวางรากฐานทางความคิดและทักษะที่ถูกต้อง ท้ายที่สุดความสำเร็จของการเปลี่ยนผ่านนี้ขึ้นอยู่กับการตอบคำถามสำคัญที่ว่า “เราจะสอนเยาวชนให้ใช้ AI อย่างชาญฉลาด แทนที่จะพึ่งพามันเพียงอย่างเดียวได้อย่างไร?”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

LIVE ถ่ายทอดสด ชิงแชมป์สโมสรโลก เปแอสเช พบ อินเตอร์ ไมอามี่ วันนี้

PostToday

7 THINGS WE LOVE ABOUT CAROLYN BESSETTE-KENNEDY แฟชั่นไอคอนตัวแทนความงามแบบมินิมัลลิสต์

THE STANDARD

#ทำมาหากรีน Wasunthara Eatery Farm หนีเมืองมาทำฟาร์ม กับ โอมากาเสะดอกไม้

Environman

หมอเตือน! แค่ปวดหัวอาจไม่ใช่เรื่องธรรมดา! ระวัง "ไฝมะเร็ง" ลามเข้าสมอง

คมชัดลึกออนไลน์

เปิดเงื่อนไขประกันสังคมรักษาโรคมะเร็ง 2568 ครอบคลุมมะเร็งชนิดใด และมีขั้นตอนรับสิทธิอย่างไรบ้าง

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

10 ปี เหมืองผุดขึ้น 8 เท่า! เปิดภาพเหมืองรัฐฉาน เชื่อจีนหนุน-ต้นตอมลพิษ

Environman

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...