หอการค้า จี้ ครม.ใหม่ เร่งเจรจาสหรัฐฯ หนุนคนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจ
หอการค้า จี้ ครม.ใหม่ เร่งเจรจาสหรัฐฯ หนุนคนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยถึงกรณีการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชุดใหม่ หรือ ครม.แพทองธาร 2 ว่า เรื่องแรกสำคัญที่สุดและเร่งด่วนที่อยากให้ ครม.ชุดใหม่ดำเนินการคือ การเจรจากับสหรัฐอเมริกา เนื่องจากใกล้ถึงกำหนดเวลาผ่อนผัน 90 วัน ในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ซึ่งทางรัฐบาลไทยก็ได้รับการนัดหมายกับสหรัฐแล้ว ถือเป็นโอกาสที่เราได้รับมา ดังนั้นต้องเร่งเจรจาให้แล้วเสร็จ ต้องทำให้ดีที่สุด
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องที่สอง คงหนีไม่พ้นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ควรต้องใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะเราประเมินว่าครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงที่ค่อนข้างยากลำบากเล็กน้อย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเราเจอหลายเรื่องพร้อมกัน ทั้งความไม่แน่นอนของสหรัฐที่ยังคงมีอยู่ และความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ อาทิ อิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งส่งผลให้การส่งออกชะงักงัน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการขนส่งทางเรือ หรือแม้กระทั่งการขนส่งทางอากาศที่จะไปยังภูมิภาคที่มีความขัดแย้ง
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้มีทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องกับภายในประเทศและต่างประเทศ ในส่วนของต่างประเทศคือ ต้องพยายามกระจายตลาดส่งออก ส่วนในประเทศนั้น เรื่องท่องเที่ยว เริ่มเห็นมาตรการออกมาแล้ว เดี๋ยวรอดูผลตอบรับต่อไป ส่วนโครงการคนละครึ่งก็เห็นด้วย อย่างน้อยที่สุดเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้จ่ายด้วยเงินของตัวเองครึ่งหนึ่ง ไม่ใช่การจ่ายเงิน 100%” นายวิศิษฐ์ กล่าว
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องที่สองคือการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยขณะนี้อยู่ในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (โลว์ ซีซัน) ซึ่งการมีมาตรการกระตุ้นจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวภายในประเทศ ขณะเดียวกันนอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้กลไกภายในประเทศเป็นหลักแล้ว สิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปกันด้วยคือ การทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของโซเชียลมีเดียหรือข้อมูลต่างๆ ที่เคยมีภาพในด้านลบ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะประชาสัมพันธ์และสื่อสารใหม่ว่าการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมีความปลอดภัยสูง รวมถึงเรื่องของความพร้อมในการบริการ และราคาที่ดีมากเมื่อเทียบกับบริการที่เรามีอยู่ ควรสื่อสารออกไปพร้อมกัน
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า และสุดท้าย เรื่องที่สามคือ งบประมาณแผ่นดิน เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยังต้องใช้พลังอย่างเต็มที่เช่นกัน เพราะในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลครั้งที่ผ่านมา แล้วร่างงบประมาณต้องมาพิจารณากันใหม่ ตอนนั้นเสียเวลาไปเกือบปี ทำให้เม็ดเงินจากภาครัฐไม่สามารถมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้ดีเท่าที่ควร มาแค่ในส่วนที่เป็นงบประมาณใช้จ่ายประจำ เช่น เงินเดือนข้าราชการ ไม่ได้กระจายไปสู่ภาคส่วนอื่นๆ
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ คงเป็นเรื่องของการสื่อสารที่ต้องมีความแม่นยำและชัดเจนมากขึ้น หากมีอะไรที่ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดหรือไม่สบายใจ ต้องสื่อสารโดยเร็ว เนื่องจากปัจจุบันมีทั้งเรื่องเอไอและข่าวปลอม (Fake News) มากมาย ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกบ้างผิดบ้าง การสื่อสารกับประชาชนอย่างต่อเนื่องและชัดเจนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพที่ดี
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับการบ้านของรัฐบาลในระยะยาว คงต้องมาดูระบบนิเวศ (Ecosystem) ทั้งหมด เพราะโครงสร้างของภาคการผลิตหรือด้านการบริการเหล่านี้ต้องปรับเปลี่ยนและปรับปรุงให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก มีหลายเรื่องที่อาจใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วย ก็ต้องเร่งนำมาใช้ ส่วนกฎเกณฑ์กฎระเบียบที่ล้าสมัยและซ้ำซ้อน ถ้าแก้ได้ก็ควรแก้ก่อน เพราะการยกเลิกกฎหมายแบบเหมาหมด (กิโยติน ลอว์ หรือ Guillotine laws) ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การดึงเรื่องสำคัญๆ มาทำก่อนน่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หอการค้า จี้ ครม.ใหม่ เร่งเจรจาสหรัฐฯ หนุนคนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th