ตกหลุมพรางจนได้
กับ“ดีเจแมน”..
สามีนักร้องสาวลูกหนึ่ง “ใบเตย อาร์สยาม” คดีความฟ้องร้องที่เพิ่งไกล่เกลี่ยกันไปจะจบลงด้วยดีหรือไม่ ยังลูกผีลูกคน!
แล้ววานซืน..ก็มีอีกคดีที่นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” อดีตนักร้อง-นักแสดง ได้เข้าไปรับทราบข้อหา “พยายามฉ้อโกง” ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ซึ่ง “ข้อหา” นี้มีที่มา-ที่ไปอย่างไร ฟัง (อ่าน) จากที่คุณประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความของคุณฟิล์มอธิบาย และ “ผู้จัดการออนไลน์” รายงานดูละกัน!
“วันนี้ไม่มีรายละเอียดคดีใหม่เพิ่มเติม แต่มีการเปลี่ยนแปลงข้อหาที่ฟิล์ม รัฐภูมิ ถูกกล่าวหา
จากเดิมเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ฟิล์มเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. และ พ.ต.ท.สธาปน์ ปัญญาพยัคฆ์ รอง ผกก.2 บก.ป.
เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท” ซึ่งข้อหาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากกรณีคลิปเสียงที่ถูกระบุว่า
เป็นการร่วมมือกันระหว่างฟิล์ม รัฐภูมิ และนางสาวกฤษณ์อนงค์ หรือ "เจ๊พัช" เรียกรับเงิน จำนวน 20 ล้านบาทจาก "บอสพอล ดิไอคอน" รวมถึงข้อหาหมิ่นประมาทนักจัดรายการชื่อดัง
โดยการเข้าพบพนักงานสอบสวนครั้งนี้ ข้อหาได้เปลี่ยนแปลงจาก "พยายามกรรโชกทรัพย์" เป็น "พยายามฉ้อโกง" แทน
คุณประมาณได้อธิบายต่อว่า.. “ข้อหากรรโชกทรัพย์คือการทำให้เกิดความกลัวเพื่อหวังทรัพย์สิน
แต่ข้อหาฉ้อโกงหมายถึงการหลอกลวงให้หลงเชื่อ และส่งมอบทรัพย์สินโดยทุจริต ซึ่งหากกระทำไม่สำเร็จจะเรียกว่าพยายามฉ้อโกง
แม้เจ๊พัชจะถูกศาลตัดสินจำคุกอยู่ในเรือนจำแล้ว แต่กรณีของเจ๊พัชไม่เกี่ยวข้องกับฟิล์ม และพยายามโยงเรื่องให้เกี่ยวข้องกัน ซึ่งดูแล้วไม่เข้าองค์ประกอบความผิดใดๆ เลย
ตนยังได้ย้ำข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนข้อหาเป็นพยายามฉ้อโกงว่า "ฉ้อโกงตรงไหน?" โดยระบุว่าการฉ้อโกงจะต้องมีการหลอกลวง ทำให้หลงเชื่อ ส่งมอบทรัพย์สิน
และมีการได้ไปซึ่งทรัพย์สินโดยทุจริต ซึ่งหากทำไม่สำเร็จจึงจะเป็นการพยายามฉ้อโกง”
ครับ..ก็ให้เข้าใจ แต่ดูเหมือนว่าคุณฟิล์ม อดีตนักร้อง-นักแสดง ที่หันเหสู่ถนนการเมือง จนได้ชื่อ เป็นอดีตรองโฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไท อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
อดีตรองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย และอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ยังจะต้องขึ้นโรง-ขึ้นศาลอยู่อีกต่อไป ส่วนอาชีพเก่า-วงการมายา ก็ดูท่าจะเดินกลับเข้าไปยากเสียแล้ว
ไม่ใช่เป็นเพราะไม่มีใครเอา-ผู้จัดไม่ต้องการ แต่ด้วยยามนี้เป็นที่รู้ๆ-เห็นๆ “วงการบันเทิง” เองก็ดูจะเงียบๆ หงอยๆ
ขนาดดารา-นักร้องดังๆ ยังต้องชะแวบไปเป็นพ่อค้า-แม่ขาย ยืนขายของตามตลาดนัดทั้งกลางแจ้งและในห้าง หารายได้เสริมกันหัวหมุน
แล้วคุณฟิล์ม ที่ไร้ความสด หมดความฮิตไปตั้งนาน จะมีโอกาส-มีงานในวงการได้ต่อไปอย่างไรกัน?
แนะว่า..ตั้งหน้าตั้งตาทำธุรกิจของตัวเองนะถูกต้อง-ดีแล้ว ด้านงานการเมืองก็พอเสียที ทะเยอทะยานไปก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
เพราะนอกจากไม่มีความหนักแน่น มุ่งมั่น ด้าน “อุดมการณ์” ก็ดูจะโหวงเหวง เบาหวิว เห็นได้จากการ “เปลี่ยนพรรค” เป็นว่าเล่น!
เนี่ย..พูดก็ด้วยปรารถนาดี เหมือนที่กำลังจะบอกกับคุณแพทองธาร ชินวัตร ว่ากำลังตกหลุมพรางคุณอนุทิน ชาญวีรกูล แล้วรู้ไหม?
เพราะที่ตอบนักข่าว.. “ให้ประชาชนสังเกตได้เลย เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่เคยพูดคุยกัน ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าติดขัดกับทางพรรคภูมิใจไทยที่ไม่อยากให้ทำเป็นกฎหมายพิเศษ
อยากให้เป็นกฎหมายแค่เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ไม่มีกาสิโน แล้วใครจะมาลงทุน”
ฮั่นแน่.. จะเอาบ่อนกาสิโนให้ได้ เพราะห่วง“นายทุน” คนนั้นจริงๆ แหละ!.
สันต์ สะตอแมน