โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘มหาดไทย’ ติดตามสถานการณ์พายุวิภาหลังฝนตกสะสมต่อเนื่อง ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขาเสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก

เดลินิวส์

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
‘มหาดไทย’ ติดตามสถานการณ์พายุวิภาหลังฝนตกสะสมต่อเนื่อง ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมเฉียบพลัน ด้าน ‘ธีรรัตน์’ กำชับ พื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุฝนหนัก 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุวิภา โดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย เป็นประธานการประชุม และมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง ซึ่งมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในหลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภา

โดยที่ประชุมมีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก เสี่ยงน้ำท่วมเฉียบพลัน ขณะที่หลายพื้นที่ปริมาณน้ำฝนไปเพิ่มระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก หลายจุดใกล้ล้นตลิ่ง และบางจุดเสี่ยงเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยบริเวณริมแม่น้ำ

น.ส.ธีรรัตน์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า หลังการติดตามสถานการณ์พายุวิภาที่เกิดขึ้น เป็นที่คาดการณ์จากที่บอกก่อนหน้านี้ว่าจะมีความรุนแรงอยู่ในระดับที่ประชาชนได้รับผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ จากการประชุมและได้รับรายงานโดยตรงจากพื้นที่ในหลายๆ จังหวัดด้วยกัน เช่นพื้นที่ จ.น่าน ที่ตอนนี้ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ เตรียมความพร้อมรับมือขนของขึ้นที่สูงเพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหาย รวมถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์ที่ทางหน่วยงานราชการจัดเตรียมไว้ให้ โดยเป็นการขอความร่วมมือเพื่อให้ทุกคนได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ในส่วนของ จ.น่าน ขณะนี้มณฑลทหารบกที่ 38 ได้นำกำลังลงพื้นที่ จ.น่าน เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้จัดเตรียมเรื่องระบบการทำงานทุกระบบเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน และย้ำเตือนว่าขณะนี้น้ำที่กำลังจะเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจ จ.น่าน มีปริมาณที่ 1 ชั่วโมง 30 ซม. ถือว่าเป็นปริมาณที่สูง โดยตนได้สั่งการให้ ปภ. นำเครื่องสูบน้ำลงพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อบรรเทาน้ำที่จะเข้าสู่ในพื้นที่ส่วนกลางให้มีระดับน้อยลงมากที่สุด

ส่วน จ.พะเยา ได้มีการประชุมผ่านซูมในพื้นที่จริง พบว่า ในบางอำเภอยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และน้ำอยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวัง แม้จะยังไม่สูงแต่ก็ต้องเตรียมพร้อม และมีความเป็นไปได้หากมีฝนตกต่อเนื่อง ก็จะมีปริมาณน้ำที่สูงขึ้นได้อีก ส่วน จ.เชียงใหม่ และเชียงรายทางพื้นที่ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือไว้อยู่แล้ว โดยกรมชลประทานเตรียมพร้อมเรื่องของเขื่อนเพื่อให้เหมาะสมกับน้ำที่กำลังจะมา และมั่นใจว่า ประชาชนจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด สำหรับภาพรวมและการพยากรณ์น้ำในช่วงของ 3-5 วัน ที่จะถึงนี้ ได้ฟังรายงานจากกรมชลประทานเรื่องน้ำเหนือที่จะไหลสู่ลำน้ำต่างๆ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมพร้อมหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางที่อาจมีน้ำท่วมพื้นผิวจราจร

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะพื้นที่มีฝนตกปริมาณมาก และพื้นที่สำคัญที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่แล้ว ขอให้ทางจังหวัดได้เข้าไปป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเข้าสู่พื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่ามีฝนตกต่อเนื่อง การที่มีฝนตกต่อเนื่อง ต้องป้องกันเรื่องของดินโคลนถล่มเพราะดินอุ้มน้ำหลายวันมีความชุ่มฉ่ำมาก อาจทำให้เกิดดินโคลนถล่มได้ และให้ทางจังหวัดที่มีความเสี่ยงอพยพประชาชนออกมาโดยเร็ว เพราะดินโคลนถล่มคาดการณ์ได้ยาก แต่หากรู้ว่ามีจุดไหนที่เสี่ยงอยู่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่สามารถจะเข้าไปในจุดนั้นได้ทันที และหากจะปิดเส้นทางถนนจะต้องแจ้งประชาชนก่อน เพื่อไม่ให้ประชาชนติดอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งถ้าหากพบว่า บางพื้นที่มีความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าสูง สามารถที่จะตัดไฟได้เลย เพื่อที่จะป้องกันปัญหาไฟรั่วหรือไฟดูด

สำหรับการรายงานสถานการณ์ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดรายงานสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลถล่ม ผลกระทบและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติในทุกวัน เวลา 09.00 น. ซึ่งจะประชุมสรุปสถานการณ์ในแต่ละวัน เพื่อประเมินเพิ่มกำลังในแต่ละพื้นที่ให้ทันต่อสถานการณ์มากที่สุด

ส่วนทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ส่งข้อความแจ้งเตือนภัยผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Cell Broadcast) ส่งข้อความผ่านศูนย์กระจายข่าวในระดับพื้นที่และจังหวัดให้ประชาชนได้ทราบ พร้อมยอมรับว่า พื้นที่ที่กังวลคือ จ.น่าน ที่มีน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากน้ำที่เสริมเข้ามา จึงอยากให้ประชาชนเฝ้าระวังสูงสุด

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า Cell Broadcast ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และส่งแจ้งเตือนประชาชนไปแล้วตั้งแต่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันจำนวน 56 ครั้ง แบ่งเป็นแผ่นดินไหว 2 ครั้ง อุทกภัย 45 ครั้ง ดินโคลนถล่ม 9 ครั้ง ในช่วงของวันที่ 20 ก.ค. สถานการณ์พายุวิภาส่งแจ้งเตือนไปแล้ว 24 ครั้ง อุทกภัย 15 ครั้ง ดินโคถล่ม 9 ครั้ง ส่วนวันที่ 22 ก.ค. ส่งแจ้งเตือนเพิ่มเติม 12 ครั้ง ในเรื่องของอุทกภัย

เมื่อถามว่า เรื่องการเดินทางใน จ.น่าน เข้าตัวเมือง บางจุดเส้นทางเริ่มสัญจรลำบาก กระทรวงมหาดไทยได้มีการประสานกับกระทรวงคมนาคมเรื่องการเดินทาง โดยเฉพาะสายการบินบ้างหรือไม่ น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงาน ผู้ว่าราชการ จ.น่าน รายงานว่า ยังมีถนนบางส่วนที่กระทบ แต่ในเรื่องของการบินหรือการเดินทาง ยังสามารถที่จะดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งคาดการณ์ว่าถ้ามีถนนหลายเส้นที่เกิดผลกระทบกับเรื่องของผู้เดินทาง อาจจะต้องแจ้งให้ทราบ เพื่อที่จะได้มีการเตรียมการเผื่อเวลาในการเดินทาง และได้ประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้เตรียมเรื่องยานพาหนะช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ถูกตัดขาด

เมื่อถามว่า สถานการ์ณวันที่ 23-25 ก.ค. มีความกังวลในช่วงวันใดเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า วันนี้น่าจะหนักที่สุด มีความกังวลมากที่สุด ประกอบกับปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องตลอดในพื้นที่โดยเฉพาะ จ.น่าน แม้ตอนนี้ระดับของพายุวิภา จะลดความรุนแรงลง แต่ในพื้นที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อม

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวถึงเรื่องพื้นที่ จ.เชียงราย ที่ประชาชนมีความกังวลเรื่องสารปนเปื้อนแม่น้ำกกและ อ.แม่สาย ยืนยันว่า ตอนนี้ อ.แม่สายได้รับผลกระทบน้อยมากเช่นเดียวกับเรื่องสารปนเปื้อนของแม่น้ำกก ที่ปริมาณฝนตกลงมาทำให้สารปนเปื้อนค่อนข้างเจือจาง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า เตรียมเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พายุวิภาในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.น่าน เพื่อรับฟังรายงานเพิ่มเติมจากในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ที่เดือดร้อน และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

“หงส์แดง” ประกาศคว้า “เอกีตีเก” เสริมหอกอย่างเป็นทางการ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“แรชฟอร์ด” หวานเจี๊ยบบอกฝันเป็นจริงได้สวมเสื้อ “บาร์ซา”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เฝ้าระวังพื้นที่ชายแดน! เก็บกู้ทุ่นระเบิดเกือบ 3 พันลูก เตือนปชช.ระวังอันตราย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตำรวจ ดส.บุกค้นบ้านจับแม่ค้าบุหรี่ไฟฟ้าย่านดินแดง ยึดของกลางกว่า 1,000 ชิ้น

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม