โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

SX2025 ชวนหาทางรอดยุคโลกรวน เน้นร่วมมือ-ปรับตัว ใช้ปรัชญาพอเพียงระดับสากล

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

งาน “Sustainability Expo 2025” (SX 2025) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน กลับมาอีกครั้งในปีนี้เป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน ภายใต้แนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) โดยความร่วมมือของ 6 องค์กรธุรกิจชั้นนำ ได้แก่ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รวมทั้งเครือข่าย TSCN (Thailand Supply Chain Network ) และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุม และนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ที่ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแนวทาง Carbon Neutral Event

งานในปีนี้ยังคงน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรี สินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และน้อมนำหลัก "ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) ตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการจัดงาน เพื่อเชื่อมโยงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UNSDGs) และสร้างแพลตฟอร์มแห่งความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน

Collaboration & Adaptation

"ต้องใจ ธนะชานันท์" ผู้อำนวยการคณะจัดงาน SX 2025 เปิดเผยว่า ปีนี้งานจะย้ำชัดถึงสองหัวใจสำคัญคือ “Collaboration” (การร่วมมือ) และ “Adaptation” (การปรับตัว) ท่ามกลางความท้าทายของโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และมุ่งมั่นที่จะยกระดับ "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" (Sufficiency Economy Philosophy - SEP) ให้เป็นวาระสำคัญในระดับสากล นอกจากนั้น ปีนี้ยังได้จัดตั้ง บริษัท ซัสเทนอะบิลิตี้ เอ็กซ์โป จำกัด ขึ้นเป็น Social Enterprise เพื่อผลักดันแพลตฟอร์มนี้ให้ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

“SX เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างความร่วมมือมาโดยตลอด แต่ปีนี้ความร่วมมือต้องเข้มข้นยิ่งขึ้น เพราะโลกกำลังผันผวนอย่างไม่เคยมีมาก่อน ส่วนการปรับตัวคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมอาจสายเกินไปแล้ว”

“ต้องใจ” กล่าวด้วยว่า ปีนี้ SX ตั้งใจ “ปักหมุด” ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) ในเวทีโลก โดยมีการสื่อสารผ่านคำว่า “Enough” เมื่อสื่อสารกับชาวต่างชาติ ทำให้คนเริ่มคิดถึงคำว่า "พอ" ในแง่มุมต่างๆ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการตระหนักว่า หากไม่พอจะนำไปสู่การแสวงหาและใช้ทรัพยากรอย่างไม่หยุดยั้งและไร้ขอบเขต

โลกผันผวน สิ่งที่ไทยต้องจับตา

“ต้องใจ” เตือนถึงความรุนแรงของภาวะโลกร้อน ที่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ว่า ขณะนี้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกินระดับดังกล่าว และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นถึง 2–2.5 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียงความร้อนที่เพิ่มขึ้น แต่ส่งผลกระทบต่อ ระบบภูมิอากาศโลกทั้งระบบ

นอกจากนั้น กระแสน้ำในมหาสมุทรอาจเปลี่ยนทิศทาง ส่งผลให้ยุโรปอาจเผชิญความหนาวจัดจนอยู่อาศัยได้ยากในอนาคต รวมถึงเส้นทางการเดินเรือที่เปลี่ยนไป และการละลายของน้ำแข็งและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจะกระทบกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย โดยพื้นที่เกษตรกรรมบางแห่ง เช่น อยุธยา อาจกลายเป็นพื้นที่น้ำ และกรุงเทพฯ มีความเสี่ยงที่จะจมน้ำในอีก 50–70 ปีข้างหน้า ซึ่งทำให้เกิดความจำเป็นต้องคิดใหม่ทั้ง การวางผังเมือง การจัดการพื้นที่ และวิธีการปลูกข้าวในอนาคต

ต้องปรับตัวในหลายมิติ

นอกจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม “ต้องใจ” ยังเน้นถึงความจำเป็นของการปรับตัวในหลายมิติ ได้แก่

  • การปรับตัวทางสังคม (Social Adaptation): การเข้าสู่สังคมสูงวัยจะเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายด้านดูแลและรักษาพยาบาล ขณะที่แรงงานลดลง ส่งผลต่อการจัดเก็บภาษีและพัฒนาอุตสาหกรรม แต่ก็เปิดโอกาสให้เกิดธุรกิจใหม่ เช่น การดูแลผู้สูงอายุและอาหารสำหรับผู้สูงอายุ
  • การปรับตัวทางเทคโนโลยี (Technological Adaptation): การอยู่ร่วมกับหุ่นยนต์และเทคโนโลยีที่ใกล้ชิดมากขึ้น ทำให้มนุษย์ต้องเรียนรู้ปรับตัว หากปรับตัวไม่ทัน เทคโนโลยีอาจเข้ามาแทนที่งานบางประเภท แต่ถ้าปรับตัวได้ดีจะช่วยเพิ่ม ผลิตภาพและคุณภาพชีวิต นอกจากนี้ยังรวมถึงการป้องกันผู้สูงอายุจากการถูกหลอกลวงผ่านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน
  • การปรับตัวระดับนโยบาย (Governance Adaptation): นโยบายด้านภาษีและสาธารณสุขสำหรับสังคมสูงวัย เช่นเดียวกับญี่ปุ่นและยุโรป มีความสำคัญมาก รวมถึงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) และ พ.ร.บ. อากาศสะอาด ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังผลักดันอย่างต่อเนื่อง

ได้รับความสนใจมากขึ้นจากต่างประเทศ

งาน SX 2025 ได้รับการยอมรับว่าเป็นงานด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีพื้นที่จัดแสดงกว่า 70,000 ตารางเมตร ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และจัดต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน

“ในปีนี้ SX มีพันธมิตรและผู้สนับสนุนเพิ่มขึ้นกว่า 300 ราย จากปีที่แล้วที่มี 270 ราย ขณะเดียวกัน การมีส่วนร่วมระดับนานาชาติก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีนักศึกษาต่างชาติเข้าร่วมเกือบ 2,000 คน จากกว่า 32 ประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ ออสเตรีย ฝรั่งเศส จีน และสวีเดน

คาดว่าปีนี้จะมีผู้เข้าชมออนไลน์รวมกว่า 900,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ 770,000 คน นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนนักศึกษาไทยเข้าร่วมจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงประถม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” ต้องใจ กล่าว

ผลักดันคนรุ่นใหม่ สู้เพื่อโลก

นอกจากนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ แล้ว SX ยังเป็นหนึ่งใน Host Partners ของการแข่งขัน Enactus World Cup 2025 Presented by ThaiBev เวทีระดับโลกที่รวบรวมนักเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่จากทั่วโลก มาสร้างสรรค์นวัตกรรมและแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อความยั่งยืน

การแข่งขันจัดโดย มูลนิธิรากแก้ว และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก ร่วมกับ Enactus Global โดยเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ พร้อมการสนับสนุนจากเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาคเอกชนและองค์กรไม่แสวงหากำไร

การแข่งขันครั้งนี้รวม ทีมเยาวชนจากกว่า 32 ประเทศ มานำเสนอ โครงการธุรกิจเพื่อสังคม ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านพลังของคนรุ่นใหม่ และถือเป็นงานที่ได้รับความสนใจจาก ภาคธุรกิจ สถาบันการศึกษา และองค์กรระดับโลก โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–28 กันยายน 2568

ส่อง 10 โซน SX2025

ตลอด 10 วันของ SX 2025 ผู้เข้าร่วมงานจะได้สนุกและเรียนรู้การปรับตัวเพื่อรับมือโลกที่เปลี่ยนแปลง ผ่านกิจกรรมหลากหลายโซน ดังนี้

  • SEP INSPIRATION: พบองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืน เช่น มูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง และนิทรรศการ Immersive Experience ร่วมกับ National Geographic Global ที่สะท้อนผลกระทบของโลกและแนวทางอยู่รอด
  • BETTER ME: เรียนรู้เรื่องสุขภาพและการปรับตัวส่วนบุคคล ทั้งอาหาร ฟื้นฟูร่างกาย การพักผ่อน และการวางแผนการเงินเพื่อชีวิตยืนยาว
  • BETTER LIVING: สัมผัสนวัตกรรมการอยู่อาศัยเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม และทดลองผ่าน 4D Theatre จำลองภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม คลื่นความร้อน เพื่อเตรียมตัวรับมืออย่างปลอดภัย
  • BETTER COMMUNITY: สำรวจบทบาทจิตอาสาและโมเดลธุรกิจเพื่อรับมือวิกฤติ ตั้งแต่ภัยพิบัติไปจนถึงการดูแลผู้สูงวัย สร้างเมืองยั่งยืนด้วยพลังคน
  • Better World: ชมงานศิลปะที่สะท้อนปัญหาและการปรับตัวอย่างยั่งยืน ทั้งภาพถ่าย จิตรกรรม และประติมากรรมจากศิลปินนานาชาติ
  • SX Food Festival: เทศกาลอาหาร “กินเพื่อรักษ์โลก” พร้อมเชฟชื่อดังและร้านอาหารตำนาน ให้ทุกคนอิ่มอร่อยพร้อมเรียนรู้โภชนาการเพื่อสุขภาพ
  • Kids Zone: นิทรรศการและกิจกรรม “เล่น-ทดลอง-เรียนรู้” ให้เด็ก ๆ ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต เรียนรู้การปรับตัวและรักษ์โลกผ่านเกมและสัตว์โลก
  • SX Marketplace: เพลิดเพลินกับตลาดสินค้ายั่งยืนกว่า 217 ร้านค้า เอาใจสายกรีน สายคราฟ และสายช้อปของรักษ์โลก
  • SX Repartmentstore: แบ่งปันของมือสองและเลือกซื้อสินค้าคุณภาพเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
  • สัมมนา & เครือข่ายธุรกิจ (B2B): เจาะลึกแนวทางธุรกิจยั่งยืน สร้างความเชื่อมโยงและความร่วมมือระดับประเทศและระดับโลก เพื่อค้นหาคำตอบและทางรอดของสังคมและสิ่งแวดล้อมในยุคโลกรวน โดยจะได้รับฟังข้อมูลเชิงลึกจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนกว่า 750 ท่านทั่วโลก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เครือข่ายธุรกิจยั่งยืนจากบริษัท และองค์กรชั้นนำของไทยและต่างประเทศกว่า 270 แห่ง
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

'ไหตี่เลา' กำไรร่วง 14% รับจีนยุคประหยัดลดหม้อไฟหรู สงครามราคาเดือด

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผู้ว่าสระแก้ว เปิดคัดกรอง ออกโฉนด ชาวบ้าน 3 อำเภอชายแดนติดกัมพูชา

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...