หุบปากเสียดีกว่า
ได้ยินแม่ทัพภาคที่ ๒ พูดแล้วอุ่นใจครับ
เพราะอย่างน้อยได้รู้ว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่แท้จริงเป็นอย่างไร และพี่น้องแนวชายแดนจะต้องเตรียมตัวอย่างไร
อุ่นใจมิใช่ความขัดแย้งยุติ
แต่อุ่นใจครับ เจ้าหน้าที่รัฐบอกความจริงกับประชาชน
“…รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ ๑ พันกิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด
ทั้งนี้การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด…”
“…ช่วงนี้สถานการณ์ยัง ๕๐-๕๐ ตามภาพข่าว ประเทศเขมร ก็เป็นไปตามที่เราเข้าใจ ไม่มีอะไรที่เราไว้ใจได้
ปัจจุบันกองทัพภาคที่ ๒ โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีความห่วงใยได้ลงไปตรวจเยี่ยมเป็นประจำ รวมถึงผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเหล่าทัพมีความพร้อม ทั้งที่จะคุยกันแบบมิตรภาพ
ถ้ามีเหตุจะปะทะกันอีก ก็พร้อม…”
“…ขอให้พี่น้องทุกท่านสบายใจในการปฏิบัติของทหารเรา หวังว่าเหตุการณ์พวกนี้จะยุติโดยเร็ว ปลายเดือนสิงหาคมนี้ผมจะประชุมอาร์บีซี กับแม่ทัพเขมร คงจะพูดคุยกันให้เข้าใจ เพื่อนำไปสู่การประชุมจีบีซีอีกรอบ
จึงหวังว่าจะคุยกันเข้าใจ โดยทุกสิ่งทุกอย่างตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก พร้อมยืนยันว่า พวกเราพร้อมทำหน้าที่ ตามที่ทุกท่านส่งกำลังใจให้และฝากความหวังไว้ พวกเราจะทำให้ดีที่สุด…”
อุ่นใจมั้ยครับกับคำพูดของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง
ทหารไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือจะรบนะครับ อยากจบด้วยการเจรจา การนั่งพูดคุยกันระหว่าง ๒ ฝ่าย
ถ้าเลี่ยงไม่ได้ “แม่ทัพกุ้ง” พูดตรงๆ แบบทหาร
มีเหตุให้ปะทะกันอีกก็พร้อม!
แต่วางใจไม่ได้นะครับ เพราะฝั่งเขมรสร้างข่าวปลอมทุกวัน
ข่าวปลอมนี่แหละครับ เคยทำให้คนเขมรเผาสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญมาแล้ว
ครั้งนี้ก็อย่าคิดว่าเหตุจะเกิดเฉพาะแนวชายแดน
ครับ…มันมีนักการเมืองปากเสีย พวกนี้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่ยังสร้างอิทธิพลกับสาวกส้มอยู่ตลอดเวลา ทำตัวเหมือนนักวิชาการบนหอคอยงาช้าง วิจารณ์ไปเรื่อย ทั้งที่ไม่มีข้อมูลอะไรมารองรับ
เอาแต่มันปาก….
ไม่อุ่นใจเลย
ในโซเชียลแชร์กันเยอะกับวาทกรรมฆ่าตัวตายของ “ช่อ พรรณิการ์ วานิช”
“…มันมีคนไม่อยากให้สงครามจบ เพราะช่วงเวลาที่เกิดสงครามคือเวลาที่ตัวเองเป็นฮีโร่หรือไม่? ดิฉันตั้งคำถาม…"
เหมือนเป็นประโยคคำถาม
แต่…ไม่ใช่ครับ
เป็นการกล่าวหาที่ว่าคนกระหายสงครามต่างหาก
สถานการณ์เป็นผู้สร้างฮีโร่
ขณะที่คนจัญไรไม่มีทางจะสร้างสถานการณ์ให้ตัวเองเป็นฮีโร่ได้อย่างแน่นอน
เฉกเช่นมีความพยายามโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ บางคนต้องย้อนกลับไปลบโพสต์ของตนเองสมัยเรียน เพราะมีเนื้อหาสุ่มเสี่ยงขัด ม.๑๑๒
บางคนพยายามโจมตีการทำงานของรัฐบาลสมัยที่ต้องสู้กับวิกฤตโควิด ด้อยค่าวัคซีนจีน เชิดชูวัคซีนตะวันตก
สุดท้ายคนพวกนี้ล้วนเป็นของปลอม
คำพูดของ “ช่อ” เป็นการดูถูกดูแคลนทหารที่ออกทัพจับศึก เพื่อป้องกันประเทศว่า แท้จริงแล้วมีวาระซ่อนเร้น ต้องการให้ตัวเองเป็นฮีโร่
จึงไม่อยากให้สงครามยุติ
ดูหนังฝรั่งมากไป!
ทั่วโลกมีสงครามมากมายสร้างฮีโร่ และฮีโร่เหล่านั้นมิใช่นายทหารยศสูง
แต่เป็นพลทหาร ทหารระดับล่าง
ไม่มีใครยกตัวเองเป็นฮีโร่หรอกครับ
ชายแดนไทย-เขมร ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ไม่มีใครออกมายกตัวเองว่าเป็นฮีโร่ เพราะล้วนเสียเพื่อน เสียลูกน้อง เสียเจ้านายด้วยกันทั้งนั้น
และต่างยกย่องทหารกล้าผู้สละชีพว่าคือ ฮีโร่ ของทุกคน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของ “ช่อ” ครับ
สันดานเครือข่ายส้มเหมือนกันหมด พยายามหาที่ยืนให้ตัวเองบนวิกฤตของชาติ
“ช่อ” ให้สัมภาษณ์ในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง ๘ วันที่ ๑๓ สิงหาคม วิเคราะห์ด้วยข้อมูลไก่กา “…จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์คือทหารไทยเหยียบกับระเบิด ซ้อนกัน ๒ วัน ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นมา เราจะไปปิดปราสาทใช่มั้ยคะ พอเราปิดปราสาทก็เกิดการเผชิญหน้าทางทหาร ทำให้เกิดการยิงกัน นำมาสู่การปะทะใช่มั้ยคะ
ดิชั้นไล่ให้ฟังดูเร็วๆ ตอนนั้นเราบอกว่าป้องกันตัว อย่าลืมนะคะว่ามันไม่ได้เกิดจากการเหยียบระเบิด แล้วปะทะนะ มันคือการเหยียบกับระเบิด เลยเผชิญหน้ากันที่ปราสาท พอเกิดการยิงกันที่ปราสาทก็เลยเกิดการปะทะใหญ่โต แล้วเราก็ไปทิ้งระเบิด
ตอนนั้นป้องกันตัวสมเหตุสมผลเพราะอะไร เค้าใช้เครื่องยิงระเบิดใช่มั้ยคะ ยิงจรวดเข้ามาโดนโรงพยาบาล โดนพลเรือน โดนร้านสะดวกซื้อของเรา เราส่งเครื่องบินรบไปยิงฐานยิงจรวดของเขา อันนี้สมเหตุสมผล ป้องกันตัว
แต่วันนี้เราจะบอกว่า กองทัพบอกว่าเราจะใช้สิทธิ์ป้องกันตัว จากอะไรคะ? กับระเบิด คุณจะเอาเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดที่ปราสาทเหรอคะ เพื่อทำลายระเบิดเหรอคะ
วันนี้ดิชั้นคิดว่าวันนี้เราต้องใช้…คืออย่าใช้อารมณ์ ใช้ความฮึกเหิมทางกำลังรบ การใช้ความฮึกเหิมทางกำลังรบไม่ผิด แต่อาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องกับระเบิด เพราะอะไร เพราะว่ากับระเบิดไม่อาจถูกทำลายได้ คือ…มันอาจจะได้อะนะ แต่คุณต้องทิ้งระเบิดขนาดไหน ถึงจะทำลายกับระเบิด
แล้วคุณทิ้งลงโบราณสถานมรดกโลกอะ คุณรับผิดชอบไหวหรือเปล่า อันนี้คุณอาจได้เข้าศาลโลกจริงๆ…”
เด็กประถมทำรายงานส่งครูเรื่อง ไทย-เขมร ยังทำได้ละเอียด มีข้อเท็จจริงรองรับมากกว่านี้เลยครับ
“ช่อ” เป็นถึงผู้นำทางจิตวิญญาณสีส้ม กลับใช้ลีลา “มาลี โสเจียตา” พูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง
ทหารเขามืออาชีพ วิธีการรบมีรูปแบบ ไม่ได้ต่อยมวยวัดแบบ “สมเด็จวุ้นเส้น”
ก็ไม่รู้ใช้อวัยวะส่วนไหนคิดครับว่า ไทยจะเอาเอฟ-๑๖ ไปถล่มกับระเบิด ไปถล่มปราสาท
ปัญญาอ่อน!
อ่านข่าวไม่แตก วิจารณ์มั่ว
อยากหยิกหูจริงๆ
ไม่รู้จริงหุบปากเสียดีกว่า ประเทศมีปัญหามากพอแล้ว อย่าให้ต้องมาเสียเวลากับคนสิ้นคิดแบบนี้.