งงทั้งสภา 'ไชยา' บิดข้อตกลง สั่งปิดประชุม ชิ่งหนีถก MOU43-44
ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กับ วิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ MOU 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจ
แต่ปรากฏว่า ภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว ขอปิดประชุม
โดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนยังงงๆอยู่ เหตุใด นายไชยาสั่งปิดประชุม ตนกินข้าวเสร็จ กำลังเดินเข้าห้องประชุม แต่สั่งปิดประชุม ทั้งที่วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า หลังเสร็จสิ้นวาระรับทราบรายงานการประชุม จะประชุมลับพิจารณาญัตติด่วนเรื่องเอ็มโอยู43และ44
"ผมไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม และองค์ประชุมไม่ได้มีปัญหา เรื่องนี้อาจเป็นการคาดเคลื่อนเรื่องการสื่อสาร ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่น เพราะเรื่องนี้ตกลงกันแล้วว่าจะให้มีการอภิปราย แต่ไม่ต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมาธิการสามัญรับไปดำเนินการ" นายวิสุทธิ์ กล่าว
ขณะที่นายไชยา ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่สั่งปิดประชุมเพราะได้รับการประสานงานจากวิปรัฐบาลว่า ได้หารือกับวิปฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้วว่า หากหมดวาระการรับทราบการประชุมแล้ว ให้ปิดประชุม ตนจึงดำเนินการตามที่แจ้งมา
ผู้สี่อข่าวถามว่า วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านบอกว่า ไม่ทราบเรื่องการสั่งปิดประชุม เพราะตกลงกันแล้วว่า จะพิจารณากันต่อเรื่อง เอ็มโอยู43และเอ็มโอยู 44 นายไชยา กล่าวว่า "ผมได้รับการประสานมาแบบนี้ ให้ปิดประชุม เพราะวิป 2ฝ่ายได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว และเมื่อวันที่ 20ส.ค. เราก็ประชุมกันมาหนักหนาพอสมควรแล้ว ยืนยันว่า ไม่มีใครส่งสัญญาณมาให้ปิดประชุม แต่ดำเนินการตามข้อตกลงของวิป 2ฝ่าย"
ขณะที่นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ได้โพสต์ข้อความต่อกรณีที่เกิดขึ้นว่า ยังไม่ทันขอหารือ นายไชยาสั่งปิดประชุมสภาฯ หนีแล้ว จะกลัวอะไร
"เราเพิ่งบอกประชาชนว่าจะใช้กลไกรัฐสภา พิจารณาหาแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา แต่กลับไม่ให้สภาฯ ทำงาน ส่วนตัวผมยังยืนยันว่า เอ็มโอยู 43 เอ็มโอยู44 มีความจำเป็นต่อการแก้ไขสถานการณ์ไทย-กัมพูชา แต่หากมีการศึกษากันอย่างรอบคอบแล้วว่าจะมีกรอบข้อตกลงอื่นที่ดีกว่านี้ ผมไม่ติดขัด" นายกัณวีร์ ระบุ
นายกัณวีร์ ระบุต่อว่า สิ่งที่ตนเห็นว่าไม่จำเป็นแล้วในเวลานี้คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หมดความชอบธรรม ไปตั้งแต่มีคลิปเสียงกับสมเด็จ ฮุนเซน ซึ่งต้องรับผิดชอบด้วยการยุบสภา มาตั้งแต่ต้น สิ่งที่จำเป็นคือรัฐบาลต้องคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะไม่มีความชอบธรรมที่จะแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว