โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

ว่อนโซเชียล!เอกสารร้องเรียนพล.ต.ต. ถึง ผบ.ตร. สร้างพฤติกรรมแตกแยก

Amarin TV

เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว
ว่อนโซเชียล! เอกสารร้องเรียน พล.ต.ต. ถึง ผบ.ตร. สร้างพฤติกรรมแตกแยก แตกความสามัคคี ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ว่อนโซเชียล! เอกสารร้องเรียน พล.ต.ต. ถึง ผบ.ตร. สร้างพฤติกรรมแตกแยก แตกความสามัคคี ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากกรณีนายตำรวจทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปถึง นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจและกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมกับการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2568 นั้น โดยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเอกสารแชร์ในโซเชียลร้องเรียน โดยเนื้อหาเรื่อง ร้องเรียนพฤติกรรม มีเนื้อหาถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าเรียน พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ด้วยข้าพเจ้า ข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีความประสงค์ขอร้องเรียนพฤติกรรมของ นายตำรวจท่านหนึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ และพฤติกรรมในการสร้างความแตกแยก แตกความสามัคคี ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้

ประการที่ 1 การปฏิบัติหน้าที่ของ นายตำรวจดังกล่าว ตามที่ปรากฏมีลักษณะแสดงตนว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการดำเนินคดีเหนือกว่าบุคคลอื่น โดยจะเลือกที่จะทำการสืบสวนสอบสวนในคดีความที่ประชาชนให้ความสนใจเท่านั้น โดยแสดงตนมาโดยตลอดว่าเป็นผู้ลงมือปฏิบัติ ในการสืบสวน สอบสวน และรวมรวมพยานหลักฐาน ด้วยตนเอง ซึ่งความจริงแล้ว มิได้เป็นผู้ลงมือในการสืบสวน สอบสวน และรวมรวมพยานหลักฐาน ด้วยตนเองแต่อย่างใด โดยมีบรรดาข้าราชการตำรวจ บช.ก. เป็นจำนวนมาก เป็นผู้ทำการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดมาโดยตลอด

แต่ นายตำรวจที่ถูกกล่าวถึงกลับมักแถลงต่อสาธารณะชนทั่วไปว่า เป็นผลงานของตน โดยมุ่งหวังสร้างค่านิยมจากประชาชน โดยการแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนนั้น มักกระทำด้วยตนเอง มิได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวให้แก่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบก่อนการแถลงในแต่ละครั้ง เปรียบเสมือนตนเองนั้นเป็นผู้นำหน่วย และนอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมในลักษณะ มุ่งเผยแพร่ พยานหลักฐาน และข้อมูลสำคัญในคดีหลายประการ โดยวิธีการให้สัมภาษณ์ถึงที่มาของพยานหลักฐาน และ แนวทางการสืบสวน เพื่อให้บรรดาสื่อมวลชนได้รับทราบและนำไปเสนอต่อสื่อสังคมสาธารณะ อันทำให้เกิดความยากลำบากแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เพราะการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ทั้งที่คดียังไม่เสร็จสิ้น ย่อมทำให้พยานหลักฐานสำคัญ รั่วไหลออกไปยังบุคคลภายนอก ส่งผลกระทบต่อการรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นสาระสำคัญแห่งคดี และทำให้เกิดข้อโต้แย้งของบุคคลในสังคม และการวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ ดังที่เห็นอยู่ตามสื่อต่าง ๆ ในทุกสำนัก ถึงการให้สัมภาษณ์ ในแทบจะทุกวัน

อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมุ่งหวังเพียงให้ตนนั้นปรากฏต่อหน้าสื่ออยู่โดยตลอด เพื่อหวังคะแนนนิยมจากประชาชนเป็นการส่วนตัว ทั้งที่ในอำนาจรับผิดชอบของ นายตำรวจคนดังกล่าว ต่างมีคดีความจำนวนมาก ที่ยังคงรอการสืบสวน สอบสวน และรวมรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ แต่หากคดีใด มิได้เป็นกระแสที่ประชาชนให้ความสนใจ กลับถูกปล่อยปล่ะละเลยไม่ดำเนินการเฉกเช่นคดีความที่เป็นกระแสสังคม ส่งผลให้ภาพลักษณ์มาตรฐานการดำเนินคดีด้วยความเสมอภาคเท่าเทียม ของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ถูกประชาชนตั้งความเคลือบแคลงสงสัย ว่าเหตุใด คดีความที่ประชาชนให้ความสนใจเท่านั้น จึงได้รับการติดตามและดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ต่างจากคดีอื่น ๆ

ประการต่อมา ในพฤติกรรมในการสร้างความแตกแยกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามที่ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 นายตำรวจอาวุโสช่วงท้ายๆได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายก ฯ และประธานกรรมการข้าราชการตำรวจและกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในลักษณะที่ว่า สิ่งที่ตนร้องไปอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมตำรวจที่ยังใช้ระบบอุปถัมภ์อยู่ ตนอยากให้ใช้ความรู้ความสามารถตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ว่าคนที่ตั้งใจทำงานมีความรู้ความสามารถจะได้รับการตอบแทน จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ แต่ไม่ใช่ให้เอาความรู้ความสามารถไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวหรือเฉพาะกลุ่ม และกล่าวอีกว่า ถ้าความยุติธรรมไม่มี มันจะเกิดการทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม อยู่ไปเพื่อรอหรือวิ่งเต้น

ตนอยากให้ทุกคนแข่งกันทำงานเพื่อประชาชน ใครทำไม่ดีก็ตั้งคณะกรรมการ ถ้าทำดีทำขยันก็ได้รางวัลไป มันต้องมีเหยื่อล่อ ทุกคนที่ทำงานไม่มีหรอกจะพูดว่าไม่หวังที่จะเจริญก้าวหน้า ผมเป็นหนังหน้าไฟมาวันนี้ ผมทำงานและเห็นการเปลี่ยนแปลงมาหลายองค์กร แต่หันหน้ามาดูองค์กรของเราเองมันไม่เปลี่ยน และยังอ้างด้วยว่า ตัวเองถูกรังแกตั้งแต่ปีที่แล้ว ถูกสกัดและเอามาอยู่ที่นครบาล ซึ่งบอร์ด ก.ตร. ชุดใหญ่ช่วยไว้ เนื่องจากมองว่าทำงานไม่มีความผิดจะย้ายได้อย่างไร ซึ่งสาเหตุที่ถูกย้ายมาจากคดีหนึ่ง

และยังให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ตอนหนึ่งว่า เชื่อว่าตนเองคงไม่ได้รับการเสนอชื่อเลื่อนยศเป็น “พลตำรวจโท” ในปีนี้แล้ว แต่ยืนยันว่าจะยังคงปฏิบัติหน้าที่และทำงานสืบสวนคดีทุจริตต่อไป และจะไม่มีการ “เกเร” หรือ “เกียร์ว่าง” แต่ที่ออกมาต่อสู้ในครั้งนี้ก็เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตำรวจที่มีความรู้ความสามารถและมีผลงานโดดเด่น เช่น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รองผบช.สอท.)และ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท.

โดยเนื้อหาในหนังสือร้องเรียนยังอ้างถึงพฤติกรรมดังกล่าวที่ นายตำรวจคนดังกล่าว ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) โดยเป็นการกล่าวให้ร้าย ตร. ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายนั้นเป็นการใช้ระบบอุปถัมภ์ หรือต้องมีการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้รับตำแหน่งตามความประสงค์ โดยกล่าวด้อยค่า ตร. ว่าเป็นองค์กรที่ไม่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลง ทั้งกล่าวอ้างว่าตนเองนั้นถูกรังแก ซึ่งไม่เป็นมูลความจริง ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ ตร.ถูกมองเป็นภาพลบ ว่ามีการ กลั่นแกล้งในการโยกย้ายหรือการดำรงตำแหน่งต่างๆ ทั้งพฤติกรรมที่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ตนเองคงไม่ได้รับการเสนอชื่อเลื่อนยศเป็นพลตำรวจโท ทั้งที่คณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ที่พิจารณาแต่งตั้งยังมิได้มีการประชุมเพื่อแต่งตั้งแต่อย่างใด แต่กลับออกมาเรียกร้องในลักษณะกล่าวอ้างว่า ตนนั้นไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ผลการพิจารณายังมิได้แล้วเสร็จ ก่อให้เกิดกระแสการต่อต้านจากประชาชนทั่วไปที่มิได้รับรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงื่อนไขและความเหมาะสมในการแต่งตั้งแต่ละตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทั้งในการให้สัมภาษณ์นั้นมีการกล่าวอ้างชื่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายซึ่งมิได้มีความเกี่ยวข้องกับตน แต่กล่าวอ้างว่าตนนั้นได้ต่อสู้เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้แก่บุคคลดังกล่าว อันเป็นการกล่าวพาดพิงบุคคลภายนอกในลักษณะที่ก่อให้เกิดความแตกแยกขาดความสมัครสมานสามัคคีในองค์กรของ ตร.จึงเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในการให้สัมภาษณ์ อันมีผลกระทบต่อ ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นอกจากนี้ นายตำรวจผู้ถูกร้องเรียน ยังคงมีพฤติกรรมในการร้องเรียน อย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมาเดินทางไปยังรัฐสภาเพื่อยื่นหนังสือ ต่อ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และ น.ส.จิตภัสร์ กฤษดากร ที่ปรึกษากมธ.ตำรวจ พร้อมคณะกมธ. ตำรวจ เรื่องขอความเป็นธรรม ในการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งและการโยกย้ายเปลี่ยนตำแหน่ง อันเป็นตอกย้ำถึงการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ของ นายตำรวจดังกล่าวที่พยายามสร้างกระแสเพื่อให้สังคมมองภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าไม่มีความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายถึงขนาดที่จะต้องมีการร้องขอความเป็นธรรมไปยังบุคคลอื่นภายนอกองค์กร เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบการทำงานของ ตร. ทั้งที่ผลการพิจารณาตามที่ได้ร้องเรียน ยังมิได้แล้วเสร็จ และยังไม่ปรากฏความไม่เป็นธรรมแก่ตน แต่อย่างใด อันเป็นการกระทำที่สูงผลให้เกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์ของ ตร. เป็นอย่างมาก

ด้วยเหตุดังกล่าวข้าพเจ้า จึงขอแจ้งมายังท่านในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้โปรดมีคำสั่งให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ นายตำรวจดังกล่าว ตามรายละเอียดซึ่งได้กล่าวมาข้างต้น ต่อไป

ขอแสดงความนับถือ

ข้าราชการตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Amarin TV

จีนตั้งเป้า SCO สร้างระเบียบเศรษฐกิจโลกใหม่ แจก2,000ล้านหยวนช่วยสมาชิก

53 นาทีที่แล้ว

เศรษฐกิจไทยไม่วิกฤต แต่โตน้อย โตช้า อยู่กับปัญหาการเมืองและการค้า

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Sushiro เบนเข็มพึ่งตลาดนอก หลังต้นทุนข้าวญี่ปุ่นพุ่งกดดันกำไรในประเทศ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ล่าไอ้คลั่งขู่แย่งปืนดาบตำรวจ ก่อนแทงยับเสียชีวิตคาที่

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความอาชญากรรมอื่น ๆ

วัวตัดหน้าทำหนุ่ม 21 เสียชีวิต ไร้เงาเจ้าของวัว-รถคู่กรณีติดต่อรับผิดชอบ

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

“รองเต่า” เผยเครือข่ายโกงเงินวัด–อดีตพระอลงกตถูกถือทรัพย์แทน

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

คนร้ายป่วนลอบวางระเบิด 5 อำเภอ 6 จุด จังหวัดนราธิวาส

สยามนิวส์

เกิดเหตุระเบิดตู้ ATM กลางดึก ภายในปั๊มน้ำมันบ้านไบก์ จ.ยะลา

สยามนิวส์

ตรังลุยหนัก ปราบรถแต่งซิ่ง-ท่อดัง ยึดกว่าพันคัน บดทำลายท่อซิ่งกว่า 900 ชิ้น

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

‘แม่ทัพภาค 4’ สั่งคุมเข้มยะลา หลังโจรใต้ป่วนหนัก วันก่อตั้ง ‘เบอร์ซาตู’

ไทยโพสต์

“บิ๊กเต่า” ยังติดใจโผแต่งตั้งโยกย้ายบางรายชื่อไม่เหมาะสม

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

ล่าไอ้คลั่งขู่แย่งปืนดาบตำรวจ ก่อนแทงยับเสียชีวิตคาที่

Amarin TV

ข่าวและบทความยอดนิยม

ผบ.ตร.ย้ำ! สั่งชุดควบคุมฝูงชนสแตนด์บายชายแดนไทย-กัมพูชา

Amarin TV

"บิ๊กก้อง" พร้อมชน คดีสจ.กอล์ฟ หลัง ผบ.ตร.สั่งโอนให้กองปราบฯ

Amarin TV

ผบ.ตร.เสียใจ สูญเสียตำรวจ 3 นาย เหตุเฮลิคอปเตอร์ตกประจวบฯ

Amarin TV
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...