จับตา! 5 วัน มท.กลั่นกรองฯ ผู้สมัคร 2 บอร์ดรสก. "กฟภ.- กปภ." คณะละ 14 คน "ปลัดป๊อบ" นั่งหัวโต๊ะ หลัง "สิงห์อ้วน" เปิดรับสมัครเพียง 7 วัน
จับตากระบวนการ 5 วัน "กลั่นกรองฯ" 2 บอร์ดรัฐวิสากิจใหญ่ สังกัดมหาดไทย "ปลัดป๊อบ" นั่งประธานฯ ตรวจคุณสมบัติ ผู้สมัคร "กฟภ.-กปภ." ชุดใหม่ คณะละ 14 คน หลัง "สิงห์อ้วน" ได้ไฟเขียว 2 คณะพ้นตำแหน่ง ใช้เวลา 7 วัน รับสมัคร คาดเสนอ มท.1-ครม. ต้นเดือน ก.ย.นี้ รองรับความเห็น "กฤษฎีกา" ควรเสนอแต่งตั้งชุดใหม่โดยเร็ว ยกเหตุ "หลายกิจการ" ของรัฐวิสาหกิจ ต้องได้รับอนุมัติ หรือ ความเห็นชอบจากบอร์ดฯโดยเร็ว
วันนี้ (28 ส.ค.2568) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในกระบวนการแต่งตั้ง "คณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.)" ชุดใหม่
ภายหลังมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้คณะกรรมการทั้ง 2 คณะพ้นจากตำแหน่ง มีผลเมื่อ 19 ส.ค. และให้เสนอชื่อเข้ามาใหม่ใน ครม.ตามขั้นตอน
ล่าสุดพบว่า ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ จะเป็นวันสุดท้าย ในการเปิดรับสมัคร ที่กระทรวงมหาดไทย ออกประกาศ การรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อดํารงตําแหน่ง "กรรมการรัฐวิสาหกิจ (บอร์ดรสก.)"
โดยเฉพาะ กฟภ. ซึ่งลงนาม โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.มหาดไทย ที่กำกับ กฟภ.-กปภ. เมื่อ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา
คาดว่า คณะกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจ ของ กฟภ. และ กปภ. ที่มี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ จะใช้เวลาพิจารณาคัดเลือก
ก่อนเสนอ รมว.มหาดไทย รับทราบ ก่อนเสนอ ครม. ในเร็วนี้ ๆ อาจจะให้ทันในวันที่ 2 ก.ย. 2568 โดยใช้กระบวนการพิจารณา ตั้งแต่มีมติ ครม. เพียง 15 วัน และ ตั้งแต่ปิดรับสมัครเพียง 5 วัน
สำหรับ ประกาศของ มหาดไทย ให้ผู้สมัคร ยื่นใบสมัครด้วยตนเอง หรือมอบอํานาจให้ผู้อื่นยื่นในสมัครแทน พร้อมเอกสาร หลักฐานประกอบการสมัคร โดยสามารถส่งใบสมัครได้ที่ กองกลาง สํานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. -28 ส.ค.นี้ ในวันและเวลาราชการ
"เปิดรับสมัคร บอร์ดรสก. กฟภ. จํานวน 14 ตําแหน่ง ซึ่งจะต้องมีทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญสอดคล้องกับสมรรถนะหลักของ บอร์ด รสก."
ให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพัฒนาการกํากับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2562 กําหนดให้การสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็น บอร์ดรสก. กรณีมีกรรมการไม่เพียงพอที่จะทําหน้าที่ เป็น บอร์ดรสก. ตามมาตรา 37 วรรคสอง ต้องดําเนินการโดยเร็ว
มีรายงานว่า สำหรับ "วิธีการคัดเลือก" ที่นายภูมิธรรม ให้ไว้ จะพิจารณาเสนอรายชื่อผู้สมัครที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ต่อคณะกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจ พิจารณาคัดเลือก
ตามประกาศคณะกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเป็นรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2516
โดยกระทรวงมหาดไทย จะเสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ดํารงตําแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ ใน กฟภ. เพื่อดําเนินการเสนอแต่งตั้งตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ การพิจารณาคัดเลือกเพื่อดํารงตําแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจของคณะกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจ โดยถือว่าเป็นที่สิ้นสุด
สำหรับ คุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐาน สําหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เช่น
มีสัญชาติไทย / มีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์ ณ วันปิดรับสมัคร / มีคุณวุฒิและประสบการณ์เหมาะสมกับกิจการของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ / ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
ไม่เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิด ที่ได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ / ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
ไม่เคยต้องคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ํารวย ผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติท้องถิ่นแห่งกฎหมาย
ไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหาร ไม่เป็นข้าราชการการเมือง เว้นแต่เป็นการดํารงตําาแหน่งกรรมการตามบทบัญญัติ
ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่ ไม่เป็นผู้ถือหุ้นของรัฐวิสาหกิจนั้น หรือผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลที่รัฐวิสาหกิจนั้น
ไม่เป็นผู้ดํารงตําแหน่งใดในนิติบุคคลที่รัฐวิสาหกิจนั้นเป็นผู้ถือหุ้น เว้นแต่ คณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจนั้นมอบหมายให้ดํารงตําแหน่งกรรมการหรือดํารงตําแหน่งอื่นในนิติบุคคลที่รัฐวิสาหกิจนั้นเป็นผู้ถือหุ้น
ไม่ดํารงตําแหน่งเป็นกรรมการของรัฐวิสาหกิจแห่งอื่นแล้วเกิน 2 แห่ง ทั้งนี้ให้นับรวมการเป็นกรรมการโดยตําแหน่งและการได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการแทนในตําแหน่งกรรมการด้วย
"เป็นบุคคลที่มีจริยธรรมตามประมวลจริยธรรมสําหรับผู้บริหารและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ไม่เป็นอดีตผู้บริหารสูงสุดของ กฟภ. เว้นแต่พ้นจากตําแหน่ง ผู้บริหารสูงสุดของ กฟภ. แล้วอย่างน้อย 6 ปี ก่อนวันได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ
ของ กฟภ.
ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้น ภายหลัง ครม. (19 ส.ค.) เห็นชอบตามที่นายภูมิธรรม เสนอในการปรับเปลี่ยนประธานกรรมการ และกรรมการของรัฐวิสาหกิจ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า ควรที่จะเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่โดยเร็ว เนื่องจากหลายกิจการของรัฐวิสาหกิจ ต้องได้รับอนุมัติ หรือความเห็นชอบจากคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจก่อน
เช่นเดียวกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เห็นว่า ควรดำเนินการตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่กำหนดในพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2562
และประกาศ สคร. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ กรณีรัฐวิสาหกิจมีกรรมการไม่เพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2566 ประกาศ ณ วันที่ 10 พ.ย. 2566
"เฉพาะ กฟภ. มีการลาออกของประธาน และกรรมการ รวมจำนวน 8 คน เหลือคณะกรรมการ 5 คน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ส่วน กปภ. ก็เช่นเดียวกัน ในส่วนของประธานบอร์ดได้ลาออก แต่คณะกรรมการยังไม่มีการลาออก"
ครม.จึงมีมติ ให้คณะกรรมการทั้ง 2 คณะพ้นจากตำแหน่ง มีผล 19 ส.ค. และให้เสนอชื่อเข้ามาใหม่ใน ครม.ตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม. (29 มี.ค.2537) (เรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งและการพ้นจากตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ และบทกำกับข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ)
และ มติครม.(6 มิ.ย.2543) (เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจ) ด้วย
ทั้งนี้ 2 บอร์ดรัฐวิสาหกิจนี้ อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเดิมนั้น เป็นโควตาของพรรคภูมิใจไทย
ต่อมาหลังการปรับ ครม.ล่าสุดนั้นพรรคเพื่อไทย นั้นได้เข้ามากำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยแทน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทยอยลาออกของบอร์ดรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยไปบ้างแล้ว
แต่ยังไม่สามารถตั้งบอร์ดใหม่ได้ทำให้มีการใช้อำนาจตามมติ ครม.ในการดำเนินการในประเด็นนี้.
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO