ทองคำทุบสถิติใหม่ทะลุ 3,500 ดอลลาร์ ชี้ โอกาสไปได้ไกลถึง 3,700 ดอลลาร์
น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน เเอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสามารถขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลครั้งใหม่ที่ 3,508.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความถึงสาเหตุการตั้งภาษีกับอินเดียสูงถึง 50% เนื่องจากถูกอินเดียเอาเปรียบมาตลอด พร้อมกล่าวว่าการค้าระหว่างอินเดียและสหรัฐคือ หายนะด้านเดียวอย่างสิ้นเชิง ซึ่งการโพสต์ข้อความดังกล่าวได้สร้างสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างอินเดียและสหรัฐ ทำให้เกิดแรงซื้อทองเข้ามาในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้ วายแอลจี มองว่าภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ราคาทองคำจะสามารถทำระดับสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งและล่าสุดราคาทองคำได้ปรับขึ้นมาตามคาดการณ์ โดยเชื่อว่าในไตรมาส 4 ราคาทองคำจะยังเคลื่อนไหวในแดนบวก แม้ว่าจะมีการเทขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง และหากมองถึงปัจจัยในหลากหลายด้าน ก็ยังมีน้ำหนักต่อการเคลื่อนไหวของทองคำในเชิงบวก โดยเฉพาะแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ล่าสุดตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เช่น ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐนั้นอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ
อีกทั้ง เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Jackson Hole ว่า “ความเสี่ยงด้านการจ้างงานกำลังเพิ่มขึ้น และภาษีศุลกากรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับราคาเพียงครั้งเดียว ความสมดุลของความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไป อาจจำเป็นต้องปรับนโยบาย" ทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จนเป็นปัจจัยหนุนหลักต่อราคาทองคำ
นอกจากนี้ นโยบายทางการเงินของเฟดยังมีความเป็นไปได้ที่สูงขึ้น ว่าจะมีจุดยืนที่ผ่อนคลาย (Dovish stance) มากขึ้น นับตั้งแต่ โดนัลด์ ทรัมป์ มีความพยายามที่จะมีอิทธิพลต่อนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกดดัน เจอโรม พาวเวล ให้รีบทำการปรับลดดอกเบี้ยลงและลาออกจากประธานเฟด รวมไปถึงการสั่งปลด ลิซ่า คุก หนึ่งในผู้ว่าการเฟด ซึ่งนับเป็นการเข้าแทรกแซงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นตลอด 111 ปีที่ผ่านมา แต่ทางด้าน สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยังออกมาปกป้องการกระทำดังกล่าวของโดนัลด์ ทรัมป์ อีกทั้ง ยังมีความพยายามที่จะส่งคนสนิทอย่าง สตีเฟน มิแรน เข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการเฟด แทนที่ อาเดรียนา คูเกลอร์ ที่ลาออกไปในช่วงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ปีนี้จึงตั้งเป้าหมายราคาทองคำไว้ที่ 3,500 - 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ราคาจะทดสอบเป้าหมายแรกที่ระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไปแล้วถึงสองครั้ง ซึ่งหากสามารถยืนแล้วไปต่อได้พร้อมปัจจัยพื้นฐานเข้ามาสนับสนุน จะมีเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 3,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และระดับ 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ จึงแนะนำการลงทุนทองคำ ในระยะสั้นมองว่าทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 3,437-3,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และกรอบแนวต้าน 3,508-3,540ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ส่วนทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มองว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 52,500-54,100 บาทต่อบาททองคำ