หน่วยสกัดกั้นยาเสพติด เผย 6 เดือนสกัดยาบ้ากว่า 233 ล้านเม็ด
(8 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ตเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยทาง พลโทกิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ ผบ.นบ.ยส.35 แถลงผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเด็ดขาด และครบวงจร
โดยผลการปฏิบัติงานตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2568 รวม 6 เดือน ในพื้นที่เป้าหมาย 21 อำเภอชายแดนของ 6 จังหวัดประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน และตาก สามารถตรวจยึดยาบ้าได้ 233 ล้านเม็ดเศษ ไอซ์ 8,786 กิโลกรัม รวมถึงยาเสพติดชนิดอื่นและสารเคมีที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด นอกจากนี้สามารถทลายเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 24 เครือข่าย และยึดทรัพย์รวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งผลการปฏิบัติในห้วง 6 เดือนนี้ พบว่ายาบ้าที่ยึดได้ มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 33 ส่วนไอซ์ยึดได้เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว
ทั้งนี้แม่ทัพน้อยที่ 3 ได้กล่าวว่าการบูรณาการความร่วมของทุกภาคส่วนภายในโครงสร้าง นบ.ยส. 35 ถือเป็นจุดแข็งในการทำงาน ทั้งการข่าว สอบสวน ขยายผล รวมทั้งการสนับสนุนด้านอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย ทำให้การสกัดกั้นเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดได้ในหลายช่องทาง อย่างไรก็ตามพบว่าแนวโน้มของการลักลอบลำเลียงยาเสพติดยังคงมีปริมาณมาก เนื่องจากพบว่ามีกลุ่มผลิตกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นตามพื้นที่ชายแดน และมีความพยายามลักลอบลำเลียงในแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะการขนส่งผ่านระบบโลจิสติกส์ที่ตรวจพบเพิ่มมากขึ้นจากช่วงที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว
สำหรับพื้นที่ที่เป็นกังวล และมีการเฝ้าติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด คือพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดตาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบและมีข้อมูลที่ทำให้เชื่อว่า จะมีแหล่งผลิตในพื้นที่ชายแดนตากเพิ่มขึ้น ซึ่งได้มีการวางแผนร่วมกับ ปปส.ภาค 6 และเพิ่มความเข้มข้นของกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อลดช่องว่างไม่ให้มีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังพื้นที่ไทยได้อีกด้วย