เส้นทางคดีคลิปเสียง”อังเคิล” อีก15วัน ชี้ชะตา “แพทองธาร”
ก่อนนับถอยหลังคำวินิจฉัยศาลฯ 29 ส.ค. ปมคลิปเสียงฮุนเซน ส่อผิดจริยธรรมร้ายแรง เสี่ยงสิ้นสุดตำแหน่งตลอดกาล
16 ส.ค. จะเป็นวันครบ 1 ปี "แพทองธาร ชินวัตร" ได้รีบการโหวตจากสภา เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ของประเทศไทย แต่หลังจากนั้น จะเป็นช่วงของการนับถอยหลังสู่วันพิพากษา คดีคลิปเสียงสนทนากับ "สมเด็จฮุนเซน" ที่หมิ่นเหม่ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง
สุ่มเสี่ยงถูกประหารชีวิตทางการเมืองไปตลอดกาลตามที่สมาชิกวุฒิสภาได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะ 2 ประโยคสำคัญ "แม่ทัพภาค 2 อยู่คนละฝ่ายกับเรา" หรือประโยค "อังเคิลอยากได้อะไรให้บอกมา เดี่ยวจัดการให้" ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค.นี้
ที่มาของคดีนี้ เกิดขึ้นระหว่างที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กำลังตึงเครียด หลังเหตุยิงปะทะที่ช่องบก และขยายวง จนกองทัพบก มีการควบคุม จำกัดเวลา เปิดปิดด่านชายแดนกัมพูชาทั้งหมด มาแล้ว 1 สัปดาห์ มีการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย ปลุกปั่นกันตลอดเวลา กระทั่งช่วงสายของวันที่ 18 มิ.ย.2568 มีการส่งต่อคลิปเสียงสนทนา ที่คล้ายกับเสียงนายกฯ แพทองธาร
จนต่อมา ช่วงบ่ายนายกฯต้องมาแถลงด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอ ยอมรับเป็นเสียงของตัวเองจริง ๆ แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีการบันทึกเสียง และนำมาเผยแพร่ ช่วงค่ำวันเดียวกันพรรคภูมิใจ ประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ จากกรณีคลิปเสียง จน"แพทองธาร" ต้องปรับทัพ เกลี่ยตำแหน่งใหม่ เพื่อรั้งให้พรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น ๆ อยู่ต่อและสามารถทำได้สำเร็จ มีรัฐบาลมาจนถึงวันนี้
ถัดมาอีก 2 วัน คือ วันที่ 20 มิ.ย.สมาชิกวุฒิสภา จำนวน 36 คน เข้าชื่อยื่นคำร้องผ่าน "มงคล สุระสัจจะ" ประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิฉฉัยตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบ มาตรา 82 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ "แพทองธาร" สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา170 วรรคหนึ่ง (4)ประกอบมาตรา160 (4)และ. (5) หรือไม่
หลัง "แพทองธาร" ยอมรับว่า คลิปเสียงสนทนาเป็นของตนเองกับ "สมเด็จฮุน เซน" จริง และมีเนื้อหาพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 รวมถึง มีพฤติกรรมที่อาจทำให้กระทบอธิปไตยไทย กองทัพ และประชาชน
วันที่ 1 ก.ค. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ประชุมพิจารณาคำร้อง ที่ "มงคล สุระสัจจะ"ประธานวุฒิสภาส่งมา กรณีคลิปเสียง"แพทองธาร กับฮุนเซน" และศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9 ต่อ 0 รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และมติ 7 ต่อ 2 สั่งให้ "แพทองธาร" หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย และให้โอกาส "นายกฯอิ๊งค์" ชี้แจงภายใน 15 วัน
วันที่ 15 ก.ค. "พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช" เลขาฯนายกฯ ได้ยื่นขยายเวลาชี้แจงคดีจริยธรรมของ "แพทองธาร" ต่อศาลรัฐธรรมนูญออกไปอีก 15 วัน และต่อมาวันที่ 29 ก.ค.ก็มีการยื่นขยายเวลาอีกครั้ง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็ใจดีอนุญาติ แต่ให้ขยายแค่ 4 วัน กำหนดให้วันที่ 4 ส.ค. เป็นวันสุดท้ายและ นายกฯ ก็ได้ส่งตามเวลา
วันที่ 13 ส.ค. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการประชุม พิจารณาคำร้อง กรณีคลิปเสียง"แพทองธาร กับฮุนเซน" โดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา จึงกำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคล 2 ปาก คือ ผู้ถูกร้อง และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 10.30 น.
หากไม่มาตามกำหนดนัดถือว่าไม่ติดใจเป็นพยานบุคคล และให้ผู้ร้อง หรือผู้ถูกร้อง ที่ประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดีให้ยื่นเป็นหนังสือต่อศาลภายในวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หากไม่ยื่นภายในกำหนด ถือว่าไม่ติดใจยื่น โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 นาฬิกา นัดฟังคำวินิจฉัย เวลา 15.00 นาฬิกา เป็นต้นไป
ดังนั้น ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะก่อนหน้านี้ มีข่าวลือ ข่าวปล่อยอย่างต่อเนื่อง ว่า "แพทองธาร" จะลาออกก่อนศาลตัดสิน รวมถึงบางแหล่งข่าวระบุว่า จะลาออกหลังร่างพรบ.งบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2569 วาระ2 และ3 ผ่านสภา ในสัปดาห์นี้ เพราะหากลาออกคดีจะถูกจำหน่ายทันที จะไม่ต้องถูกตัดสินว่าผิดจริยธรรมร้ายแรงเหมือน"เศรษฐา ทวีวิน" นายกฯคนก่อนหน้า แต่ทั้ง 2 ข่าวลือ ก็ถูกคนในรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยปฏิเสธไปหมดแล้ว 15 วันก่อนศาลตัดสิน จะมีอะไรเซอร์ไพรซ์ หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews