ลุ้นไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินรอบใหม่ รฟท.เร่งตรวจสัญญา-ส่ง ครม.ใน 2 เดือน
ร.ฟ.ท.ขอ 2 สัปดาห์ตรวจร่างแก้ไขสัญญา “รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน” หลังอัยการสูงสุดส่งกลับมาแล้ว พร้อมประชุมบอร์ดรถไฟฯฉุกเฉิน เรียก “เอเชีย เอราวัน” หารืออีกรอบ ก่อนส่งบอร์ด EEC ชงเข้า ครม. หากต้องยกเลิกสัญญา ต้องมีเหตุผลชัด พร้อมผู้รับผิดชอบ ไม่บ่ายเบี่ยงหากรัฐจะให้ ร.ฟ.ท.ลงทุนทำเอง ถ้าเอกชนขอถอย ด้าน “จุฬา” เลขาฯ EEC คาดจบภายใน ต.ค. 68 นี้
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้รับการตอบกลับจากอัยการสูงสุดในส่วนของการแก้ไขร่างสัญญาร่วมทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) เรียบร้อยแล้ว จากนี้จะต้องรอการตรวจสอบเอกสาร หากอัยการสูงสุดเห็นด้วยกับร่างที่ ร.ฟ.ท.ส่งไป จะเรียกบริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ผู้ชนะการประมูลและเป็นเอกชนคู่สัญญาเข้ามาหารือและรับทราบ จากนั้นจะเรียกประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท.ฉุกเฉิน ซึ่งในส่วนนี้อาจใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และจากนั้นจะส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด EEC) น่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 15 วัน จากนั้นจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมแล้วคาดว่าใช้เวลาประมาณ2 เดือนนับจากนี้
“ในร่างสัญญาที่แก้ไขไปนั้น เป็นของคณะกรรมการร่วมระหว่างเอกชนกับ ร.ฟ.ท. ถ้าทางอัยการไม่ต้องแก้ไขอะไรกลับมา เราก็เรียกเอกชนมาหารือว่า จากหลักการของอัยการต่าง ๆ ติดขัดอะไรหรือไม่ แต่ถ้าอัยการตรวจมาแล้ว ทุกฝ่ายจะสบายใจเรื่องข้อกฎหมายมากขึ้น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว ก็ส่งเข้าบอร์ด EEC เข้า ครม.พิจารณา”
นายวีริศกล่าวว่า คาดว่าภายในปลายปี 2568 นี้ จะชัดเจนว่าจะไปต่อกันแบบไหน ทางออกจริง ๆ ถ้าเอกชนยังคงไม่พอใจในสิ่งที่แก้ไข จำเป็นต้องใช้วิธีการต่อรองกันใหม่ สำหรับทางออกอื่น เช่น การยกเลิกสัญญานั้น ต้องยอมรับว่าการยกเลิกสัญญาของหน่วยงานรัฐนั้น มันมีเหตุระบุไว้ว่า มีกี่ข้อที่สามารถยกเลิกสัญญาได้ ยกเลิกเพราะอะไร แล้วการยกเลิกสัญญา ถ้ามีความขัดแย้งหรือมีผู้เสียประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน จะต้องมีคนรับผิดชอบ ดังนั้น การที่จะไปยกเลิก จำเป็นต้องพิจารณาต่อว่า ยกเลิกอย่างไร และด้วยเหตุผลใด ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะฉะนั้นมันจะเป็นสเต็ปต่อไป ที่ไม่สามารถพูดได้ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม หากนโยบายรัฐต้องการให้ ร.ฟ.ท.เป็นผู้ลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทาง ร.ฟ.ท.เองปัจจุบันมีศักยภาพในการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ไปที่ จ.หนองคาย อยู่ในขณะนี้ จึงไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวล ขึ้นอยู่กับรัฐว่าจะมีนโยบายออกมาอย่างไร ทั้งนี้ อาจจำเป็นต้องพิจารณารูปแบบของการดำเนินโครงการกันใหม่ ด้วยการศึกษาว่าหากรัฐต้องลงทุนเอง รัฐจะต้องใช้เงินแค่ไหน ดังนั้น การที่มีเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนด้วยเป็นรูปแบบที่ดี เพราะที่รัฐไม่ต้องนำเงินส่วนหนึ่งมาลงทุน
“รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินช้ากว่าแผนมามาก แต่ความเสียหายตอนนี้เราไม่ได้มีการมอนิเตอร์ในส่วนนี้ เรารู้ว่ามันล่าช้ามานาน จากเดิมที่ต้องจบตั้งแต่เมษายน 2568 ต้องยอมรับว่าในช่วงนั้น เมื่อเซ็นสัญญาแล้ว มีกรณีที่เกิดเหตุโควิด-19 ขึ้น ที่ทำให้โครงการชะงักไป ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาด ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ต้องไปประเมินกันว่า มีความเสียหายอะไรบ้าง เสียหายเท่าไหร่ และใครจะต้องรับผิดชอบอย่างไร”
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือ EEC) กล่าวว่า จะมีขั้นตอนที่ต้องเข้าคณะกรรมการกำกับดูแลตามกฎหมายก่อน หลังจากที่ ร.ฟ.ท.ตรวจเอกสารจากอัยการสูงสุดแล้วครั้งหนึ่ง จากนั้นจะส่งตัวร่างสัญญาที่แก้ไขแล้วมาที่บอร์ด EEC แล้วเข้า ครม. จากนั้นก็ต้องเรียกเอกชนเข้ามา เพื่อมาตรวจสอบสัญญาตัวใหม่ และเซ็นสัญญาฉบับใหม่ได้เลย คาดว่ากระบวนการทุกอย่างจะจบภายในเดือนตุลาคม 2568 นี้แน่นอน
“เราอยากให้จบตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่ก็ต้องรอทางอัยการเอาสัญญาที่แก้แล้วไปตรวจเรื่องถ้อยคำก่อน เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า หากสัญญาผ่านการพิจารณาจากอัยการ ก็เชื่อว่า มีความถูกต้อง จะไม่ต้องถูกเลื่อนออกไปอีก เพราะมันเป็นตามกระบวนการของมันแล้ว จากนั้นจะนำไปสู่การพิจารณากระบวนการต่อไป ซึ่งไม่น่าเกินปลายปีนี้ หรือให้จบภายในเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ ส่วนจะไปต่อหรือไม่ไปต่อ ไม่เกี่ยวว่าเอกชนจะยังไง เพราะตามหลักการ เขายอมรับสัญญาที่แก้แล้ว จึงส่งไปที่อัยการสูงสุดพิจารณา ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการแก้ถ้อยคำในสัญญาเท่านั้น ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็จบ อยากให้จบเพื่อจะได้ไปทำโครงการอื่นต่อ”
รายงานข่าวแจ้งว่า อุปสรรคของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในขณะนี้ ถือว่าน่าจะผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเอกชนผู้ชนะการประมูลยังคงยืนยันว่า จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อ เมื่อสัญญาผ่านการพิจารณาเรียบร้อย ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการจัดหาแหล่งเงิน เพื่อนำมาเริ่มโครงการ แต่ที่น่ากังวล คือ ปัจจัยเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งไม่แน่ใจว่า ครม.จะสามารถพิจารณาเรื่องนี้ในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้หรือไม่
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ลุ้นไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินรอบใหม่ รฟท.เร่งตรวจสัญญา-ส่ง ครม.ใน 2 เดือน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net