"ชวน" วอน รัฐบาล ดูแลทหารแนวชายแดน อย่างเท่าเทียม
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในมาตรา 6 งบกลาง ระบุถึงกรณีที่ ครม.มีมติเห็นชอบวงเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยรัฐบาลได้ประกาศเยียวยาให้ผู้เสียชีวิตและทุพพลภาพ หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ รายละ 10 ล้านบาท บาดเจ็บสาหัส 1 ล้านบาท บาดเจ็บมาก 5 แสนบาท ส่วนกรณีประชาชนเสียชีวิตและทุพพลภาพ รายละ 8 ล้านบาท บาดเจ็บสาหัส 8 แสนบาท บาดเจ็บมาก 4 แสนบาท
จะเป็น 10 ล้าน20 ล้าน หรือ 100 ล้านกับชีวิตที่เสียไป ไม่อาจจะเทียบได้ ผมยืนยันว่า ผมพูดเรื่องนี้มาหลายครั้ง เราเสียหายจากความผิดพลาดทางนโยบายเศรษฐกิจจะเสียหายกี่แสนล้านบาทก็ไม่อาจเทียบได้กับชีวิตที่เสียไปกับความผิดพลาดในนโยบายความมั่นคงกรณีภาคใต้
นายชวน กล่าวต่อว่านับตั้งแต่นโยบาย 8 เมษายน 2544 บัดนี้สูญเสียชีวิตเจ้าหน้าที่ทหารในกองทัพไทย และประชาชนเป็นจำนวนมากกว่า 8 พันคน ไม่นับรวมผู้บาดเจ็บและทุพพลภาพที่มีมากกว่า 1 หมื่นคน เราต้องเห็นคุณค่าชีวิตมากกว่าตัวเงิน จะต้องคิดว่าความมั่นคงมีเหมือนกันทุกภาค ตนเองเคยไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทุกปีในภาคใต้ ทุกคนปรารภเหมือนกันว่าหากจะได้เงินเยียวยาเพิ่มก็จะเป็นประโยชน์
มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังกล่าว อาจเกิดความรู้สึก 2 ด้าน โดยเฉพาะด้านที่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เจ้าหน้าที่รู้สึกว่ามีความเหลื่อมล้ำ ทั้งยังหวังว่ารัฐบาลจะช่วยปรับค่าชดเชยที่เขาได้รับให้เพิ่มขึ้น จะสิบล้านบาท แปดล้านบาทก็เป็นอีกเรื่อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ในภาคใต้เสี่ยงไม่ต่างจากทหารในชายแดนไทย-กัมพูชา ดังนั้นคนในพื้นที่ย่อมมีความรู้สึกว่าเหลื่อมล้ำหรือแตกต่าง จึงขอเรียนเพื่อประโยชน์ของรัฐบาลว่า เราต้องการความสามัคคี รัฐบาลก็เรียกร้องความสามัคคี แต่ความสามัคคีจะเกิดขึ้นเมื่อเราปฏิบัติกับคนอย่างเดียวกัน จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าไม่ถูกเลือกปฏิบัติ
ฉะนั้น พื้นที่อื่นที่มีสถานการณ์เสี่ยงอย่างเดียวกัน จะปรับค่าชดเชยให้เท่ากับสถานการณ์ในชายแดนไทย-กัมพูชาหรือไม่ หากไม่สามารถทำได้ จะมีความคิดที่จะปรับค่าชดเชยได้หรือไม่ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บพอที่จะมีโอกาสใช้งบกลางเพื่อเพิ่มรายจ่ายให้กับครอบครัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้หรือไม่ คนน้อยใจจะได้หมดความน้อยใจ ท้ายที่สุดคนที่เสี่ยงเหมือนกันจะได้รับการตอบแทนเช่นเดียวกัน