Apple พลิกยอดโตในจีน ครั้งแรกรอบ 2 ปี รับอานิสงส์นโยบายอุดหนุนรัฐ
Apple บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากแคลิฟอร์เนียรายงานว่า ในไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา มียอดขายสุทธิในจีนอยู่ที่ 15.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.24 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 14.7 พันล้านดอลลาร์ (ราว 4.99 แสนล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่รายได้รวมของ Apple ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 10% แตะ 94 พันล้านดอลลาร์ (ราว 3.20 ล้านล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 23.4 พันล้านดอลลาร์ (ราว 7.96 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบรายปี
ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple กล่าวระหว่างการแถลงผลประกอบการว่า การขยายมาตรการอุดหนุนของรัฐบาลจีนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันยอดขาย “นี่เป็นไตรมาสแรกเต็มที่เราได้เห็นผลของมาตรการอุดหนุน”
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาจีนได้ขยายโครงการอุดหนุนการเปลี่ยนสินค้าเก่าเป็นใหม่ ให้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ดิจิทัลอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายของ Apple ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนอย่าง JD.com และ Tmall ของอาลีบาบา
ต่อมาในเดือนมิถุนายน Apple ได้เข้าร่วมในโครงการนี้โดยตรงผ่านหน้าร้านของตนในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ เสนอส่วนลดสูงสุด 2,000 หยวน (ราว 9,500 บาท) สำหรับคอมพิวเตอร์ และสูงสุด 500 หยวน (ราว 2,380 บาท) สำหรับ iPhone, iPad และ Apple Watch
ข้อมูลจาก Counterpoint Research ระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนของ Apple ในจีนช่วงไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า ถือเป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 2 ปี และแอปเปิลยังคงครองอันดับ 3 ในตลาดสมาร์ทโฟนจีน รองจากหัวเว่ยและวีโว่
อย่างไรก็ตาม แม้ยอดขายจะเริ่มฟื้นตัว Apple ยังเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง โดยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา Apple ประกาศปิดร้านค้าปลีกในเมืองต้าเหลียน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ถือเป็นการปิดร้านครั้งแรกในประเทศนับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดจีนเมื่อปี 2008
ที่มาYicaiglobal