เปิดไทม์ไลน์ ‘ทีมไทยแลนด์’ เจรจาภาษีทรัมป์ 7 เดือนเต็ม ก่อนปิดดีล 19%
ถือเป็นข่าวดีของประเทศไทยซึ่งในที่สุดได้บรรลุข้อตกลงภาษี Reciprocal Tariffs กับสหรัฐ หลังจากการที่ประกาศอัตราภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดิสหรัฐ สร้างความปั่นป่วนครั้งใหม่แก่กติกาการค้าโลก ส่งผลให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ส่งออกและนักลงทุน ต่างหวั่นวิตกและจับตาผลการเจรจาการค้าของทีมเจรจาไทยกันอย่างใกล้ชิด
“กรุงเทพธุรกิจ” พาย้อนไทม์ไลน์การทำงานของรัฐบาลและ “ทีมไทยแลนด์” นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ที่ร่วมกันทำงานอย่างหนักจัดทำข้อเสนอของไทยซึ่งนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงภาษีสหรัฐ ในอัตราที่ไทยยังสามารถแข่งขันได้ในภูมิภาค
เปิดไทม์ไลน์เจรจาภาษีทรัมป์
2 เม.ย.68ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) 185 ประเทศ ไทยโดนเก็บที่อัตรา 36% มีผลวันที่ 9 เม.ย.668
3 เม.ย.68นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ด่วน กำหนดแนวทาทางรับมือผลกระทบภาษีทรัมป์ จัดเตรียมข้อเสนอปรับสมดุลการค้ากับสหรัฐ
5 เม.ย.68 เปิดทีมคณะทำงานนโยบายการค้า มีกุนซือบ้านพิษณุโลก ร่วมคณะ (นายกฯ ลงนามแต่งตั้ง 6 ม.ค.68 ก่อนทรัมป์รับตำแหน่ง)
8 เม.ย.68นายกฯ ถกทีมไทยแลนด์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการรับมือเน้นประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน หลักการวิน-วิน ทั้งสองฝ่าย
9 เม.ย.68โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเลื่อนจัดเก็บภาษี Reciprocal Tariffs ชั่วคราวออกไป 90 วัน กำหนดเส้นตายใหม่วันที่ 9 ก.ค.68
17-23 เม.ย.68ทีมไทยแลนด์ นำโดย 2 “พิชัย” ได้แก่ พิชัย ชุณหวชิร และพิชัย นริพทะพันธุ์ บินตรงสหรัฐ หารือภาษีร่วมกับผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR)
นำเสนอ 5 มาตรการในการเจรจา
1.การสร้างความเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจ
2.การเปิดตลาดและลดภาษี
3.การเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ
4.การตรวจสอบมาาตรการป้องกันการสวมสิทธิ์จากประเทศที่ 3
5.การส่งเสริมการลงทุนไทยในสหรัฐ
29 เม.ย.68นายกฯ สั่งการทุกหน่วยงานเตรียมข้อมูลหลังอาเซียนเห็นพ้องผนึกกำลังร่วมหาจุดเด่นต่อรองทรัมป์
3 ก.ค.68 พิชัย ชุณหวชิร หัวหน้าทีมไทยแลนด์บินด่วนหารือ USTR เป็นทางการครั้งแรก ถกภาษีทรัมป์ ชูแนวทางวิน-วิน ได้ประโยชน์ทั้งไทย-สหรัฐ
8 ก.ค.68"โดนัลด์ ทรัมป์" ส่งจดหมายถึงไทย เรียกเก็บภาษีอัตรา 36% โดยยืดเวลามีผลบังคับใช้วันที่ 1 ส.ค. 68 จากเดิม 9 ก.ค.68
11 ก.ค.68 ประชุมทีมไทยแลนด์ ร่วมกับ กุนซือบ้านพิษณุโลก ”พิชัย“ เชิญ ”ดร.ทักษิณ” ให้คำแนะนำแผนรับมือภาษีทรัมป์ มั่นใจปิดดีลทันเส้นตาย 1 ส.ค. และอัตราภาษีไม่เกิน 20%
26 ก.ค.68”ทรัมป์” โทรสายตรงถึง “ภูมิธรรม” รักษาราชการแทนนายกฯ กดดันผู้นำไทย-กัมพูชา ยุติการสู้รบ หากไม่หยุดยิงจะไม่ทำข้อตกลงการค้าใดๆ กับทั้ง 2 ประเทศ
28 ก.ค.68“ภูมิธรรม”-“ฮุน มาเนต” เผชิญหน้าบนโต๊ะเจรจาที่มาเลเซีย โดยมีนายกฯ มาเลเซีย ประธานอาเซียน เป็นผู้ประสานงาน พร้อมด้วยตัวแทนสหรัฐและจีนร่วมไกล่เกลี่ย โดย 2 ประเทศบรรลุข้อตกลงหยุดยิงทันที “ทรัมป์”ยินดีกลับสู่โต๊ะเจรจาภาษี
29 ก.ค.68“พิชัย” หัวหน้าทีมไทยแลนด์ ยืนยันเจรจาภาษีทรัมป์ต่อเนื่องหลังบรรลุข้อตกลงหยุดยิงตามข้อเสนอของทรัมป์
30 ก.ค.68ทีมไทยแลนด์ปรับแก้และยื่นข้อเสนอรอบสุดท้าย ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 ส.ค.
1 ส.ค.68ทำเนียบขาวประกาศเก็บภาษี Reciprocal Tariff ไทย ที่อัตรา 19% เทียบเคียงประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ลดความร้อนแรงการแข่งขันด้านภาษี
นายพิชัย เปิดเผยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 ส.ค. ระบุว่า การประกาศ Tariff rate ที่ 19% สะท้อนถึงมิตรภาพ และความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย-สหรัฐ
ช่วยให้ไทยยังคงแข่งขันได้ในเวทีโลก สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ และโอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศไทย
การทำงานยังไม่สิ้นสุด รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และพี่น้องเกษตรกร จึงได้จัดเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งงบประมาณ Soft Loan เงินอุดหนุน มาตรการภาษี และการปฏิรูปกฎระเบียบที่จำเป็น เพื่อยกระดับให้ไทยสามารถปรับตัว และก้าวสู่โลกเศรษฐกิจในอนาคตได้อย่างมั่นใจ
ผลการเจรจาครั้งนี้เป็นสัญญาณให้ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัว เดินหน้าสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง แข็งแกร่ง และพร้อมรับมือกับความท้าทายของโลกในอนาคต
"ขอบคุณทีมไทยแลนด์สำหรับความทุ่มเท และความพยายามอย่างเต็มที่ในสถานการณ์ที่ยากจะควบคุม แต่เรายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องสู้ต่อไป เพื่อประเทศไทยของพวกเราทุกคน"นายพิชัย กล่าว