หุ้นสหรัฐฯได้แรงหนุนจาก กม. OBBBA ตัวเลขการจ้างงานดีกว่าคาด
#หุ้นสหรัฐ #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.เอเซียพลัส
.
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี (DJIA +0.77%, S&P500 +0.83%, Nasdaq +1.02%) โดยดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปรับตัวขึ้นทำจุด All Time High อีกครั้ง หลังได้รับแรงหนุนจากการรายงานตัวเลขการจ้างงานที่ดีกว่าคาด รวมถึงการผ่านร่างงบประมาณ One Big Beautiful Bill Act ของ Trump ซึ่งช่วยให้รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ลงได้ ทั้งนี้ ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้างในหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในกลุ่ม Cyclical นำโดย Information Technology +1.29%, Financial +1.08% และ Industrials +0.82%
.
สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานดีกว่าที่ตลาดคาด นำโดย Nonfarm Payrolls เดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.47 แสนตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดและเดือนก่อนที่ 1.06 แสนตำแหน่ง และ 1.44 แสนตำแหน่ง ตามลำดับ เช่นเดียวกับตัวเลข Unemployment Rate ที่รายงานออกมา 4.1% (ตลาดคาด 4.3% vs. เดือนก่อน 4.2%) และ Initial Jobless Claims ที่ 2.33 แสนราย (ตลาดคาด 2.41 แสนราย vs. เดือนก่อน 2.37 แสนราย) โดยตัวเลขแรงงานที่ดีกว่าคาดส่งผลให้ตลาดลดน้ำหนักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed โดยอิงจาก FedWatch Tool ในปัจจุบันที่เพิ่มโอกาสการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-450% ในการประชุม Fed เดือน ก.ค. มาอยู่ที่ 94.8% เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 76.2% ขณะที่น้ำหนักการคงอัตราดอกเบี้ยรอบประชุมเดือน ก.ย. ขยับขึ้นมาเช่นกัน (32.8% vs. วันก่อนหน้าที่ 6.3%)
.
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายการคลัง One Big Beautiful Bill Act (OBBBA) มูลค่า $3.4 ล้านล้าน ของประธานาธิบดี Trump ด้วยคะแนนเสียงเฉียดฉิว 218 ต่อ 214 เสียง ซึ่งเสนอการลดภาษี ขยายเพดานหนี้สาธารณะ ตัดงบสวัสดิการรัฐ โดยมีไฮไลต์สำคัญ อาทิ 1) ลดภาษีรวม $4.5 ล้านล้าน ครอบคลุมทั้งรายบุคคล ธุรกิจ และกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก คนชรา และแรงงาน OT/ทิป 2) ตัดงบ Medicaid เกือบ $1 ล้านล้าน ใน 10 ปี พร้อมกำหนดเงื่อนไขการทำงานและร่วมจ่ายสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์ 3) ยกเลิกเครดิต EV $7,500 มีผลหลัง 30 ก.ย. นี้ และทยอยยกเลิกสิทธิพลังงานสะอาดจากสมัยอดีตประธานาธิบดี Biden 4)เพิ่มเพดานหนี้สาธารณะอีก $5 ล้านล้าน เพื่อเลี่ยงวิกฤตผิดนัดชำระหนี้ที่มีการประเมินว่าอาจเกิดขึ้นภายในกลางเดือน ส.ค. 5) เสริมงบความมั่นคงและโครงการ “Golden Dome” ป้องกันขีปนาวุธ 6) ขยายลดหย่อน SALT ที่จ่ายให้แก่รัฐและท้องถิ่นเป็นการชั่วคราว 5 ปี จาก $10,000 เป็น $40,000
.
ด้านภาษีการค้า ประธานาธิบดี Trump เปิดเผยว่า สหรัฐฯ อาจเริ่มส่งจดหมายแจ้ง "อัตราภาษีแบบฝ่ายเดียว" (Unilateral Tariff Rates) ไปยังประเทศคู่ค้าต่างๆ ภายในวันศุกร์นี้ ก่อนเส้นตายการเจรจาในวันที่ 9 กรกฎาคม โดยระบุว่าอัตราภาษีใหม่จะถูกกำหนดหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันเวลา Trump กล่าวว่า “เราน่าจะเริ่มส่งจดหมายออกไปพรุ่งนี้ อาจจะวันละ10 ฉบับ บอกแต่ละประเทศว่าต้องจ่ายภาษีเท่าไรเพื่อจะทำธุรกิจกับสหรัฐฯ” พร้อมระบุว่า “มันง่ายกว่าการเจรจามาก”
.
-นอกจากนี้ Trump ยังหนุนร่างกฏหมายกำหนดอัตราภาษีศุลกากรสูงถึง 500% ต่อจีนและอินเดีย เพื่อกดดันให้ประธานาธิบดีPutin ของรัสเซียเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับยูเครน ตามการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว ABC News ของ Lindsey Graham วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งกล่าวว่า “อินเดียและจีนซื้อน้ำมันของ Putin ถึง 70% ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เครื่องจักรสงครามของรัสเซียเดินหน้าต่อไปได้” และ “ผมมีรายชื่อผู้สนับสนุนร่างกฎหมายคว่ำบาตรรัสเซียฉบับนี้แล้ว 84 คน…ผมคิดว่าร่างกฎหมายนี้จะผ่านการอนุมัติ”
.
-Datadog (DDOG US) +14.92% หลังถูกประกาศเข้าดัชนี S&P 500 แทนที่ Juniper Network (JNPR US) การเข้าร่วม S&P 500 ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยยกระดับสถานะของ Datadog ในตลาดทุน เพราะกองทุนดัชนีและ ETF ที่อิง S&P 500 จำเป็นต้องซื้อหุ้น Datadog เพื่อให้พอร์ตมีน้ำหนักตามดัชนีส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นสาเหตุหลักที่ดันราคาหุ้นเพิ่มขึ้นทันทีหลังข่าวประกาศ (รายละเอียดเพิ่มเติมใน Stock Highlight)
.
-Reuters ระบุว่า สถิติจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวชี้ว่า ชาวอเมริกันจะเดินทางช่วงวันหยุด 4 กรกฎาคมปีนี้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งทางรถยนต์และเครื่องบิน โดยสมาคมรถยนต์อเมริกัน (AAA) คาดว่าจะมีผู้เดินทางมากกว่า 72.2 ล้านคน ที่เดินทางไกลเกิน 80 กิโลเมตร ตลอดช่วงวันหยุดยาว 8 วัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 1.3 ล้านคนที่เดินทางบนถนน และอีก 80,000 คนที่เลือกเดินทางทางอากาศ นอกจากนี้ 1) ข้อมูลจากแอปจองการเดินทาง Hopper ระบุว่า ราคาตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศปีนี้ลดลงถึง 13% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ตั๋ว ภายในประเทศลดลงราว 3% 2) Vrbo แพลตฟอร์มจองที่พักในเครือ Expedia รายงานว่าปีนี้มีนักเดินทางที่จองที่พักแบบนาทีสุดท้าย (ภายใน 1 เดือนก่อนออกเดินทาง) เพิ่มขึ้น 15% 3)United Airlines คาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีกราว 500,000 คน ในช่วง 10วันรอบวันหยุด 4 กรกฎาคม และยอดจองเที่ยวบินต่างประเทศเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน เช่นเดียวกับ American Airlines คาดเช่นกันว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้น 5% ในช่วงเวลาเดียวกัน
.
-ฝ่ายกลยุทธ์ฯ มองแนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดที่แข็งแกร่ง พร้อมกับแรงหนุนจากผลประกอบการของ Carnival ที่ออกมาดี และความกังวลต่อภาษีทางการค้าที่ดูมีพัฒนาการที่ดีขึ้นแม้ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทำให้เรามองว่าจะเป็น Sentiment หนุนต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกและแนะนำเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว โดยเฉพาะหุ้นอย่าง Booking Holdings (BKNG US) (แนวรับ: 5585/5412 แนวต้าน: 5805/5895) , Royal Caribbean (RCL US) (แนวรับ: 316/305 แนวต้าน: 342/357), Carnival (CCL US) (แนวรับ: 26.8/24.5 แนวต้าน: 33.4/40) และ Disney (DIS US) (แนวรับ: 114/107 แนวต้าน: 126.5/141) ที่ภาพรวมของธุรกิจและแนวโน้มที่ยังดูแข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นสายการบินอย่าง Delta Air Lines (DAL US) (แนวรับ:48/46 แนวต้าน:52.1/56) และ United Airlines (UAL US) (แนวรับ:77/72 แนวต้าน: 87/92) แม้จะยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ต้องระมัดระวังเนื่องจากลักษณะของธุรกิจมีความผันผวนสูงกว่า (รายละเอียดเพิ่มเติมใน Stock Highlight)
.
- หุ้นกลุ่มซอฟต์แวร์ออกแบบชิปปรับตัวขึ้นแรง นำโดย Synopsys (SNPS US) +4.90% และ Cadence Design Systems (CDNS US) +5.10%หลังสหรัฐฯ ยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกไปยังจีน หลังก่อนหน้านี้ ข้อจำกัดที่ประกาศใช้เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมได้ปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงตลาดที่มีสัดส่วนรายได้มากกว่า 10% ของบริษัทใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ ส่งผลกระทบต่อประมาณการรายได้และทำให้ราคาหุ้นร่วงลง
.
-ฝ่ายกลยุทธ์ฯ มองว่าการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์ออกแบบชิป (EDA) ของสหรัฐฯ ต่อจีนเป็นสัญญาณบวกต่อทิศทางความสัมพันธ์การค้าระหว่างสองประเทศ แม้จะเป็นการผ่อนคลายเพียงบางส่วน ซึ่งสะท้อนแนวโน้มลดความตึงเครียดในสงครามชิป (Chips war) และคาดจะช่วยหนุน Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในระยะสั้น โดยเรายังคงมุมมองเชิงบวก และแนะนำเก็งกำไรในหุ้นเด่นของกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ อาทิ TSMC (แนวรับ: 214/198 แนวต้าน: 261/284), Nvidia (แนวรับ: 143/132 แนวต้าน: 163/185), AMD (แนวรับ: 131/121 แนวต้าน: 153/171), Broadcom (แนวรับ: 245/225 แนวต้าน: 301/324), Marvell (แนวรับ:73/68 แนวต้าน: 81/88), Micron(แนวรับ:118/111 แนวต้าน: 130/139), และ SK Hynix(แนวรับ:246,500/230,500 แนวต้าน: 299,500/338,500) โดยเน้นโอกาสจากความต้องการชิปขั้นสูงที่ยังแข็งแกร่งทั่วโลก (รายละเอียดเพิ่มเติมใน Stock Highlight)
.
-ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ (Independence Day) ทั้งนี้ ติดตามรายงานตัวเลขดัชนี PPI (พ.ค.) ของยูโรโซน ตลาคคาด -0.6% MoM (+0.3% YoY)จากเดือนก่อน -2.2% MoM (+0.7% YoY) ด้าน ECBWatchTool ชี้ว่า ตลาดให้น้ำหนัก 96% ที่ ECBน่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Facility Rate) อีก 0.25% สู่ระดับ 1.75% ในการประชุมเดือน ก.ค. และคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมที่เหลือของปีนี้ซึ่งบ่งชี้ว่าวงจรอัตราดอกเบี้ยขาลงของ ECB ใกล้จุดสิ้นสุดแล้ว
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้