โฆษกทบ. เผยกองทัพไทย-กัมพูชา หารือแล้ว ด้านโฆษกรัฐบาลระบุไทยเตรียมส่งหลักฐานแจง ‘สหรัฐฯ-จีน’ หลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่ายนี้
วันนี้ (29 กรกฎาคม) พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ล่าสุด แม่ทัพภาคที่ 2 ได้หารือกับ รองผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 แล้ว โดยมีรายละเอียด ผลการหารือ ดังนี้ ที่ ช่องจอม หยุดยิงและห้ามยิงต่อประชาชน หยุดเพิ่มเติมกำลัง ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง และอำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต พร้อมจัดตั้งชุดประสานงานเพื่อแก้ปัญหา ฝ่ายละ 4 นาย อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการหารือการจัดการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568
ด้าน จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล แถลงถึงการติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด ว่า ยังมีการละเมิดข้อตกลงในการหยุดยิงในหลายพื้นที่ ซึ่งการรอเวลาตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึง 10.00 น. ของวันนี้ เนื่องจากจะต้องรอการสรุปสถานการณ์ จากกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ว่ามีการละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงในจุดใดและมีพยานหลักฐานเช่นใดบ้าง
จิรายุกล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ย้ำ 4 ประเด็นดังนี้ คือ 1.ให้กองทัพปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนไทยอย่างเต็มที่และตรึงกำลังจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น 2. ย้ำในจุดยืนการเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับประเทศ และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับประเทศ 3. ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลพี่น้องที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดน ส่วนการอพยพกลับ ขอให้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์เรือนชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ในช่วงบ่ายวันนี้ ให้มีการตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อน 4. ให้ ศบ.ทก. ประชุมอย่างต่อเนื่องและแจ้งต่อพี่น้องประชาชน
ส่วนการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ ศบ.ทก. ในเวลา 09.30 น. ยังมีการรายงานความคืบหน้า และรัฐบาลไทยจะทำเอกสารส่งไปให้ผู้สังเกตการณ์ คือสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ว่ากัมพูชายังมีการละเมิดการยิงหลังเที่ยงคืน
ส่วนที่สื่อของกัมพูชารายงานว่ากองทัพกัมพูชาหยุดยิงแล้ว เป็นสิทธิ์ที่กัมพูชาจะชี้แจง แต่กองทัพไทยยังคงตรึงกำลัง และรักษาอธิปไตยอยู่อย่างต่อเนื่อง
“จริงๆ แล้วเราเดินแนวทางกองทัพอย่างสุภาพบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติภารกิจ ทั้งทางอากาศ ทางบก หรือทางใดก็แล้วแต่ เรามีความเป็นสุภาพบุรุษทางทหาร จะเห็นได้ว่าเป้าหมายต่างๆ ของกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมาเราไม่เคยลงในจุดพลเรือน ในทางกลับกันเป็นที่ประจักษ์เป็นหลักฐานไปทั่วโลกว่าเราโดนกระทำอย่างต่อเนื่อง”
จิรายุกล่าวอีกว่า ด้วยการเจรจาของ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เรายืนยันว่าเสรีภาพและสันติภาพ ย่อมเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในช่วงบ่าย เมื่อมีการส่งหนังสือไปยังผู้สังเกตการณ์จะต้องมีการนำรายละเอียดเข้าสู่ที่ประชุม ครม. สมช. และ ศบ.ทก. โดยจะมีการแถลงข่าว ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร
จิรายุกล่าวด้วยว่า ขณะนี้กลุ่มที่อยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้เปลี่ยนภารกิจหลอกลวง มาทำให้คนไทยทะเลาะกันเอง หากพี่น้องประชาชนสามารถช่วยตอบโต้ IO ได้ ให้ช่วยกันวันละ 3 ไลก์ 3 ข้อความ
ส่วนจะส่งหนังสือให้สหรัฐอเมริกากับจีน กรณีที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงได้เมื่อไหร่ จิรายุกล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งในที่ประชุม ครม. ได้หารือกันว่าเราจะต้องส่งพยานหลักฐานตั้งแต่ช่วงกลางคืนว่าแต่ละจุดว่ามีจุดไหนที่ยิงอะไรอย่างไรบ้าง ฝ่ายไทยได้ตรึงกำลังแบบใด คาดว่าช่วงบ่ายวันนี้กระทรวงการต่างประเทศจะชี้แจงรายละเอียดในเรื่องนี้ ว่ามีการยื่นประท้วงไปกี่ข้อ ฝ่ายกัมพูชามีการส่งกำลังเข้ามาเท่าไหร่ และฝ่ายไทยดำเนินการแบบไหนอย่างไร
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีข้อมูลเบื้องต้นหรือไม่ว่ากัมพูชาละเมิดการหยุดยิงกี่จุด จิรายุกล่าวว่า ขณะนี้ทางเพจกองทัพบกและ ศบ.ทก. ประชุมร่วมกันอยู่ โดยมีเลขาธิการสมช. เป็นประธาน และได้รับรายงานเบื้องต้นว่ามีการยิงในระดับแนวหน้า ส่วนรายละเอียดเรื่องพิกัดการยิงกระทรวงกลาโหมจะเป็นผู้อธิบาย ซึ่งเมื่อวานนี้ก่อนเวลา 24.00 น ที่ได้รับคำสั่งให้หยุดยิง ฝ่ายไทยได้ประชุมกันว่า จะต้องมีการตรึงกำลังไว้ก่อน ไม่ใช่ 24.00 น. แล้วถอยกลับเพราะเราไม่ไว้วางใจ ประสบการณ์ที่ผ่านมา กัมพูชาพูดอย่างทำอย่าง ซึ่งเมื่อวานนี้ทหารของเราตรึงกำลัง 100% ทั้ง 7 จังหวัด ดังนั้น ประชาชนไม่ต้องกังวลใจ