จีนเปิดตลาดรับกาแฟบราซิล 183 ราย หลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้า 50%
รัฐบาลจีนอนุมัติผู้ส่งออกกาแฟรายใหม่จากบราซิลจำนวน 183 รายให้สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างเป็นทางการ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามประกาศของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำบราซิลผ่านสื่อสังคมออนไลน์
การอนุมัติดังกล่าวถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ส่งออกกาแฟบราซิลในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาเตรียมบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้ากาแฟและสินค้าอื่น ๆ จากบราซิลในอัตราสูงถึง 50% ซึ่งจะมีผลในวันที่ 6 สิงหาคมนี้
ใบอนุญาตส่งออกที่จีนออกให้ครั้งนี้จะมีอายุการใช้งาน 5 ปี และคาดว่าจะช่วยเปิดตลาดทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้ส่งออกชาวบราซิล ซึ่งเดิมต้องพึ่งพาตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก โดยในแต่ละปี บราซิลส่งกาแฟไปยังผู้แปรรูปในสหรัฐฯ มากถึงราว 8 ล้านกระสอบ
บริบททางการค้า: จีน-บราซิล-สหรัฐฯ
จีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของบราซิลในภาพรวม ขณะที่สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ซื้อสินค้าสำคัญหลายประเภทจากบราซิล เช่น เนื้อวัวและน้ำส้ม ทั้งนี้ ข้อมูลจากสมาคมผู้ส่งออกกาแฟบราซิล (Cecafe) ระบุว่า ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บราซิลส่งออกกาแฟไปยังสหรัฐฯ ทั้งสิ้น 440,034 กระสอบขนาด 60 กิโลกรัม ขณะที่ยอดส่งออกไปยังจีนนั้นอยู่ที่ราว 56,000 กระสอบ หรือประมาณหนึ่งในแปดของยอดส่งออกไปสหรัฐฯ
จากการที่สหรัฐฯ เป็นตลาดหลักของกาแฟบราซิล มาตรการภาษีครั้งใหม่นี้จึงก่อให้เกิดความท้าทายแก่ผู้ค้าและผู้ส่งออกเป็นอย่างยิ่ง และจำเป็นต้องหาตลาดใหม่ทดแทนอย่างเร่งด่วน
ขณะนี้ กระทรวงเกษตรของบราซิลและสมาคม Cecafe ยังไม่มีถ้อยแถลงใดเกี่ยวกับมาตรการใหม่ของจีน ขณะที่หน่วยงานศุลกากรของจีนไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ในช่วงเวลานอกเวลาทำการ
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา การค้ากาแฟระหว่างบราซิลและสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของตลาดสหรัฐฯ ต่ออุตสาหกรรมกาแฟบราซิล และเน้นย้ำความสำคัญของการเปิดตลาดใหม่อย่างจีนเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของภาคการเกษตรบราซิลในระยะยาว