ปณิธาน แนะไทยเจรจาGBCสื่อสารชัดเจนป้องกันการเสียเปรียบกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 4 ส.ค. 2568 ไทยและกัมพูชาจะเริ่มการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ซึ่งจะเป็นการประชุมคณะเล็กก่อนจนถึงวันที่ 6 ส.ค. 2568 จากนั้นวันที่ 7 ส.ค. 2568 ก็จะเป็นการประชุมคณะใหญ่ โดยจะมีสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์
รองศาสตราจารย์ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ วิเคราะห์ บทบาทของประเทศมหาอำนาจ และการเตรียมพร้อมของไทยในการเจรจา โดยมีเนื้อหาดังนี้
สถานการณ์ชายแดนกับบทบาทผู้แทนต่างชาติ
รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกด้วยการเชิญผู้ช่วยทูตและทูตทหารจากนานาประเทศ รวมถึงสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศลงพื้นที่จริง เพื่อให้ได้เห็นความเสียหายและความทุกข์ยากของประชาชนในพื้นที่ด้วยตนเอง ซึ่งการกระทำดังกล่าวช่วยสร้างความเข้าใจและแรงสนับสนุนจากนานาชาติได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นร่วมลงพื้นที่ด้วยนั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวก เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้การสนับสนุนกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ดร.ปณิธานแสดงความกังวลว่า เอกอัครราชทูตจากประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และจีนที่ลงพื้นที่ยังมีจำนวนน้อย จึงได้แนะนำว่าไทยควรเพิ่มน้ำหนักให้ผู้แทนที่มีอำนาจเต็มจากประเทศเหล่านี้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นเพื่อสร้างสมดุลในเวทีระหว่างประเทศ
การประชุม GBC: สนามเจรจาที่ต้องจับตา
สำหรับการประชุม GBC ที่กำลังจะจัดขึ้นที่มาเลเซียนั้น มีเป้าหมายหลักเพื่อกำหนดกรอบกติกาเรื่องการหยุดยิงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งในประเด็นนี้ กัมพูชาได้เรียกร้องให้มีผู้สังเกตการณ์จากจีนและสหรัฐฯ เข้าร่วมด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าการให้ประเทศมหาอำนาจเข้ามานั่งในวงเจรจาทวิภาคีอาจทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ แต่ก็อาจเป็นหนทางที่ช่วยให้ความขัดแย้งยุติลงได้เร็วขึ้นเช่นกัน
ในส่วนของการเตรียมการของไทย ดร.ปณิธานเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ไทยต้องเตรียมทีมสื่อสารพิเศษ เพื่อรับมือกับการแถลงข่าวที่อาจมีความคลาดเคลื่อนจากฝ่ายกัมพูชา และต้องทำงานร่วมกับมาเลเซียในฐานะเจ้าภาพอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมกำหนดการและทิศทางการเจรจาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ประเด็นที่น่าเป็นห่วง: โดรนสอดแนมและการรักษาสมดุล
นอกจากประเด็นข้างต้นแล้ว ยังมีข้อสังเกตที่น่าเป็นห่วงคือ การมีรายงานว่าโดรนไม่ปรากฏสัญชาติบินเข้ามาในฝั่งไทย ซึ่งอาจมีความเชื่อมโยงกับประเทศมหาอำนาจบางฝ่ายที่ต้องการเข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งในภูมิภาค
ดังนั้น ดร.ปณิธานจึงได้เสนอแนะว่าไทยควรทำงานร่วมกับสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อทำความเข้าใจและรักษาสมดุลความสัมพันธ์ เนื่องจากทั้งสองประเทศต่างมีผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้ และไทยอาจเสียเปรียบได้หากไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจนและมีท่าทีที่มั่นคง