“รัฐบาล”คุมเข้มเฝ้าระวังไข้หวัดนก H5N1 หลังพบระบาดในกัมพูชา
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัญหาโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความเชื่อมั่นในระบบปศุสัตว์และสาธารณสุขของประเทศ
โรคติดต่อที่น่าเป็นห่วงและยังคงมีการแพร่ระบาดต่อเนื่องคือ โรคไข้หวัดนก สายพันธุ์ H5N1 และสายพันธุ์ย่อย Clade 2.3.2.1e ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงและมีโอกาสแพร่สู่คนได้ จากสถานการณ์ในประเทศกัมพูชาพบว่าในช่วงปี 2566-2568 มีผู้ป่วยสะสม 26 ราย เสียชีวิต 11 ราย โดยในปี 2568 พบผู้ป่วยสะสม 13 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ก.ค. 2568) โดยจังหวัดเสียมราฐเป็นพื้นที่ที่มีรายงานผู้ป่วยสะสมมากที่สุดถึง 4 ราย
มาตรการป้องกันและเฝ้าระวัง
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะที่จังหวัดเสียมราฐ ทางรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนไทยที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดน โดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกันผลักดันมาตรการที่เข้มงวด ได้แก่
มาตรการสำหรับฟาร์มปศุสัตว์: ขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกเข้มงวดเรื่อง ความปลอดภัยทางชีวภาพสูงสุด เช่น
- ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในโรงเรือนและบริเวณรอบๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- ควบคุมการเข้า-ออกฟาร์ม และฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อยานพาหนะทุกคัน
- ผลักดันให้การเลี้ยงสัตว์ปีกเข้าระบบมาตรฐาน GAP หรือ GFM
คำแนะนำสำหรับเกษตรกรและประชาชน: แม้ว่าความเสี่ยงในประเทศไทยจะอยู่ในระดับต่ำ แต่รัฐบาลขอความร่วมมือจากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกให้สังเกตอาการสัตว์อย่างใกล้ชิด หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ ห้ามนำไปจำหน่าย แจกจ่าย หรือนำไปประกอบอาหารโดยเด็ดขาด และให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและดำเนินการควบคุมโรคโดยเร็ว
หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหรือจังหวัดใกล้บ้าน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ (สคบ.) กรมปศุสัตว์ หรือ สายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร. 06-3225-6888 หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา