บีโอไอ เคาะแก้กฎหมายเพิ่ม “เครดิตภาษี” รับมือกติกาใหม่ภาษีโลก
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เห็นชอบการแก้ไขพระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย พ.ศ. 2560 ที่อยู่ภายใต้บีโอไอ เพื่อเพิ่มเครื่องมือสิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ “เครดิตภาษี” ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ในการดึงดูดนักลงทุนเป้าหมาย ภายใต้กติกาภาษีใหม่ของโลก (Global Minimum Tax) อีกทั้งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรทักษะสูง โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาเพื่อพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วนต่อไป
ปัจจุบัน องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้กำหนดกลไกจัดเก็บภาษีขั้นต่ำจากบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้ของทั้งเครือ ตั้งแต่ 750 ล้านยูโรต่อปีขึ้นไป (ประมาณ 28,000 ล้านบาท) ซึ่งเดิมอาจได้รับสิทธิพิเศษจากประเทศต่าง ๆ ทำให้อัตราภาษีที่แท้จริง (Effective Tax Rate) ต่ำกว่าร้อยละ 15 โดย OECD กำหนดให้ประเทศที่รองรับการลงทุนหรือประเทศที่บริษัทแม่ตั้งอยู่ สามารถจัดเก็บ “ภาษีส่วนเพิ่ม” เพื่อให้ครบตามเกณฑ์ภาษีขั้นต่ำร้อยละ 15 ได้ ทำให้ประเทศต่าง ๆ ต้องทยอยออกกฎหมายเพื่อเก็บภาษีส่วนเพิ่มกับบริษัทข้ามชาติที่มีสาขาอยู่ในประเทศของตน รวมถึงประเทศไทยที่กระทรวงการคลังได้ออก พ.ร.ก. ภาษีส่วนเพิ่ม พ.ศ. 2567 ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 โดยปัจจุบันมีบริษัทข้ามชาติที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนและเข้าข่ายตามกฎหมายดังกล่าวประมาณ 1,500 ราย รวมทั้งบริษัทใหญ่ของไทยประมาณ 100 ราย ในขณะเดียวกัน ประเทศต่าง ๆ ก็เริ่มทยอยออกมาตรการบรรเทาผลกระทบของ Global Minimum Tax ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป
นายนฤตม์ กล่าวว่า เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย และจูงใจให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง บีโอไอ จึงเสนอปรับแก้กฎหมายการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ ที่อยู่ภายใต้บีโอไอ เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ในรูปแบบเครดิตภาษี (Qualified Refundable Tax Credit: QRTC) ซึ่งเป็นเครื่องมือส่งเสริมการลงทุนตามแนวทางที่ OECD ยอมรับ เพื่อให้ประเทศไทยมีเครื่องมือดึงดูดการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ สามารถรักษาฐานการผลิตในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ควบคู่กับการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนใหม่ ๆ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับ “เครดิตภาษี (QRTC)” เป็นการอนุญาตให้นำเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ เช่น การวิจัยและพัฒนา การสร้างนวัตกรรม การพัฒนาบุคลากรทักษะสูง การยกระดับมาตรฐาน การลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ และความยั่งยืน ไปใช้คำนวณเป็นเครดิต ซึ่งเครดิตดังกล่าวสามารถนำไปใช้ชำระภาษีต่าง ๆ แทนเงินสด เช่น
ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีส่วนเพิ่ม หรือภาษีอากรอื่นตามที่กระทรวงการคลังกำหนด และหากผู้ได้รับการส่งเสริมใช้เครดิตภาษีนั้นแล้ว แต่ยังมีคงเหลือ สามารถขอคืนเป็นเงินสดได้ภายใน 4 ปี ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่งเครดิตภาษีจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีส่วนเพิ่ม เพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจได้ทันที และยังช่วยสนับสนุนให้มีการลงทุนเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง