เอกชนมองบวกรัฐตั้ง AMC ซื้อหนี้อุ้มประชาชน CHAYO พร้อมซัพพอร์ตงานบริการ
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมมูลหนี้ที่จะทยอยเปิดประมูลในช่วงที่เหลือของปี 68 นี้ มูลค่าโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน
หลักๆ เป็นผลมาจาก การที่ภาครัฐมีโครงการจักตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงิน โดยเฉพาะหนี้ของประชาชนรายย่อย. โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสียที่สะสมอยู่ในระบบ และช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถปลดหนี้ได้
ส่งผลให้สถาบันการเงินมีการชะลอการปล่อยหนี้ด้อยมูลค่า (NPL) ออกมาประมูลใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทำให้มูลค่าของมูลหนี้ลดลงค่อนข้างมาก เนื่องสถาบันการเงินต้องรอดูท่าทีของภาครัฐว่าจะมีการเข้ามาช่วยซื้อหนี้ประชาชนหมาน้อยแค่ไหน
เบื้องต้นคาดการณ์ว่าการจัดตั้ง AMC ของภาครัฐไว้ 2 แนวทาง ประกอบด้วย
- แนวทางแรก คือ ภาครัฐจัดตั้ง AMC รับซื้อมูลหนี้ด้วยคุณภาพจากสถาบันการเงิน แต่คงมูลหนี้ที่ซื้อมาไว่ที่สถาบันการเงิน แล้วจ้างให้สถาบันเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ซึ่งแนวทางนี้มองว่าด้วยบุคลากรของสถาบันเองหรือแม้กระทั่งภาครัฐอาจไม่เพียงพอรองรับการจัดเก็บหนี้
- แนวทางที่สอง คือ ภาครัฐจัดตั้ง AMC แต่โอนหนี้ที่ซื้อมาไว้ที่ส่วนกลางมา โดยภาครัฐเข้ามาบริหารจัดการเอง แต่ท้ายที่สุดก็อาจจำเป็นต้องจ้างให้ภาคเอกชนอื่นๆ หรือ สถาบันการเงินเข้ามาช่วยบริหารจัดการจัดเก็บหนี้
โดยภาคเอกชนที่จะเข้ามามีส่วนร่วมได้คือการรับจ้างติดตามทวงถามหนี้ให้กับทั้งภาครัฐและสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะในแนวทางใด ด้วยมูลหนี้ที่ภาครัฐเข้ามาช่วยพยุงประชาชนและรายย่อยครั้งนี้รวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท คิดเป็นยอดจัดเก็บหนี้ที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 10% หรือราว 12,000 ล้านบาท
ขณะที่การคำนวนค่าคอมมิชชั่น (Commission) คร่าวๆ ในส่วนที่ผู้รับจ้างติดตามทวงถามและจัดเก็บหนี้จะได้รับอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 15 - 20% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,800 - 2,400 ล้านบาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่ว่าจะมีผู้เข้ามารับจ้างจัดเก็บหนี้กี่ราย ซึ่งก็จะหารเฉลี่ยค่าคอมมิชชั่นกัน
"มองว่าสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการอย่างเราเข้าไปมีส่วนร่วมได้ คือการเป็นส่วนหนึ่งในการรับจ้างติดตามทวงถามและช่วยจัดเก็บหนี้ ซึ่งเราก็จะได้เป็นค่าคอมมิชชั่นเข้ามา เชื่อว่าเกณฑ์ผู้รับจ้างจะถูกขัดจากบริษํทที่จะทะเบียนในตลาดหุ้นเป็นหลักก่อน ซึ่งก็ทำให้ CHAYO มีโอกาสได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครั้งนี้ด้วย"
มั่นใจรายได้โตเข้าเป้า
ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานของ CHAYO ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ด้วยสถาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้บริษัทปรับลดเป้าหมายการซื้อ NPL ลง แม้ว่าในปัจจุบันจะยังคงมีงบลงทุนอีกกว่า 900 ล้านบาท ตามแผนเดิม แต่คาดว่าจะใช้เพียงราว 100 - 200 ล้านบาทในการซื้อนี้ใหม่เข้ามาเติมพอร์ตเพิ่มช่วงที่เหลือปีนี้เท่านั้น
โดยเงินลงทุนดังกล่าวคาดว่าจะซื้อหนี้ด้อยคุณภาพใหม่เข้าพอร์ตได้เพิ่มกว่า 4,000 - 5,000 ล้านบาท และจะมุ่งเน้นในการซื้อหนี้ประเภทไม่มีหลักประกันเป็นหลัก ในขณะที่หนี้มีหลักประกันอาจชะลอการซื้อหนี้ใหม่เข้ามาบริหารเพิ่มออกไปก่อน
สำหรับมูลค่าพอร์ตมูลหนี้คงค้าง ณ สิ้นเดือนก.ค. อยู่ที่ประมาณ 105,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการจัดเก็บหนี้และการรับซื้อหนี้ใหม่เข้ามาบริหารในพอร์ตเพิ่มเติมยังต้องเผชิญกับความท้าทายทางสภาวะเศรษฐกิจ แต่มั่นใจว่าการเติบโตของรายได้รวมปี 68 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 20 - 25% จากปีก่อน ได้