กาญจนบุรี แถลงข่าวจับกุมบุคคลเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่
กาญจนบุรี แถลงข่าวจับกุมบุคคลเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่
สืบเนื่องจากที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด ซึ่งปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่จะต้องทำให้หมดไป รัฐบาลได้ดำเนินงานอย่างเข้มข้น จริงจัง และต่อเนื่อง ด้วยมาตรการ และ ปฏิบัติการต่างๆ การกำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติการ Seal Stop Safe ที่ใช้กำลังในพื้นที่ 14 จังหวัด 51 อำเภอชายแดน ซึ่งเริ่มภารกิจตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งประสบผลสำเร็จของการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการตำรวจทุกสถานีตำรวจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรทุกจังหวัด สนองนโยบายรัฐบาล NO Drugs NO Dealers เอ็กซเรย์ค้นหาผู้เสพ กวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในชุมชน ส่งเข้าบำบัดหรือดำเนินคดี เพื่อสร้างชุมชนปลอดภัยจากเหตุ คลุ้มคลั่ง พื้นที่ใดปล่อยให้เกิดเหตุ จะพิจารณาโทษหัวหน้าสถานีตำรวจ และผู้บังคับการในพื้นที่ขั้นเด็ดขาด
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สนองนโยบายรัฐบาล และ ผบ.ตร. กำชับทุกหน่วยในสังกัด ถือปฏิบัติโดยเคร่งคัด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เน้นย้ำนโยบายการปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด“Seal Stop Safe” พร้อมสั่งการเร่งด่วนให้ขจัดภัยยาเสพติด สร้างชุมชนเข้มแข็งเฝ้าระวังยาเสพติด ผู้เสพ/ผู้ติด เข้าบำบัดรักษา ผู้ค้าถูกจับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี โดย พลตำรวจตรีพรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี สนองนโยบาย พร้อมสั่งการสถานีตำรวจภูธรในสังกัดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจัง ตั้งแต่ระดับผู้ค้ารายย่อย ผู้ค้ารายใหญ่ และระดับเครือข่ายรูปแบบองค์กรอาชญากรรม โดยสืบสวนพฤติการณ์การกระทำความผิดเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ นายสุทัศน์ หรือ (ตุ้ย) โดยขยายผลจากเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 ทำการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ สภ.สำรอง พร้อมของกลางยาบ้า 1,800 เม็ด และอาวุธปืน กระทั่งสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่ายซึ่งทำหน้าที่จัดการเงินยาเสพติดในเครือข่ายดังกล่าวจำนวน 4 ราย ดังนี้
1)นางสาวสมใจ (น็อต) อายุ 37ปีตามหมายจับของศาล จังหวัดกาญจนบุรีที่ 409/2568 ลง 9 กรกฎาคม 2558 ในความผิดฐาน “สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะ กระทำความผิด และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำ ความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน”
2)นายสุรวุฒิ (เก่ง) อายุ 30 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัด กาญจนบุรีที่ 365/2568 ลง 23 มิถุนายน 2568 ในความผิดฐาน “สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน
3)นายสุบิน หรือเอกสยาม อายุ 29 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 343/2568 ลง 10 มิถุนายน 2558 ในความผิดฐาน “สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำ ความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน”
4) นายศุภโชค (หนุ่ย) อายุ 33 ปี ตามหมายจับ ของศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 342/2568 ลง 10 มิถุนายน 2568 ในความผิดฐาน “สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน”
ขยายผลจากเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ทำการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมของกลาง ยาบ้า 24,400 เม็ด และยาอี 1,600 เม็ด กระทั่งสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่ายซึ่งทำหน้าที่จัดการเงินยาเสพติดในเครือข่าย จำนวน 1 ราย ดังนี้
1)นายทศพล (ไปร์) อายุ 33 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 389/2568 ลง 2 กรกฎาคม 2568 ในความผิดฐาน “สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือ ขณะกระทำความผิด และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิดเพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การ กระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และฟอกเงิน”
ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งห้าราย ตาม พรบ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 125(1),(4) และ พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3(1) มาตรา 5ทำการตรวจยึดทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2564 ดังนี้
1.รถยนต์ จำนวน 10 คัน ราคาประเมิน 6,250,000 บาท
2.รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน ราคาประเมิน 210,000 บาท
3.แหวนทอง จำนวน 1 วง ราคาประเมิน 12,000 บาท
4.เงินสด จำนวน 48,660 บาท
5.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง ราคาประเมิน 90,500 บาท
ราคาทรัพย์เจาะจง รวมทั้งสิ้น 6,611,160 บาท (หกล้านหกแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยหกสิบบาท)
จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้งห้าราย พบเงินหมุนเวียนในบัญชีแต่ละคน คิดเป็นทรัพย์มูลค่า ดังนี้
นางสาวสมใจ เงินหมุนเวียนในบัญชีทั้งหมด จำนวน 239,732,145 บาท (สองร้อยสามสิบเก้าล้านเจ็ดแสนสามหมื่นสองพันหนึ่งร้อยสี่สิบห้าบาท)
นายสุรวุฒิ เงินหมุนเวียนในบัญชีเฉพาะธนาคารเดียว จำนวน 23,594,827 บาท (ยี่สิบสามล้านห้าแสนเก้าหมื่นสี่พันแปดร้อยยี่สิบเจ็ดบาท)
นายสุบิน เงินหมุนเวียนในบัญชีเฉพาะธนาคารเดียว จำนวน 3,662,612 บาท (สามล้านหกแสนหกหมื่นสองพันหกร้อยสิบสองบาท)
นายศุภโชค เงินหมุนเวียนในบัญชีเฉพาะธนาคารเดียว จำนวน 8,945,696 บาท (แปดล้านเก้าแสนสี่หมื่นหาพันหกร้อยเก้าสิบหกบาท)
นายทศพล เงินหมุนเวียนในบัญชีทั้งหมด จำนวน 125,892,830 บาท (หนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านแปดแสนเก้าหมื่นสองพันแปดร้อยสามสิบบาท)
มูลค่า รวมทั้งสิ้น 401,828,110 บาท(สี่ร้อยหนึ่งล้านแปดแสนสองหมื่นแปดพันหนึ่งร้อยสิบบาท)
ราคาทรัพย์สินทั้งสิ้นมูลค่า 408,439,270 บาท (สี่ร้อยแปดล้านสี่แสนสามหมื่นเก้าพันสองร้อยเจ็ดสิบบาท)