ธปท. ชู Tourist Wallet รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยใช้จ่ายด้วย e-money
ธปท. ดันระบบชำระเงินดิจิทัลเพื่อนักท่องเที่ยว Tourist Wallet รองรับเม็ดเงินสะพัดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ชู Cross-Border QR Payment เชื่อม 8 ประเทศ
Tourist walletคืออะไร
Tourist wallet บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อใช้ชำระค่าสินค้าบริการในไทย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในไทย ดังนี้
- อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถชำระสินค้าหรือบริการที่ร้านค้าในไทยได้ผ่าน Thai QR code ได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศที่ไม่ได้เชื่อมโยง Cross-border QR payment กับไทย ซึ่งยังต้องใช้เงินสดเป็นหลัก
- เพิ่มโอกาสให้ร้านค้าในไทย โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อยที่ไม่ได้รับบัตรเครดิต ให้สามารถรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้สะดวกขึ้น
ธปท. ร่วมกับผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) ได้กำหนดมาตรฐานการให้บริการ Tourist wallet เพื่อให้
ผู้ให้บริการ e-money ที่สนใจ สามารถพัฒนาบริการได้ด้วยมาตรฐานเดียวกัน โดยมีการป้องกันความเสี่ยงและคุ้มครองผู้ใช้บริการอย่างเหมาะสม ดังนี้
การเปิดบัญชี นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและเปิดบัญชี e-money ของผู้ให้บริการภายใต้กำกับของ ธปท. โดยมีการระบุและยืนยันตัวตน (KYC) อย่างรัดกุมก่อนการให้บริการ ตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจ e-Money โดยใช้ NFC Passport และยืนยันตัวตนผ่านระบบ Biometrics
การเติมเงินเข้าบัญชี นักท่องเที่ยวสามารถเติมเงิน top-up เข้า Tourist Walletผ่านช่องทางต่างๆ เช่น
เงินสดที่เคาน์เตอร์ของผู้ให้บริการ ผูกกับบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต การโอนเงินจากบัญชีธนาคารต่างประเทศผ่านผู้ให้บริการภายใต้กำกับของ ธปท. ทั้งนี้ ขึ้นกับรูปแบบการให้บริการของผู้ให้บริการแต่ละรายการใช้งาน นักท่องเที่ยวใช้จ่ายผ่านการสแกน Thai QR code ปกติของร้านค้าทั่วไป (ร้านค้าจะได้รับเงินเป็นบาทในทุกกรณี) โดยมีข้อกำหนดในการใช้งานเพื่อป้องกันการนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินและการหลอกลวงภัยการเงิน เช่น เป็นบัญชีม้า ดังนี้
จำกัดวงเงินการใช้จ่าย 500,000 บาท/เดือน/บัญชี สำหรับร้านค้าที่ใช้ Merchant QR
- จำกัดวงเงินการใช้จ่าย 50,000 บาท/เดือน/บัญชี สำหรับร้านค้ารายย่อยทั่วไป (ที่ใช้ Personal QR)
- ห้ามใช้จ่ายที่ร้านค้าที่เข้าข่ายมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกใช้เป็นช่องทางการฟอกเงิน เช่น การลงทุน ผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนเป็นเงินได้ง่าย ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ปปง.
- การถอนเงินสด จะทำได้เมื่อมีการปิดบัญชี และถอนเงินได้ไม่เกินยอดของเงินสดที่เติมเงิน
- มีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมตามช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อยืนยันว่าผู้ใช้บริการยังเป็นบุคคลเดียวกับที่ลงทะเบียน เพื่อลดความเสี่ยงของการนำบัญชีไปใช้ในการทำทุจริตทางการเงิน
Tourist Wallet รับท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย
ณพงศ์ธวัช โพธิกิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้มีการพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ (Cross Border QR Payment & Remittance) โดยเชื่อมโยงบริการชำระเงินกับ 8 ประเทศ ผ่าน 2 รูปแบบ ได้แก่ การชำระเงินผ่าน QR Code และการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ เช่น Paynow กับประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น และในปีนี้ อยู่ระหว่างการเชื่อมโยงระบบกับจีน Union Pay ซึ่งที่ผ่านมา ปริมาณธุรกรรมการชำระเงินมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นตามปริมาณการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น มาเลเซีย ที่เข้ามาเที่ยวในไทยค่อนข้างสูง
ล่าสุด ธปท. ร่วมกับผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในการพัฒนา Tourist Walletสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อใช้ชำระค่าสินค้า-บริการในไทย ผ่านการสแกน QR Code ได้มากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศที่ไม่ได้เชื่อมโยงระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ หรือ Cross Border QR Payment & Remittance นอกจาก 8 ประเทศดังกล่าว จะได้ประโยชน์จากบริการนี้ และจะมาช่วยเติมเต็มระบบที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถใช้ระบบได้
ทั้งนี้ Tourist Walletคือบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) โดยผ่านการแลกเงินสกุลต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท และในอนาคตอาจเชื่อมกับบัตรเดบิต-บัตรเครดิตของต่างชาติได้เลย หรือเชื่อมต่อกับการแปลงสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) มาเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่าย โดยนักท่องเที่ยวสามารถสแกนใช้จ่ายตามร้านค้าในไทยได้ ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะสะดวกในการใช้งานแล้ว ร้านค้ายังมีช่องทางการรับชำระเงินมากขึ้นด้วย
แต่เพื่อเป็นการจำกัดความเสี่ยง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงินและหลอกลวงภัยทางการเงิน เช่น บัญชีม้า เป็นต้น เบื้องต้น ธปท.จึงมีการจำกัดวงเงินการใช้จ่าย โดยร้านค้าที่มีเครื่องรับบัตร (Merchant QR) วงเงินจะอยู่ที่ 5 แสนบาท/เดือน/บัญชี กรณีร้านค้ารายย่อยทั่วไป วงเงินอยู่ที่ 5 หมื่นบาท/เดือน/บัญชี โดยห้ามใช้จ่ายในร้านค้าที่มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกเป็นช่องทางการฟอกเงินตามหลักเกณฑ์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ส่วนการถอนเงิน จะทำได้ต่อเมื่อมีการปิดบัญชีเท่านั้น และไม่สามารถถอนเงินได้ตามยอดเงินสดที่เติมเงินไว้
สำหรับช่องทางการเติมเงินเข้าบัญชี นักท่องเที่ยวสามารถเติมเงินเข้า Tourist Walletผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เงินสดที่เคาน์เตอร์ของผู้ให้บริการ ผูกกับบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต การโอนเงินจากบัญชีธนาคารต่างประเทศผ่านผู้ให้บริการภายใต้กำกับของ ธปท. ทั้งนี้ ขึ้นกับรูปแบบการให้บริการของผู้ให้บริการแต่ละราย
นอกจากนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการทดสอบ (Sandbox) เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้กำกับดูแล ก.ล.ต. สามารถอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาท และเติมเงินบาทดังกล่าวเข้าสู่Tourist Wallet ได้ด้วย
(ไม่ได้เป็นการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ชำระสินค้าบริการ)