หุ้นกลุ่ม Gen Z พลิกเกม! กองทุนจีนทำกำไร 24% แหกกฎลงทุนแบบเก่า
ในโลกของการลงทุนที่ผันผวน "เซี่ย เทียนหยวน" (Xie Tianyuan) ผู้จัดการกองทุนหนุ่มชาวจีนวัย 30 ปี กำลังสร้างปรากฏการณ์ด้วยกลยุทธ์ที่ฉีกกฎ เลือกหุ้นตามกระแสนิยมวัยรุ่น“Gen Z” โดยเชื่อมั่นว่าเทรนด์การจับจ่ายใช้สอยของคนรุ่นใหม่จะช่วยให้กองทุนของเขาสามารถเติบโต
กองทุนเผิงหัว ซีเล็คเต็ด รีเทิร์น เฟล็กซิเบิล แอลโลเคชั่น (Penghua Selected Return Flexible Allocation) ภายใต้การบริหารของเซี่ย สามารถทำผลตอบแทนได้สูงถึง 24% ในปีนี้ แซงหน้ากองทุนอื่นๆ กว่า 97% จากทั้งหมดประมาณ 2,300 กองทุนในจีน
พลิกโฉมพอร์ต เทหุ้นไป๋จิ่ว เลือก Pop Mart
ก่อนหน้านี้ พอร์ตของเซี่ยเคยถูกฉุดรั้งด้วยการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดั้งเดิมอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการเกษตร แต่เมื่อช่วงต้นปี 2567 ได้ตัดสินใจนำ หุ้น Pop Mart International Group เจ้าของแบรนด์กล่องจุ่มตุ๊กตาซีเคร็ต Labubu เข้ามาแทนที่หุ้นของ Kweichow Moutai Co. บริษัทผลิตไป๋จิ่วที่เคยเป็นหุ้นอันดับหนึ่งของกองทุน
การเปลี่ยนแปลงพอร์ตการลงทุนมูลค่า 7 ล้านดอลลาร์ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในอิทธิพลของวัฒนธรรมดิจิทัลและกำลังซื้อของคนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน โดยเชื่อว่าเทรนด์การบริโภคของคน Gen Z จะเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจจีน
ปั้นพอร์ตจากหัวใจ "แฟนด้อม"
เซี่ยเติบโตมากับวัฒนธรรมอะนิเมะญี่ปุ่น โต๊ะทำงานของเขาประดับไปด้วยฟิกเกอร์ Dragon Ball Z ทำให้เขามีความสามารถพิเศษในการมองหา "แบรนด์ที่มีศักยภาพ" ที่จะเติบโตได้ดี
เซี่ยใช้ทั้งความสนใจส่วนตัวและการค้นคว้าข้อมูลออนไลน์อย่างละเอียด และในฐานะที่เป็นคน Gen Z เอง ทำให้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายตามอารมณ์ที่กำลังเป็นที่นิยมในจีน
"โอกาสในกลุ่มธุรกิจนี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะมาจากหุ้นรายตัว เมื่อยุคของผลประโยชน์จากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นหมดไป"
และนั่นเป็นเหตุผลที่เซี่ยเลือกบริษัทที่มีสินค้าก้าวล้ำ นวัตกรรมโมเดลธุรกิจ และช่องทางการขายที่สร้างสรรค์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ดึงดูดใจและสร้างความสนุกสนาน
หุ้น Gen Z ไม่สะท้านภาษีทรัมป์
กองทุนของเซี่ยมีการลงทุนทั้งในตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง โดย ณ เดือนมี.ค. Pop Mart คิดเป็น 10.5% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของกองทุน ซึ่งเป็นระดับการถือหุ้นสูงสุดที่ได้รับอนุญาตในกองทุน
นอกจาก Pop Mart แล้ว กองทุนยังลงทุนในบริษัทอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น เหมา เกอผิง คอสเมติก บริษัทเครื่องสำอางระดับพรีเมียมที่ทำผลตอบแทนได้ 83% ในปีนี้ รวมถึงฉงชิ่ง ไป่หยา ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สุขอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งสำหรับสตรีและเด็ก และ หยานไถ ไชน่าบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของจีน
แม้ว่าภัยคุกคามจากการขึ้นภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์จะยังคงอยู่ แต่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคที่ขับเคลื่อนด้วย Gen Z ได้ผลักดันให้ตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์นี้อย่าง Pop Mart และเหล่าผู่โกลด์ ผู้ผลิตจี้ทองคำอันเป็นเอกลักษณ์พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
หุ้นกลุ่มนี้เริ่มแพง แต่ยังโตได้อีก
การเติบโตที่มาจากพฤติกรรมการบริโภคก็เริ่มมีสัญญาณที่ไม่ดีบ้างแล้ว ราคาหุ้นของ Pop Mart ตกลง หลังจากถูกวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์ People's Daily ซึ่งเรียกร้องให้มีการควบคุมของเล่นกล่องจุ่มให้เข้มงวดมากขึ้น
นอกจากนี้ หุ้น Gen Z หลายตัวก็มีราคาใกล้เคียงหรือสูงกว่าเป้าหมายที่นักวิเคราะห์กำหนดไว้ ทำให้มีการปรับมุมมองขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เซี่ยยอมรับว่ามูลค่าของหุ้นในกลุ่มธุรกิจที่เขาลงทุนอยู่นั้นอาจจะสูงเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานในปัจจุบันไปบ้าง โดยหุ้นบางตัวได้ถูกประเมินราคาล่วงหน้าไปถึงผลกำไรในอีก 3-5 ปีข้างหน้าแล้ว
ถึงอย่างนั้น เซี่ยก็ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกโดยรวม โดยเฉพาะกับหุ้นที่เขาได้ลงทุนไปมากแล้ว "บางคนอาจจะมองว่ากำไรที่ได้มานั้นเป็นเรื่องเหลือเชื่อ" เขากล่าว "แต่ความจริงแล้ว กำไรทั้งหมดนั้นมาจากรายได้ที่เกิดขึ้นจริง และการเติบโตของบางบริษัทก็ยังถูกประเมินค่าต่ำเกินไป ในขณะที่บางแห่งก็เพิ่งจะเริ่มต้นวงจรชีวิตธุรกิจเท่านั้น"