โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

จับแล้ว สาวลูก 6 แก๊งคอลฯ ตุ๋น อั้ม พีดีมิสแกรนด์ เครียดจนจบชีวิต อ้างสารพัดหลังสิ้นท่า

Thaiger

อัพเดต 15 กรกฎาคม 2568 เวลา 22.00 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thaiger ข่าวไทย

จับแล้ว 1 แก๊งตุ๋นเอาเงิน “อั้มอดีตพีดีมิสแกรนด์ขอนแก่น”

จากกรณีเสียชีวิตของนายพิชญ์ศุธางศ์ ไขแสงทอง หรือ อั้ม อายุ 38 ปี อดีตพีดีมิสแกรนด์ขอนแก่นและช่างแต่งหน้านางงามหลายเวที ซึ่งจากรายงานข่าวของหลายสำนักนั้นระบุตรงกันเจ้าตัวตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงที่บ้านพักในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ค.โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเพราะตหกกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ

ล่าสุดวันนี้ (15 ก.ค.) มีการแถลงจับกุม น.ส.นลินทิพย์ เฮงวิเชียร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ซอย 4 เพชรเกษม ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม เลขที่ จ.646/2568 ลงวันที่ 14 ก.ค.68 ข้อหาเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตนฯ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา นายพิชญ์ศุธางศ์ ผู้ตายเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ภูวิช ศรีคุ้ม รอง สว.(สอบสวน) สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 15.36 น. ขณะที่ผู้แจ้งได้เข้าไปเล่นเฟซบุ๊ก มีเฟซบุ๊ก ชื่อ บจก.ทรัพย์ไพศาล แอดเข้ามาชักชวนลงทุน โดยผู้แจ้งจึงได้โอนเงินจากบัญชีส่วนตัว ไปยังบัญชีพร้อมเพย์ เลขที่ 140000963024658 ชื่อบัญชี นลินทิพย์ เฮงวิเชียร จำนวนเงิน 1,560 บาท ต่อมาได้เชิญชวนให้เปิดบิลเยอะกว่านี้เพื่อให้ทุนหมุนเวียนเยอะขึ้น

มีการวางแผนออกอุบายให้ผู้แจ้งเปิดบิล วีไอพี ที่ยอด 25,000 บาท ผู้แจ้งจึงได้โอนเงินจากบัญชีส่วนตัว ไปยังบัญชีพร้อมเพย์ เลขที่ 140000963024658 ชื่อบัญชี นลินทิพย์ เฮงวิเชียร จำนวนเงิน 5,000 บาท 5 ครั้ง ต่อมาได้ชักชวนให้เปิดบิลเป็นบิลทองค้ำประกันอีก และให้โอนเงินทั้งหมด 10 งวด งวดละ 5,000 บาท ผู้แจ้งจึงได้โอนเงิน ไปยังบัญชีพร้อมเพย์ เลขที่ 140000963024658 ชื่อบัญชี นลินทิพย์ เฮงวิเชียร จำนวนเงิน 5,000 บาท 10 ครั้ง ต่อมาเฟสบุ๊คดังกล่าวไม่ได้ทำตามข้อตกลง จึงรู้ว่าถูกหลอกลวง จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ก่อนนำหลักฐานใบแจ้งความโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก และตัดสินใจจบชีวิตลงเพราะความเครียดในที่สุด

หลังเกิดเหตุ หลายหน่วยงานได้ทำการตรวจสอบพยานหลักฐานรวมถึงเส้นเงินที่ผู้ตายโอนไปยังบัญชีของผู้ต้องหานั้น

พบว่าในอดีต น.ส.นลินทิพย์ เคยถูกดำเนินคดีข้อหาข้อโกงมาแล้ว ปัจจุบันพักอยู่กับสามี ที่บ้านในพื้นที่อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีบุตร จำนวน 4 คน

ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมก็กำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดในท้อง ใกล้คลอด อีก 1 คู่

ในเบื้องต้นจึงถูกเชิญตัวไปทำบันทึกจับกุมที่ สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยชุดคลี่คลายคดีเชื่อว่า น.ส.นลินทิพย์ น่าจะวางแผนก่อเหตุด้วยตนเอง นำเงินมาใช้เอง ไม่ใช่บัญชีม้า แต่อย่างใด เนื่องจากหลักฐานเส้นเงินที่ผู้เสียหายโอนเข้าบัญชีไปพบว่าไม่ได้มีการโอนต่อไปยังบัญชีอื่นๆ ในลักษณะกระทำเป็นขบวนการ อย่างไรก็ตามจะพามาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thaiger

ศาลจำคุก บัญชีม้า 119 ปี ตร. เตือนแรง โทษหนัก คนไทยอย่าขายชาติ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เพื่อไทย โต้ รถไฟฟ้า 20 บาท ไม่ใช่ประชานิยมไร้ฐานคิด ปัดเอื้อนายทุน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เปิดหน้า สาวกัมพูชาชี้หน้าด่าทหารไทย อ้างล้ำเขต เหตุวุ่นวายปราสาทตาเมือนธม

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ช็อก! สีกากอล์ฟ เคยทำแท้ง 2 รอบ หลังพลาดท้องกับพระในจักรวาล

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความอาชญากรรมอื่น ๆ

แฉแผนสีกากอล์ฟ พยายามเข้าหาเจ้าอาวาสไม่สำเร็จ เลยได้ผู้ช่วยแทน

Amarin TV

คุม"สีกากอล์ฟ"นอนคุกคืนแรก เจ้าปิดปากเงียบ ยกมือไหว้ขอโทษชาวพุทธฯ

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

ละเอียดยิบ! เปิดปฏิบัติการ “นารีพิฆาต” สัมพันธ์ฉาวพระชั้นผู้ใหญ่ ถึงวันบุกรวบ “สีกากอล์ฟ”

เดลินิวส์

พระราชรัตนสุธี ยังไม่ปรากฏตัว หลังเจ้าคณะใหญ่หนเหนือเรียกมารายงานตัว

Amarin TV

ศาลจำคุก บัญชีม้า 119 ปี ตร. เตือนแรง โทษหนัก คนไทยอย่าขายชาติ

Thaiger

เปิดโปง! "สีกากอล์ฟ" มีเงินหมุนเวียน 385 ล้านใน 3 ปี ออกเกือบหมดเหลือ 8,000 บาท ส่วนใหญ่ไปเว็บพนัน

ข่าวช่อง8

แถลงเปิดปฏิบัติการนารีพิฆาตพระ จับกุม "สีกากอล์ฟ" บุคคลอันตราย

Amarin TV

“กลุ่มนายจ้างแรงงานกัมพูชา” หอบหลักฐาน คดีหักหัวคิวแรงงานต่างด้าวมอบ “อธิบดี DSI”

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...