โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

“กลุ่มนายจ้างแรงงานกัมพูชา” หอบหลักฐาน คดีหักหัวคิวแรงงานต่างด้าวมอบ “อธิบดี DSI”

เดลินิวส์

อัพเดต 16 กรกฎาคม 2568 เวลา 2.47 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
“กลุ่มนายจ้างแรงงานกัมพูชา” รวมตัวหอบพยานหลักฐาน-เอกสารการโอนเงิน ปมคดีหักหัวคิวแรงงานต่างด้าว มอบให้ “อธิบดีดีเอสไอ” นำเข้าสำนวนตรวจสอบขยายผล หลังพบพิรุธระบบยื่นขอต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวออนไลน์

จากกรณีวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำกำลังคณะพนักงานสืบสวนเลขที่ 27/2568 พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผอ.กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ พ.ต.ท.ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ นายจินกร แก้วศรี รอง ผอ.กองคดีการฟอกเงินทางอาญา และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมหมายค้นศาล เปิดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด หนึ่งในนั้นคือบริษัทเอกชนย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังพบพฤติการณ์ให้คำปรึกษาต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าว เข้าข่ายลักษณะเป็นการฟอกเงินผ่านเจ้าหน้าที่กัมพูชา นั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 15 ก.ค. ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นางนิลุบล พงษ์พยอม ตัวแทนกลุ่มนายจ้างสีขาว พร้อมด้วย น.ส.ปัญญาพร พานแก้ว น.ส.ชิษณุชา จารุพันธ์ นายชยาพล บุญไพจิตร์ นายกสิณ โอสถเจริญผล ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ค้าปลีกค้าส่ง การเกษตร ฯลฯ ซึ่งมีลูกจ้างเป็นแรงงานกัมพูชา ร่วมกันเดินทางเข้ายื่นเอกสารพยานหลักฐานเพิ่มเติม กับ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ท.ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เพื่อใช้สำหรับประกอบสำนวนการสืบสวนเลขที่ 27/2568

โดย นางนิลุบล พงษ์พยอม ตัวแทนกลุ่มนายจ้างสีขาว เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาขอบคุณอธิบดีดีเอสไอ ที่ช่วยตรวจสอบปัญหาการติดขัดกรณีการต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาทางออนไลน์ เนื่องจากภายหลังที่ดีเอสไอลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการตรวจค้นตรวจสอบนั้น ทำให้บรรดากลุ่มนายจ้างที่มีแรงงานต่างด้าวที่ต้องต่อใบอนุญาต กลับได้รับการอนุมัติต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวทางออนไลน์ (Name list) โดยกระทรวงแรงงาน พร้อมกันทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว สำหรับจำนวนรายชื่อแรงงานชาวกัมพูชาที่ค้างในระบบการต่อใบอนุญาตทำงานในออนไลน์ก่อนที่ดีเอสไอจะเข้าตรวจค้นตรวจสอบนั้น มีจำนวนประมาณ 100,000 รายชื่อ โดยล่าสุดระบบอนุมัติให้แล้ว โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงิน 2,500 บาทใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนบรรดาแรงงานก่อนหน้านี้ที่มีการจ่ายเงินไปแล้วนั้น ต้องยอมรับว่ามันมีการร้องเข้ามาในกลุ่มนายจ้างสีขาว ว่า ต้องมีการเงินดังกล่าวเพื่ออนุมัติ ดังนั้น มันจะถูกโยงไปในส่วนขั้นตอนถัดไป คือ Calling Visa (หนังสืออนุมัติวีซ่าทํางาน) ซึ่งจะต้องไปรับที่กรมการจัดหางาน หรือจัดหางานจังหวัด โดยตอนนี้ก็มีร้องเข้ามาว่าต้องจ่ายเงินรายละ 300 บาท 500 บาท ในการอนุมัติ

แม้ว่าวันนี้จะมีการอนุมัติใบอนุญาตการทำงานของแรงงานต่างด้าวไปแล้วนั้น ตนก็ถือว่าได้ให้ข้อมูลทางดีเอสไอไปหมดแล้ว ว่าที่มาที่ไป มีบัญชีม้าอย่างไร มีการจ่ายเงินให้ใครบ้าง ซึ่งทุกคนที่เป็นนายจ้างก็ได้ส่งเข้ามาในกลุ่มนายจ้างสีขาว และแต่ละคนจ่ายกันกี่บาท วันนี้เราจึงเอาข้อมูลมามอบให้ดีเอสไอเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราเคยยื่นเอกสารข้อร้องเรียนไปกับทางนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีต รมว.แรงงาน ตั้งแต่ก่อนเดือน ม.ค. ก่อนที่จะมายื่นเรื่องที่ดีเอสไอ แต่กลับไม่มีการแก้ไขหรือได้รับหนังสือตอบกลับแต่อย่างใด

ตนมองว่าระบบการต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวทางออนไลน์นี้ค่อนข้างมีปัญหาอย่างมาก เพราะระบบค่อนข้างเอื้อต่อกรณีการเรียกเก็บเงิน มันไม่ใช่ระบบออนไลน์จริง ไม่ใช่ระบบที่สะดวกและเบ็ดเสร็จ ซึ่งตนเล็งเห็นว่าในการต่อใบอนุญาตแรงงานหรือการขึ้นทะเบียนแรงงานทุกครั้ง การเป็นระบบออนไลน์มันควรชัดเจนว่าระบบมีกลไกอย่างไรบ้าง มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และต้องไม่ยุ่งยากซับซ้อน เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นประกาศกระทรวงแรงงาน หรือกรมการจัดหางานเลยว่ามีค่าใช้จ่ายเท่าไรต่อการขอต่อใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าวอย่างชัดเจน รวมถึงแรงงานกัมพูชา ก็ไม่มีรายละเอียดเลยว่าต้องจ่ายเงินหรือไม่ อย่างไร และต้องติดต่อเอเจนซี่กัมพูชา เรื่องค่าใช้จ่าย ระยะเวลาการอนุมัติอย่างไรบ้าง

ส่วนกรณีการที่อ้างว่าต้องจ่ายเงิน 2,500 บาท สำหรับขอต่อใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวนั้น นางนิลุบล ระบุไม่มีมติรายละเอียดเรื่องเงินจำนวนนี้มาตั้งแต่คณะกรรมการนโยบายของกระทรวงแรงงาน และเมื่อเป็นมติ ครม. ออกมา มีประกาศกระทรวงแรงงานออกมา ก็ไม่ได้มีรายละเอียดเรื่องการจ่ายเอเจนซี่กัมพูชา นอกจากนี้ กลุ่มนายจ้างสีขาวเคยยื่นเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ซึ่งทางอธิบดีกรมแรงงาน ก็มีการชี้แจงชัดเจนในบันทึกการประชุมว่าไม่มีการจ่ายเอเจนซี่กัมพูชาแม้แต่บาทเดียว ทั้งนี้ การต่อใบอนุญาตทำงาน มันมีหน้าเพจกรมฯ อยู่แล้ว เราก็อยากให้ชี้แจงขั้นตอน ระยะเวลา ว่ามันต้องใช้ระยะเวลากี่วัน มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เราจะได้รับรู้เข้าใจ

ขณะที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า เรื่องราวที่กลุ่มนายจ้างสีขาวมาร้องเพิ่มเติมในวันนี้ ถือเป็นพยานหลักฐานอย่างหนึ่ง เพราะมีการร้องเรียนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าในส่วนของการขอต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าว จะต้องมีการจ่ายเงินค่าหัวคิว พอไม่มีการจ่ายหัวละ 2,500 บาท ระบบก็ไม่ต่อให้ แต่พอดีเอสไอลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบสืบสวนนั้น กลายเป็นว่ารายชื่อที่ค้างในระบบไม่ต้องจ่ายเงินดังกล่าวแล้ว และก็ได้รับการอนุมัติ มันก็เลยเป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า เป็นไปตามคำร้องที่กลุ่มนายจ้างสีขาว (ผู้เสียหาย) เพราะพอมีการตรวจสอบ กลับไม่ต้องมีการจ่ายเงิน ซึ่งข้อสังเกตและข้อพิรุธเหล่านี้ เราจะได้นำไปเข้าสำนวนการสืบสวน อย่างไรก็ดี กลุ่มนายจ้างสีขาว และผู้แทนจากธุรกิจต่าง ๆ ก็ได้เข้ามายื่นเอกสารเพิ่มเติม ส่วนใหญ่คือเรื่องการโอนเงิน พบว่ามีการโอนเงินไปยังบัญชีที่มีเจ้าของเป็นชาวกัมพูชา ตรงนี้เมื่อดูแล้วกลายเป็นว่ามีกลุ่มคนไทยไปออกแบบวิธีการต่อใบอนุญาต แต่เป็นการไปเอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าหน้าที่กัมพูชาจำนวนมาก ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการสืบสวนต่อไป เชื่อว่ามีตัวละครอีกมากที่เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์อย่างชัดเจนแก่เจ้าหน้าที่กัมพูชา

สำหรับกระบวนการสอบปากคำพยานในเรื่องนี้ ทางดีเอสไอได้มีการเรียกสอบปากคำไปแล้ว 14 ราย แต่หลังจากนี้จะมีการทยอยเชิญกลุ่มตัวแทนนายจ้าง หรือนายจ้างที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการต้องจ่ายค่าหัวคิว โดยจะทยอยนัดหมายให้เข้าให้ข้อมูลต่อเนื่อง ประกอบกับการสืบสวนเส้นทางการเงินว่าเงินที่มีการจ่ายเป็นค่าหัวคิวไปนั้น ถูกโอนไปยังบัญชีปลายทางใครบ้าง ซึ่งตอนนี้พบมูลค่าหลักร้อยล้านบาท แต่เชื่อว่าจะมากกว่า 100 ล้านบาท การสอบสวนปากคำพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ส่วนใหญ่ล้วนระบุว่า มันไม่มีการจ่ายเงินส่วนนี้ ไม่มีการจ่ายส่วนต่าง ทั้งยังให้การว่า เมื่อระบบมันอนุมัติ Name List มาแล้ว หากได้อนุมัติต่อใบอนุญาตแล้ว ก็สามารถไปต่อได้ทันทีในส่วนของ Calling Visa ไปต่อใบอนุญาตตรวจสุขภาพต่าง ๆ ได้ แต่ข้อเท็จจริงที่ผู้มาร้อง คือ หากไม่มีการจ่ายเงินค่าหัวคิว ระบบมันจะไม่อนุมัติ Name List ทำให้ไปดำเนินการในขั้นตอนต่อไปไม่ได้

อย่างไรดีเอสไอก็ต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐานรายการเดินบัญชี หลักฐานการโอนเงิน ประกอบกับพยานที่มาให้ถ้อยคำว่ามีการจ่ายเงินไปจริง ส่วนใครที่จะปฏิเสธว่าไม่มีการรับเงินค่าหัวคิว ก็เป็นข้อต่อสู้ของกลุ่มที่จะถูกกล่าวหา ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะอย่างไรแล้วเส้นเงินมันปรากฏชัดเจนว่ามีจำนวนยอดเงิน 2,500 บาท และบ้างเป็นยอดรวมทั้งหมด แต่เมื่อหารจำนวนคนแล้ว มันก็คือตัวเลขรายหัวได้ หากทางกระทรวงแรงงานยืนยันปฏิเสธว่าไม่มีเรื่องการให้ต้องจ่ายเงิน 2,500 บาท มันก็ต้องว่ากันด้วยหลักฐาน ถ้าเรามีหลักฐานเพียงพอ ตัวบุคคลที่ปฏิเสธเองอาจตกเป็นผู้ต้องหาได้ และถ้าพยานหลักฐานเส้นทางการเงินไปเชื่อมโยงถึงใคร พนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น แม้บุคคลนั้นจะเป็นเจ้าหน้าที่ของกัมพูชาก็ตาม ในส่วนของ “บัญชีม้า” ที่เป็นบัญชีปลายทางในการรับโอนเงิน เราก็จะมีการขยายผลเรียกมาสอบสวนปากคำ เพราะเราก็ต้องดูว่าเป็นบัญชีม้าจริง หรือมีผู้ถือบัญชีตัวจริงอื่นอีกหรือไม่ ซึ่งก็เป็นหลักการพิสูจน์ตามขั้นตอน

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวต่อว่า กรณีที่มีการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทยเชื่อมโยงราชอาณาจักรกัมพูชา ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะขยับนำเสนอสำนวนและข้อเท็จจริงไปยังอัยการสูงสุด แต่ในขั้นตอนนี้ดีเอสไอจะต้องมีการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนรับฟังได้ว่า เป็นการกระทำความผิด หรือเข้าองค์ประกอบขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หรือไม่ หากเข้าข่ายองค์ประกอบครบถ้วน ก็จะต้องดำเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ และในตอนนี้รายงานสืบสวนจากปรากฏเบื้องต้นว่าเส้นทางการเงินมีความเชื่อมโยงกับที่ปรึกษา รมว.แรงงานของกัมพูชา ซึ่งเมื่อพยานหลักฐานมีความชัดเจนประมาณหนึ่ง จะได้มีการประชุมคณะพนักงานสืบสวน เพื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์

“ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ MOU มันเกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าว 4 ประเทศ คือ กัมพูชา เมียนมา ลาว เวียดนาม แต่ในตอนนี้ดีเอสไอพบในส่วนของแรงงานกัมพูชาเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นระบบต่ออายุใบอนุญาตการทำงานในราชอาณาจักรไทยทางออนไลน์ ทราบว่าระบบยังไม่ได้เริ่มกับ 3 สัญชาติที่เหลือ ซึ่งถ้าหากระบบมันมีการดำเนินการครบ 4 สัญชาติ มันจะมีผลประโยชน์จำนวนมหาศาล สูงมากถึง 6,000 ล้านบาทแน่นอน ซึ่งมันจะกลายเป็นการกระทำทุจริตโดยคนไทยร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกัมพูชา”

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเชิญนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีต รมว.แรงงานของไทยในวันเวลาเกิดเหตุมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง เพราะก่อนหน้านี้ทางกลุ่มนายจ้างสีขาวก็เคยได้ยื่นหนังสือเอกสารไว้แล้ว นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา ตอบว่า โดยนโยบายเราก็มองไปในทำนองนั้นอยู่แล้ว เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่ทำหน้าที่อยู่ในช่วงที่มีการปรับวิธีการต่อใบอนุญาต แต่ในตอนนี้เราต้องเน้นการพิสูจน์เรื่องพยานหลักฐานก่อน จึงยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

ซึ้งน้ำตาคลอ! ขายเข็มขัดนากแม่ อึ้ง ‘นะโม’ ให้ 4 แสน ไม่หลอมเก็บไว้เผื่อซื้อคืน

49 นาทีที่แล้ว

เปิดถ้ำ “ขุมทรัพย์นาคเศรษฐี” วัดศรีสมบูรณ์ฯ คึกคัก! แห่ส่องเลขหางประทัดลุ้นโชค

50 นาทีที่แล้ว

4 ครูเฮ! ไม่ถูกเลิกจ้างซ้ำได้สัญญาใหม่ ผอ.รับเคร่งระเบียบ-ท้อใจขอย้ายตัวเอง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ห้องเบอร์ 503” สั่นผ้าเหลือง! แชตหลุดสีกากอล์ฟวาบหวิว-พระตอบ “เปิดเลย” จุดไฟฉาวไม่หยุด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความอาชญากรรมอื่น ๆ

ผอ.สพม.นนทบุรี ยืนยันสาเหตุ นร.ลูกครึ่งไทย-กัมพูชา ดิ่งตึกเสียชีวิต ไม่เกี่ยวกับการบูลลี่เชื้อชาติ

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

ผงะ!พบ”สีกากอล์ฟ” พัวพันเงินวัด 12.8 ล้าน พบเงินหมุนเวียนบัญชี 385 ล้านใน 3 ปี

เดลินิวส์

หลานทิดประดิษฐ์ เสียใจและผิดหวังมาก หวั่น หลวงน้า คิดสั้นฆ่าตัวตาย

Amarin TV

สอบเจ้าอาวาสวัดม่วง ปมซื้อขายทอง 250 บาท พระนิทัศน์ ท้าสึกหากจับโจรได้

Amarin TV

วิวาทเดือด! ม.3 เหล็กแป๊ปฟาดหัว ม.1 ปางตาย ปมทวงค่าบุหรี่ไฟฟ้า 300 บาท

เดลินิวส์

สืบนครบาล รวบยกแก๊ง “boss กอล์ฟ” ผอ.ปปง.เก๊ กลางห้างดัง หลอกเหยื่อ นักศึกษา ป.โท สูญนับแสน

Khaosod

สืบ3 รวบคาตลาด ผัวเมียเขมรแย่งงานคนไทย เปิดแผงขายหมูย่านคลองสามวา

Khaosod

"สีกากอล์ฟ" มีบัญชีเงินหมุนเวียน 3 ปี กว่า 385 ล้านบาท ตร.คุมตัวดำเนินคดีหนัก "นารีพิฆาตพระ" ฝากขังพรุ่งนี้

สวพ.FM91

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘ธีร์ OnlyMonday’ ยอมรับนอกใจอดีตคนรัก แฟนเพลงแห่ถล่มผิดหวังหนัก!

เดลินิวส์

ละเอียดยิบ! เปิดปฏิบัติการ “นารีพิฆาต” สัมพันธ์ฉาวพระชั้นผู้ใหญ่ ถึงวันบุกรวบ “สีกากอล์ฟ”

เดลินิวส์

‘เชอรี่’ กลับมามีไฟรับซีรีส์ ‘เพียงเธอ’ ยอมกัดลิ้นกัดฟัน เพื่อท้าทายบทบาทใหม่ในแนวยูริ

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...