โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

สปสช. เปิดฟังความเห็นจ่ายค่าจ้างดูแลคนพึ่งพิงสูงสุด 6 พันบาท/เดือน

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เปิดรับฟังความเห็น ร่างประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พ.ศ. …. ผ่านทางเว็บไซต์ ระบบกลางทางกฎหมาย ระหว่างวันที่ 8-22 กรกฎาคม 2568 เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ อาทิ กลุ่มผู้รับบริการและประชาชน, กลุ่มผู้ให้บริการ คือ หน่วยบริการ , กลุ่มผู้ซื้อบริการ คือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกลุ่มผู้ควบคุมกำกับ คือ กระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาล

ในร่างประกาศฉบับนี้ ระบุถึงความเป็นมา สภาพของปัญหาและกำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนว่า กระทรวงสาธารณสุข กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับ"กลุ่มคนเปราะบาง" จึงได้ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับปัจจุบันมีจำนวนผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ควรจัดสรรค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนให้เพียงพอกับจำนวนผู้มีภาวะพึ่งพิงที่มีจำนวนมากขึ้น

จึงได้ดำเนินการเสนอ "โครงการค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนต่อรัฐบาล" ตาม โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งต่อมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เห็นชอบข้อเสนอ"โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" ที่ผ่านการพิจารณาของ คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 50 หน่วยรับ และอนุมัติให้หน่วยรับงบประมาณดังกล่าวเป็นหน่วยงานดำเนินโครงการดังกล่าวต่อไปเพื่อให้การดำเนินการตามมติ ครม.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงได้ดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการจ่ายค่าบริการสาธารณสุขสำหรับ "ผู้มีภาวะพึ่งพิง" ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลให้กับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยการจ่ายเป็นค่าจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมตามความพร้อม ความเหมาะสม และความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นตามเจตนารมณ์ของมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545

ประเด็นสำคัญของร่างกฎหมาย หรือ กฎหมายที่นำมารับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ มีรายละเอียดที่น่าสนใจหลายประการ ดังเช่น

การกำหนดนิยามของคำว่า "ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง" และ "ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน (Caregiver)" เอาไว้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทำให้เกิดการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในปีงบประมาณนี้ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน หมวด 1 ข้อ 8 ระบุว่า

ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่มีสิทธิรับค่าจ้างตามหมวดนี้ จะต้องไม่เป็น "ข้าราชการ" หรือ "พนักงานส่วนท้องถิ่น" ซึ่งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจํา ผู้ปฏิบัติงานให้หน่วยงานของรัฐ หรือในรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ลูกจ้างของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือบุคคล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยได้รับ"ค่าตอบแทน" หรือ "ค่าป่วยการ" เป็นการประจําเพื่อเป็นการดําเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการจ้างงาน

ให้ "ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง" ตามวรรคหนึ่งจะต้องไม่เป็นผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ได้ทําสัญญากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นวันที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

และกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล ข้อ 16 ว่า การจ่ายค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 (วันที่ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตามข้อ 2) จนถึงวันก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้ถือเป็นการจ่ายค่าจ้างตามประกาศนี้และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิได้รับค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนตามประกาศนี้

สำหรับร่างประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พ.ศ. …. มีรายละเอียด ดังต่อนี้

ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การจ่าย ค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสําหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พ.ศ. ….

ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2569

ข้อ 3 ในประกาศนี้

"สํานักงาน" หมายความว่า สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งนี้ ไม่หมายความรวมถึง สํานักงานสาขา

"ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง" หมายความว่า บุคคลที่ได้รับการประเมินว่ามีภาวะพึ่งพิงตามประกาศ สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสําหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน

"ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน (Caregiver)" หมายความว่า บุคคลทั่วไป ผู้สูงอายุ คนพิการที่ได้จดทะเบียน ผู้ที่สําเร็จการศึกษาจากหลักสูตรการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรของกรมอนามัยหรือหลักสูตรผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงหรือหลักสูตรอื่นที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

"องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" หมายความว่า องค์การบริหารส่วนตําบลตามกฎหมายว่าด้วย สภาตําบลและองค์การบริหารส่วนตําบล เทศบาลตามกฎหมายว่าด้วยเทศบาล หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รูปแบบอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง รวมถึงกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยาที่ได้รับการสนับสนุนให้ดําเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่

ข้อ 4 ให้เลขาธิการสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรักษาการตามประกาศนี้

หมวด 1 หลักเกณฑ์การจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน

ข้อ 5 การจ่ายค่าบริการสาธารณสุขสําหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นการจัดสรรค่าบริการสาธารณสุขให้กับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่ เพื่อเป็นค่าบริการสาธารณสุขสําหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดําเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ในส่วนของค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน

ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสงค์จะรับค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนจัดแจ้งความประสงค์มาที่สํานักงาน ทั้งนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ต้องสมทบเงินเพื่อเป็นค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนตามหมวดนี้

ข้อ 6 เพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้กับบุคคลในพื้นที่โดยส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมตามความพร้อม ความเหมาะสม และความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่ดําเนินการจ้าง "ผู้ช่วยเหลือผู้ดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง" เพื่อให้การดูแล "ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน"

โดยหลักเกณฑ์และแนวทางในการจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนให้เทียบเคียงกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการเบิกค่าใช้จ่าย และประกาศคณะกรรมการการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับการกําหนดกิจการที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นให้เป็นอํานาจและหน้าที่ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง โดยที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประกาศนี้

ข้อ 7 กิจกรรม รูปแบบการให้บริการ กลุ่มเป้าหมายในการให้บริการดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ในชุมชนขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงแต่ละรายโดยให้เป็นไปตามแนวทางการดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงของกระทรวงสาธารณสุข หรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกําหนด

ข้อ 8 ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่มีสิทธิรับค่าจ้างตามหมวดนี้ จะต้องไม่เป็น "ข้าราชการ" หรือ "พนักงานส่วนท้องถิ่น" ซึ่งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจํา ผู้ปฏิบัติงานให้หน่วยงานของรัฐ หรือในรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ลูกจ้างของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือบุคคล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยได้รับค่าตอบแทนหรือค่าป่วยการเป็นการประจําเพื่อเป็นการดําเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการจ้างงานให้ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงตามวรรคหนึ่งจะต้องไม่เป็นผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ได้ทําสัญญากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นวันที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ข้อ 9 เงินค่าจ้างให้จ่ายภายใต้เงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) จ่ายไม่เกิน 5,000 บาทต่อเดือน รวมไม่เกิน 50,000 บาทต่อหนึ่งปีงบประมาณ ให้แก่ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ผ่านการอบรม 70 ชั่วโมง

(2) จ่ายไม่เกิน 6,000 บาทต่อเดือน รวมไม่เกิน 72,000 บาทต่อหนึ่งปีงบประมาณ ให้แก่ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ผ่านการอบรม 70 ชั่วโมงขึ้นไป

การจ่ายเงินตามวรรคหนึ่งสํานักงานจะจ่ายให้ผู้ดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงทุกเดือน ทั้งนี้ ให้สํานักงานกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการจ่ายเงินตามวรรคหนึ่งและสอง เพื่อแจ้งเวียนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็ได้

ข้อ 10 ให้ทําสัญญาจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568

หมวด 2 วิธีการเรียกเก็บค่าบริการสาธารณสุข

ข้อ 11 การให้บริการตามประกาศนี้ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้จ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงบันทึกข้อมูลของผู้รับจ้างในระบบ https://itcnew.nhso.go.th/ หรือผ่านระบบโปรแกรมอื่น ตามที่สํานักงานกําหนด

ข้อ 12 เมื่อมีการส่งข้อมูลการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามตามประกาศนี้แล้ว ให้ถือว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ส่งข้อมูลรับรองว่า ได้มีการจ้างตามหลักเกณฑ์ที่กําหนด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าวต้องจัดเตรียมเอกสารหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการนั้นไว้เพื่อการตรวจสอบของสํานักงาน

หมวด 3 เงื่อนไขการจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน

ข้อ 13 หากพบความผิดปกติอื่นใดของข้อมูลผลงานหรือการเบิกจ่ายของกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่นั้น ๆ สํานักงานจะตรวจสอบเอกสารหลักฐานการจ้างตามประกาศนี้

ข้อ 14 สํานักงานจะพิจารณาปฏิเสธการจ่ายค่าใช้จ่ายตามประกาศนี้ในกรณีอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

(1) คุณสมบัติของผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนไม่เป็นไปตามประกาศนี้ หรือไม่เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามประกาศนี้

(2) การให้บริการไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรฐานในการดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน

(3) ไม่พบแผนการดูแลรายบุคคลที่ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนจัดทําขึ้น

(4) ไม่พบหลักฐานการให้บริการดูแลด้านสาธารณสุขตามแผนการดูแลรายบุคคล

(5) ไม่พบการบันทึกข้อมูลตามข้อ 11

ข้อ 15 ในกรณีที่มีเหตุอันสมควรสงสัยก่อนการจ่ายค่าจ้างว่าเป็นการจ่ายที่อาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดในประกาศนี้ หรือในกรณีที่สํานักงานตรวจพบความผิดปกติหลังการจ่ายค่าจ้าง ตามประกาศนี้ สํานักงานอาจเรียกข้อมูลหรือเอกสารที่แสดงว่า ได้มีการจ้างจริงหรือมีการให้บริการจริง มาประกอบการตรวจสอบและดําเนินการตามระเบียบคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข และดําเนินการ กรณีตรวจสอบพบความไม่ถูกต้องในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข

บทเฉพาะกาล

ข้อ 16 การจ่ายค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 จนถึงวันก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้ถือเป็นการจ่ายค่าจ้างตามประกาศนี้ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิได้รับค่าจ้างสําหรับผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนตามประกาศนี้

ช่องทางร่วมแสดงความคิดเห็น ระบบกลางทางกฎหมาย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

"ทักษิณ" อ่านการเมือง ยังไม่ถึงทางตัน มั่นใจ "อุ๊งอิ๊งค์" รอดคดีคลิปเสียง

34 นาทีที่แล้ว

“ทักษิณ” วางเป้ากู้เศรษฐกิจ บี้ตั้ง AMC แก้หนี้ประชาชน ดันศก.ใต้ดิน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ทักษิณ” ลั่นไทยไม่เทหมดหน้าตักเจรจา “ภาษีทรัมป์” ขอสหรัฐฯ แฟร์ ๆ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การบินไทยเล็งใช้สิทธิ์จัดหาโบอิ้งเพิ่ม 35 ลำ หนุนไทยเจรจาภาษีทรัมป์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่นๆ

23 cases of new COVID XFG sub-variant recorded in Thailand since April

Thai PBS World

จับตาโควิดสายพันธุ์ XFG แพร่เร็ว หลบภูมิคุ้มได้ดี

TNN ช่อง16

จับตาโควิดสายพันธุ์ XFG แพร่เร็ว หลบภูมิคุ้มได้ดี

TNN ช่อง16

สมศักดิ์ ประกาศ 5 แนวทาง ผลักดันไทยสู่ประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล

ฐานเศรษฐกิจ

วิจัยชี้ "ออกกำลังกาย" ช่วยผู้ป่วย "มะเร็งลำไส้ใหญ่" ไม่กลับเป็นซ้ำถึง 90%

TNN ช่อง16

อย. ผนึกกำลัง ปคบ. ทลายโรงงานผลิตน้ำหวานผสมกระท่อมรายใหญ่ มูลค่ากว่า 2 แสนบาท

TNN ช่อง16

ฮิวแมนิก้า ชูแนวคิดผสาน 'คน' กับ 'เทคโนโลยี' ปรับ HR สู่ทีมกลยุทธ์

กรุงเทพธุรกิจ

เฝ้าระวัง "ไข้หวัดนกกัมพูชา" สายพันธุ์รุนแรง ย้ำ! ไทยเสี่ยงระดับต่ำ

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...