"KGI" เล็งทบทวนน้ำหนักลงทุนหุ้น "รับเหมา" แม้ 2Q68 กำไรโตเด่น มองการเมือง กระทบงานรัฐฯ
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI จัดทำรายงานบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรเป็นบวกทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งแนวโน้มกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จะได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานของ CK ที่จะโดดเด่นจากธุรกิจหลัก และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมมากขึ้น
ได้ให้ guidance รายได้ 2Q68F อยู่ราว 1.0-1.1 หมื่นล้านบาท โดยมีอัตรากําไรขั้นต้นราว ๆ 8% รวมถึงเงินปันผลรับจาก TTW มูลค่าประมาณ 232 ล้านบาท นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมน่าจะแข็งแกร่งราว 600 ล้านบาท หนุนจากผลประกอบการ 2Q68F ที่คาดว่าจะดีของทั้ง BEM และ CKP
ดังนั้นจึงประเมินกำไร 2Q68F ของ CK ที่ 742 ล้านบําท (+52% YoY และ +163% QoQ) ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 750 ล้านบําท โดยที่กำไรสุทธิ 1H68F ที่ 1 พันล้านบาท (+68% YoY) คิดเป็น 62% ของการประมาณการทั้งปีที่ 1.65 พันล้านบาท (+14% YoY) ส่วนมูลค่างานรับเหมาในมือ หรือ backlog ปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ 1.90 แสนล้านบาท ลดจาก 2.00 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 เพราะไม่มีการเซ็นสัญญางานใหม่ ๆ
ขณะที่ STECON ให้ guidance กำไร 2Q68F ในเชิงบวกกลุ่ม STECON รายได้อยู่ราว 8.5-9 พันล้านบาท (+31% QoQ และทรงตัว YoY) โดยมี gross margin ราว 7% จํากธุรกิจหลัก แต่สัดส่วนค่ําใช้จ่ายต่อรายได้อาจยังคงสูงที่ 3% ในขณะที่การเรียกร้องค่าเคลมประกันที่ล่าช้ามานานของโครงการบึงหนองบอนได้จบไปแล้วใน 2Q68 แต่ยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าออกมา
อย่างไรก็ตามกำไรจากการเรียกร้องค่าเคลมประกันนี้น่าจะต่ำกว่ามูลค่าความเสียหายรวมที่ 1 พันล้านบาท ในด้านส่วนแบ่งขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลืองมูลค่า +/-150 ล้านบาท อาจจะยังคงมีการบันทึกใน 2Q68 นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าผู้สอบบัญชีจะอนุญาตให้ STECON หยุดบันทึกส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมได้เมื่อใด การที่ประเด็นหลักทั้งสองดังกล่าวนี้ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นการประเมินผลการดำเนินงาน 2Q68F ของ STECON จีงยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูงตั้งข้อสังเกตุว่าผลประกอบการ 2Q68F อิงจาก Bloomberg consensus จะอยู่ในช่วงระหว่างขาดทุนสุทธิ 22 ล้านบาทถึงกำไรสุทธิ 670 ล้านบาท
โครงการต่างๆจากภาครัฐปีนี้มีค่อนข้างน้อยตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบัน CK ยังไม่มีการเซ็นสัญญางานใหม่ใด ๆ แต่ทว่า STECON ได้เซ็นสัญญางานใหม่มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาทไปแล้ว (50% ของเป้ําทั้งปีที่ 5 หมื่นล้านบาท) โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการของภาคเอกชน ขณะนี้ CK คาดว่าจะมีโครงการของรัฐบาลเพียงสามโครงการที่จะออกมาภายในสิ้นปี 2568
คือโครงการทางด่วนยกระดับมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท, โครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท และโครงการขยายโรงพยาบาลศิริราช แต่สำหรับ STECON แล้วยังมีโครงการที่มีความเป็นไปได้จากภาคเอกชนอีกหลาย ๆ โครงการ เช่นโครงการพลังงานหมุนเวียน, data centers, อาคารพาณิชย์ เป็นต้น ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ซึ่งจะช่วยดันให้มูลค่าสัญญางานใหม่สูงถึง 5 หมื่นล้านบาทตามเป้า
ขณะที่โครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล เช่น รถไฟทางคู่ 6 สาย, ทางด่วน 4 สาย (M5, M7, M9, N2), รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และรถไฟความเร็วสูงโคราช-หนองคายเฟส 2 ได้ถูกเลื่อนออกไปในปี 2569 Valuation & Action ปัจจุบัน ให้คำแนะนำ “ซื้อ” CK ราคาเป้าหมายที่ 16.80 บาทอิงจาก P/E ที่ 15x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ -1.5SD
แต่ในส่วนของ STECON กำลังทบทวนประมาณการ และคำแนะนำใหม่ โดยปกติแล้วกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะมีความผันแปรกับสภาพแวดล้อมทางการเมือง แม้ว่าปัจจุบันหุ้นในกลุ่มนี้จะซื้อขายในราคาที่ต่ามาก แต่แนวโน้มธุรกิจยังไม่สดใสจนกว่าจะมีแนวทางในการจัดการแก้วิกฤตทางการเมืองอย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ กําลังทบทวนน้ำหนักลงทุนในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างด้วย Risks ความรวดเร็วในอัตราการเติบโตของ GDP ความล่าช้าจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี และการเริ่มดำเนินการโครงการใหม่ ๆ การแก้ไขสัญญาต่าง ๆ การปรับเปลี่ยนฎระเบียบต่าง ๆ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยการปรับเพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คัด 4 หุ้นเด่น "คริปโทฯ" รับ Sandbox หนุนท่องเที่ยว "โกลเบล็ก" คาดดึงดูดต่างชาติใช้ e-money
- มิจฉาชีพ! จ๊ะ นงผณี เตือนภัยหลังถูกนำชื่อบริษัทไปอ้างอ้างสั่งของ เตรียมฟ้องทันที
- "โกลด์แมนฯ แซคส์" ส่องเป้า "หุ้นเอเชีย" ให้ผลตอบแทน 9% แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุน "หุ้นฮ่องกง"
- พิพาทไทยกัมพูชา ทำส่งออกสินค้า-น้ำมัน สะดุด "CGSI" แนะจับตาผลกระทบ OR-SCC
- "CGSI" ลดน้ำหนักลงทุน "หุ้นน้ำมัน-ก๊าซ" ขัดแย้ง "ตะวันออกกลาง" ดันต้นทุนเพิ่ม คาดกระทบโรงกลั่น 3Q/68