“โรม” แฉเรือดำน้ำส่อทุจริต โยงพลเรือนชื่อ บ. ชี้จีนผิดสัญญาแต่ไทยยอมใช้เครื่องยนต์ที่จีนยังไม่เคยใช้
“โรม” แฉปมเรือดำน้ำโยงทุจริต เอ่ยชื่อพลเรือนอักษรย่อ บ. เอี่ยวเบื้องหลัง ชี้ไทยถูกจีนผิดสัญญา แต่ยังจำยอมใช้เครื่องยนต์ที่จีนยังไม่เคยใช้
วันนี้(8 ส.ค.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงเบื้องหลังการจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” จากจีนที่เป็นมหากาพย์ต่อเนื่องว่า ขณะนี้ยังคงมีความน่ากังวลหลายประการ ทั้งเรื่องความไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ความผิดสัญญาจากฝ่ายจีน และประเด็นทุจริตแอบแฝง
นายรังสิมันต์ระบุว่า กองทัพเรือไทยในขณะนี้ต้องการเรือฟริเกตมากกว่าเรือดำน้ำ เพราะเป็นกำลังรบที่มีความสำคัญในการรักษาอธิปไตยในน่านน้ำไทย โดยข้อมูลจากแหล่งภายในชี้ว่า กองทัพขอเรือฟริเกต 2 ลำ แต่ได้รับการอนุมัติเพียงลำเดียว สะท้อนว่ากองทัพเรืออาจไม่เห็นว่าเรือดำน้ำเป็นความจำเป็นเร่งด่วนเท่าที่ควร
“ผมเข้าใจดีว่าเรือดำน้ำมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ แต่ต้องจัดลำดับความสำคัญให้ถูก กองทัพเรือต้องการฟริเกต แต่กลับได้เรือดำน้ำแทน มันตอบโจทย์ความมั่นคงจริงหรือไม่” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์ยังตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติของสัญญาว่า ไทยตกลงกับจีนจะซื้อเรือดำน้ำพร้อมเครื่องยนต์จากเยอรมนี โดยบริษัทที่เสนอขายเคยยืนยันว่าสามารถจัดซื้อได้แน่นอน แต่เมื่อไทยจ่ายเงินแล้ว กลับพบว่าเครื่องยนต์เยอรมันไม่สามารถส่งมอบได้ และไทยจำต้องยอมรับ “เครื่องยนต์จีน” แทน ทั้งที่จีนยังไม่เคยใช้เครื่องยนต์นี้กับเรือดำน้ำรุ่นเดียวกันมาก่อน
“นี่คือจุดที่น่าเป็นห่วง ไทยถูกละเมิดสัญญา แต่กลับยอมเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้ตัวเองเสียเปรียบ ซ้ำยังเป็นเครื่องยนต์ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานจริง มันสะท้อนถึงความล้มเหลวเชิงยุทธศาสตร์ และความไม่โปร่งใส”
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีข้อครหาเรื่องการทุจริตในการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนมาโดยตลอด และตนได้รับข้อมูลว่า อาจมี พลเรือนอักษรย่อ บ.เป็น คีย์แมน อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้ ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล็อบบี้ให้ยอมรับเงื่อนไขที่เสียเปรียบ เพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัว
“อาจไม่ใช่เรื่องความมั่นคงของชาติ แต่เป็นความมั่นคงของคนบางคน ที่ได้กิน ได้รับทรัพย์กันไปหมดแล้ว จนทำให้เรายกเลิกสัญญาไม่ได้”
รองหัวหน้าพรรคประชาชนย้ำว่า พรรคเห็นด้วยกับการเสริมสร้างศักยภาพทางทหารและการจัดซื้ออาวุธ แต่ต้องอยู่ภายใต้ ยุทธศาสตร์และ ความโปร่งใสโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่ ซื้ออะไรก็ได้ ทุจริตอย่างไรก็ได้
“การคอร์รัปชันในการจัดซื้ออาวุธ ทำให้กองทัพอ่อนแอ ซึ่งเราไม่มีทางยอมรับให้เกิดขึ้นในประเทศนี้ได้”
นายรังสิมันต์ทิ้งท้ายว่า กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ จะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด เพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า ความมั่นคงของประเทศต้องยืนอยู่บนความโปร่งใส ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้มีอำนาจ
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO