เพื่อไทย ชี้ เขากระโดงไม่จบ เหตุ กลุ่มการเมืองแทรกแซงกลไกรัฐ ยันรัฐ ยึดกม. ไม่ทุบทำลาย ไม่ทิ้งประชาชน
เพื่อไทย ชี้ เขากระโดงไม่จบ เหตุ กลุ่มการเมืองแทรกแซงกลไกรัฐ ยันรัฐ ยึดกม. ไม่ทุบทำลาย ไม่ทิ้งประชาชน
โฆษกเพื่อไทยย้ำ เขากระโดง เรื่องควรจบตั้งแต่ปี 2560 แต่ไม่จบเพราะกลุ่มการเมืองเข้าแทรกแซงกลไกรัฐ รัฐบาลเดินตามกฎหมาย ไม่ทุบทำลาย ไม่ทิ้งประชาชน
นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เผย กรณีการแก้ปัญหาและการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดงว่า ตลอดช่วงเวลากว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมามีความพยายามสร้างกระแสให้เกิดความเข้าใจผิดว่า กรณีนี้เป็นการกลั่นแกล้งในทางการเมือง และเป็นการดำเนินการของรัฐบาลที่ไม่สนใจใยดีต่อชีวิตของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
“เรื่องนี้ขอเรียนกับพี่น้องประชาชนทุกคนว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลเพื่อไทยที่ต้องดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาที่หมักหมมมาอย่างน้อยกว่า 20 ปี เพื่อรักษานิติรัฐ นิติธรรม การบังคับใช้กฎหมาย เราไม่ต้องการให้ผู้มีอิทธิพลและเครือข่าย ใช้คำว่า ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นข้ออ้างในหาผลประโยชน์โดยมิชอบ"
ต้องขอย้ำว่า ที่ดินเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่นั้น มีคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อปี 2560 ซึ่งถือเป็นที่สุดว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของหลวง โดยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ต่อมาในรัชสมัยของรัชกาลที่ 6 ได้มีการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตการสร้างทางรถไฟ ซึ่งมีการกำหนดเขตการสร้างทางรถไฟจากนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี รวมถึงพื้นที่บริเวณเขากระโดงในจังหวัดบุรีรัมย์ด้วย ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า ที่ดินในบริเวณเขากระโดงเป็นกรรมสิทธิของการรถไฟตั้งแต่ต้น และนี่ถือว่า ที่ดินผืนนี้คือสมบัติของชาติ ไม่ใช่ที่ดินของใครคนใดคนหนึ่ง
ขอเรียนว่า กรณีที่ดินหลวงเขากระโดง เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาออกมาแล้ว แต่ในทางปฏิบัติการรถไฟยังไม่สามารถเข้าไปจัดการดูแลที่ดินซึ่งเป็นของตนเองได้ จึงได้มีการยื่นเรื่องต่อศาลปกครองกลางในปี 2564 จนกระทั่งศาลปกครองกลางมีคำสั่งในปี 2566 ให้อธิบดีกรมที่ดิน ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ว่าได้มีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินไปโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง
แต่กระบวนการตรวจสอบกลับเต็มไปด้วยความน่าสงสัย และดูเหมือนเป็นความพยายามในการหาช่องทางให้การเพิกถอนโฉนดที่ดินซึ่งออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง
“หากที่ดินหลวง 5,083 ไร่ อยู่ดีๆ ก็หายไป เชื่อว่า ไม่มีคนไทยคนไหนรับได้ เชื่อว่า เมื่อเราคุยกันบนฐานของข้อมูล จะเห็นว่า การดำเนินการของรัฐบาลเพื่อไทยไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่คือความพยายามในบังคับใช้กฎหมาย ตามที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา”
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า กรณีที่มีการปั่นกระแสในโซเชียลมีเดียว่า รัฐบาลจะดำเนินการทุบทำลายสร้างปลูกสร้าง อาคารต่างๆ รวมทั้งบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ขอยืนยันว่ารัฐบาลเพื่อไทย ไม่ได้มีแนวคิดเช่นนั้น และเชื่อว่า เวลานี้ทางรัฐบาล มหาดไทย กระทรวงคมนาคมและการรถไฟเอง กำลังออกแบบแนวทางแก้ไขปัญหาที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“สิ่งใดที่เอกชนดำเนินการไปแล้ว และสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ทำให้คนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เราไม่คิดที่จะไปทำลาย เพียงแต่เราต้องหาทางออกร่วมกันว่า จะจัดการอย่างไรให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยที่พี่น้องชาวบุรีรัมย์ไม่เสียประโยชน์จากการดำเนินการของรัฐบาล”