‘คนทรยศ’
ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่
ระหว่างปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
กับการขัดผลประโยชน์ระหว่าง "ทักษิณ" กับ "ฮุน เซน"
เท่าที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ เฒ่าเจ้าเล่ห์แห่งเขมร ปัญหาชายแดนมีแค่เกี่ยงกันว่าใครต้องเปิดด่านก่อน
เรื่องทหาร บ่นกันว่าให้ใครถอยก่อนใครถอยหลัง ไม่มีการปะทะเพิ่มเติม
ส่วนเรื่องไปศาลโลกแค่จุดกระแส
นอกจากนั้น ส่วนใหญ่ ทั้งโจมตี ทั้งเสี้ยม ทรยศหักหลัง ให้สัญญาแล้วไม่ทำ จึงอดคิดไม่ได้ว่า ปัญหาชายแดนแค่สับขาหลอก
ของจริงคือผลประโยชน์ไม่ลงตัวใช่หรือเปล่า
ที่ "ฮุน เซน" อุตส่าห์ตีตั๋วเครื่องบินมาเยี่ยม "ทักษิณ" ก่อนใคร ตอนนั้นชื่นชมกันใหญ่เพื่อนรักเพื่อนเลิฟมาให้กำลังใจผู้ป่วยที่เพิ่งจะพ้นจากวิกฤต
ตอนนี้ชักไม่แน่ใจว่า ที่รีบพบ "ทักษิณ" นั่นใช่เรื่องเป็นห่วงเพื่อน หรือเป็นห่วงเรื่องอื่น
"ฮุน เซน" ลากไส้แบบกัดไม่ปล่อย ขณะที่ "ทักษิณ" เลือกที่จะเงียบ ถ้ายังเป็นไปตามนี้ "ทักษิณ" ลำบากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ใช่แค่เรื่องเสถียรภาพรัฐบาลไทยอย่างเดียว
เส้นทางธรรมชาติฝั่งตะวันออกยังถูกปิดตายอีกต่างหาก
แต่อย่าไปด่า "ฮุน เซน" ให้มากเลยครับ ที่ออกมาพููดถึงเมืองไทยเป็นฉากๆ ราวกับนอนอยู่ใต้เตียง "ทักษิณ"
สาเหตุมันมาจากการเมืองในประเทศมันเฮงซวย!
มันเน่าจน "ฮุน เซน" หยิบอะไรมาโจมตีก็ ดูน่าสนใจไปเสียหมด
แม้กระทั่งเรื่้อง "ทักษิณ" ไม่ได้ป่วยจริง!
หลายคนลุ้นว่า "ฮุน เซน" มีรูปถ่ายตอนที่ "ทักษิณ" ยังไม่ใส่ปลอกคอ ปลอกแขน ก่อนถ่ายรูปหรือไม่
ถ้ามีก็บันเทิงครับ!
โดนหนักทั้งพ่อทั้งลูก
ตอนนี้หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยแล้วว่า "ฮุน เซน" ไม่เผาผีกับ "ทักษิณ" จากเรื่องอะไรกันแน่ ถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบฉับพลัน
อีกไม่นานการลากไส้คงจะชัดเจนกว่านี้
แต่สังเกตดูตอน "อุ๊งอิ๊ง" ไปบ้าน "ฮุน เซน" ไปดูห้องกว้างราวสนามฟุตบอล ปูพรมแดง ม่านสีชมพู แอร์หมื่นบีทียู ที่เอาไว้รองรับ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ตอนหนีไปจากประเทศไทย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของหลานกับอังเคิลยังดูดีอยู่
ผ่านไป ๓ เดือน กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตไปได้อย่างไร
การไลฟ์สดของ "ฮุน เซน" วานนี้ (๒๗ มิถุนายน) นั่งฟังน้ำตาแทบไหลครับ
ฟังไม่ออก!
จะสื่อสารกับคนไทย แต่ดันไม่ยอมแปลให้ด้วย สมกับเป็น "ฮุน เซน" จริงๆ
แต่ไม่เป็นไรครับทางสำนักข่าว Khmer Times เขารายงานเป็นภาษาอังกฤษ จับมาแปลเป็นไทยบางท่อนบางตอนได้ความดังนี้ครับ
"ผมรู้ตัวว่าผมถูกหลอกไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ผมจึงต้องบันทึกเสียงไว้" สมเด็จฮุน เซน กล่าว
พร้อมอธิบายว่า "เราตกลงกันเรื่องการปรับกำลังทหารในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต
ตอนนั้นนั้นผมอธิบายกับประชาชนลำบากมาก ทั้งทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน (น.ส.แพทองธาร) ต่างโทร.มาขอบคุณผม
แต่พอฝ่ายนายกรัฐมนตรีไทยเดินทางกลับไป สื่อในกรุงเทพฯ กลับเสนอข่าวว่ากัมพูชาถอนทหาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเพียงการปรับกำลัง"
มีคำพูดที่ทำให้ต้องตกตะลึง!
"ยิ่งลักษณ์" ก็มีบทบาทด้วย
ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบอะไรกันแน่ครับ
ว่าที่นักโทษ นักโทษ อดีตนักโทษที่อาจกลับไปเป็นนักโทษในเร็วๆ นี้ เป็นคนกำหนดชะตากรรมประเทศไทย
ให้ตายสิ…พับผ่า
แล้วประชาชนอยู่ตรงไหน?
ทำไมเอาคนโกง คนหนีคดี มาตัดสินใจแทนประชาชน
แต่… "ฮุน เซน" อาจจะปล่อยข่าวปั่นหัวคนไทยเล่นก็ได้ ฉะนั้น "อุ๊งอิ๊ง" ต้องมีคำตอบให้ประชาชน ว่าตัวเองไร้ความสามารถ จนต้องให้ พ่อ กับ อาปู มาช่วยพูดจริงหรือไม่
สำนักข่าว Khmer Times ยังรายงานว่า…
"…ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เปิดเผยว่าอาการป่วยของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย เป็นอาการที่แต่งขึ้นเพื่อหลอกลวงประชาชนและศาลรัฐธรรมนูญของไทย
การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชระบุว่า เป็นการทรยศต่อมิตรภาพส่วนตัวและการทูตระหว่างทักษิณและแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของทักษิณ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยคนปัจจุบัน
สมเด็จฮุน เซน อ้างว่าทักษิณใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องพยุงคอและแขน ไม่ใช่เพราะป่วยจริง แต่เป็นการแสดงเพื่อบิดเบือนการรับรู้ระหว่างดำเนินคดี
เขาอ้างว่าได้เห็นทักษิณมีสุขภาพแข็งแรงด้วยตนเอง และคนอื่นๆ อีกหลายคนก็ทราบถึงการหลอกลวงดังกล่าว
สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับสมาชิกสภาท้องถิ่นจังหวัดพระวิหารว่า 'หลังจากกลับถึงประเทศไทยแล้ว ผมได้บินไปกรุงเทพฯ เพื่อเยี่ยมทักษิณด้วยตนเอง เขาไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด แต่เมื่อถึงเวลาถ่ายรูป เขาก็ขออุปกรณ์ประกอบฉาก เช่น เฝือกคอ เฝือกแขน เพื่อให้ดูเหมือนไม่สบาย
พอถ่ายรูปเสร็จ เขาก็ถอดอุปกรณ์ประกอบฉากออกและไปกินข้าวทันที นั่นไม่ใช่อาการป่วย มันคือการแสดง และประชาชนชาวไทยก็สงสัยเรื่องนี้แล้ว ผมแค่ยืนยันเรื่องนี้ เพราะตอนนี้ทั้งทักษิณและแพทองธาร ลูกสาวของเขา ต่างก็แสดงความไม่จริงใจ'
เขากล่าวเสริมว่า แพทองธารรู้ดีว่าพ่อของเธอไม่ได้ป่วย แต่กลับให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลเท็จต่อศาลรัฐธรรมนูญของไทย
ดังนั้น ในความเห็นของเขา ทั้งพ่อและลูกสาวจึงต้องเผชิญกับปัญหาความน่าเชื่อถือต่อระบบกฎหมายของไทย ทางการไทยเพิ่งเรียกตัวทักษิณมาดำเนินคดีในข้อกล่าวหาประพฤติมิชอบนี้
สมเด็จเดโชยังได้ระบุชื่อพยานบางคนที่ได้เห็นอาการป่วยของทักษิณด้วย รวมถึงรองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ นายเคลียง ฮวด และพลเมืองไทยที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย…"
ขอจบด้วยคำคม
ขึ้นชื่อว่าโจร
จะสามัคคีกันตอนปล้น
จะแตกคอกันตอนแบ่งสมบัติ ที่ปล้นมา.