จับ 15 กัมพูชาลอบเข้าไทย เผยกลับประเทศแล้วอดอยาก จึงเสี่ยงกลับมาโรงเกลือ
หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 โดย ร้อย.ทพ.1201 และ ร้อย.ทพ.1206 ได้จัดกำลังลาดตระเวนเชิงรุกในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในคืนวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมชาวกัมพูชาทั้งหมด 15 ราย ที่ลักลอบเดินเท้าข้ามแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่
กลุ่มแรก จับได้ 9 ราย ที่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน ร้อย.ทพ.1201 ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยกำลังลัดเลาะตามแนวป่าท้ายหมู่บ้านดงงู ตำบลป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบเป็นแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด 9 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 4 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารผ่านแดนใดๆ
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทั้งหมดให้การว่าเคยทำงานอยู่ภายในตลาดโรงเกลือในฝั่งไทย โดยทำงานซ่อมรองเท้ามือสองมานานหลายปี แต่เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการปรับมาตรการผ่านแดน และเกรงว่าหากอยู่ต่ออาจเดินทางกลับบ้านไม่ได้ จึงตัดสินใจเดินทางกลับกัมพูชาก่อนล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับไปถึงบ้านเกิด กลับต้องเผชิญภาวะขาดแคลนงาน ไม่มีรายได้ ทำให้ไม่สามารถดูแลครอบครัวได้ จึงตัดสินใจรวมกลุ่มกันลักลอบเดินเท้ากลับเข้ามาในฝั่งไทยอีกครั้ง โดยใช้เส้นทางที่ตนคุ้นเคยจากประสบการณ์หลายปี และไม่ได้จ้างผู้นำทางแต่อย่างใด
กลุ่มที่สอง จับได้ 6 ราย ที่ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ ในเวลาใกล้เคียงกัน เจ้าหน้าที่จาก ร้อย.ทพ.1206 ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลกำลังเดินลัดเลาะอยู่ในไร่อ้อย พื้นที่บ้านใหม่ศรีอุดม ตำบลคลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จึงได้เข้าตรวจสอบ พบเป็นชาวกัมพูชา 6 คน ประกอบด้วย ชาย 2 คน หญิง 3 คน และเด็กหญิงอายุเพียง 2 ขวบอีก 1 คน โดยมีผู้นำพา 2 คนวิ่งหลบหนีไปได้
จากการสอบถาม กลุ่มนี้ระบุว่าเป็นครอบครัวที่เคยประกอบอาชีพค้าขายในตลาดโรงเกลือ โดยขายเสื้อผ้ามือสอง และของใช้ต่างๆ แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่มีรายได้ ขาดแคลนทุนทรัพย์ จึงจำใจกลับประเทศไปก่อน ต่อมาเมื่อทราบว่าข้าวของในร้านเสียหาย และไม่มีคนดูแลร้าน จึงตัดสินใจกลับมาอีกครั้ง โดยต้องยอมจ่ายเงินให้ผู้นำพา คนละ 4,000 บาท เพื่อพาลักลอบเข้าประเทศไทย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก และ สภ.คลองน้ำใส ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคัดแยกเหยื่อการค้ามนุษย์ และดำเนินการตามกระบวนการผลักดันกลับประเทศต่อไป.