ไปรษณีย์ไทยหนุนส่งออกไทย-จีน เดินหน้าแผนขนส่งทางบก-ราง เชื่อมเศรษฐกิจภูมิภาค
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ประกาศเดินหน้าผลักดันการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจไทย–จีนผ่านระบบขนส่งไปรษณีย์เต็มรูปแบบ หลังตัวเลขการขนส่งพัสดุจากไทยไปจีนในช่วงปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้นกว่า 3% พร้อมเปิดแผนรองรับความต้องการของภาคธุรกิจและผู้บริโภค ด้วยการขยายบริการกลุ่ม B2B และ B2C โดยเฉพาะในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ความร่วมมือด้านการขนส่งระหว่างไทย–จีนเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี โดยการส่งพัสดุและเอกสารระหว่างสองประเทศยังคงมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการในกลุ่มอีคอมเมิร์ซ การค้าระหว่างประเทศ และความนิยมในสินค้าไทย ทั้งนี้ บริการยอดนิยมที่ใช้ส่งของไปจีน ได้แก่ EMS World, พัสดุ และไปรษณียภัณฑ์
ทั้งนี้ สิ่งของที่คนไทยนิยมส่งไปจีนมีความหลากหลาย ตั้งแต่เอกสารทางธุรกิจ ของเล่น เสื้อผ้าคอตตอน อาหารเสริม ไปจนถึงเครื่องรางของขลัง สะท้อนถึงความลึกซึ้งทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่ผสานกันระหว่างสองประเทศ ขณะที่เส้นทางขนส่งหลักในปัจจุบันครอบคลุมทั้งทางอากาศ ทางเรือ และทางพื้นดิน โดยไปรษณีย์ไทยกำลังศึกษาแผนพัฒนาเส้นทางขนส่งทางบกและทางราง (Multimodal Transport) อย่างจริงจัง เพื่อเชื่อมโยงจีนสู่ไทย และกระจายสินค้าจากไทยออกสู่ทั่วโลกผ่านเครือข่ายไปรษณีย์
“การขนส่งทางบกจากต้นทางในจีนไม่เพียงช่วยลดต้นทุนขนส่งเมื่อเทียบกับทางอากาศ แต่ยังสามารถขนส่งในปริมาณมาก เหมาะสำหรับธุรกิจ B2B และ B2C โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ค้าออนไลน์และผู้ผลิตขนาดกลาง”
พร้อมระบุว่า ไปรษณีย์ไทยอยู่ระหว่างจัดตั้งระบบรองรับการดำเนินพิธีการศุลกากรทั้งต้นทางและปลายทาง เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังเตรียมแสดงบทบาทเชิงสัญลักษณ์ในการเป็น“ทูตวัฒนธรรม” ผ่านการจัดงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย พ.ศ. 2568 “จดหมายแห่งมิตรภาพ – From Bangkok to Beijing” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 12 สิงหาคม ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก ภายใต้ความร่วมมือกับสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์
โดยงานนี้จะถ่ายทอดเรื่องราวของความสัมพันธ์ไทย–จีน ผ่านนิทรรศการแสตมป์ จดหมาย และกิจกรรมร่วมสมัย เช่น งิ้วเปลี่ยนหน้ากาก ลำตัดไทย นิทรรศการพรรณไม้พระนาม “คำหยาดศรีสิรินธร” รวมถึงคอลเลกชันแสตมป์หายากจากทั่วเอเชีย และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินไทย-จีน โดยภายในงานยังเปิดโอกาสให้พบกับร้านค้าจากสองวัฒนธรรมใน “ตลาดแห่งมิตรภาพ”
ชาญชัย กรรณสูต นายกสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า งานนี้ยังถือเป็นการเฉลิมฉลอง 50 ปีของสมาคมฯ ด้วยการจัดเวทีการประกวดแสตมป์นานาชาติจาก 27 ประเทศ รวมกว่า 1,200 เฟรม ซึ่งย้ำถึงบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมไปรษณีย์ในภูมิภาค
สิทธิพล เครือรัฐติกาล จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า “ความสัมพันธ์ไทย–จีน เติบโตจากเศรษฐกิจสู่หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์” พร้อมระบุว่าการสื่อสารทางวัฒนธรรม เช่น การแลกเปลี่ยนแสตมป์และจดหมาย มีพลังในการเชื่อมโยงหัวใจคนจากสองแผ่นดิน และเป็นจุดตั้งต้นของความเข้าใจระหว่างชาติ
ดังนั้น ด้วยบทบาททั้งในมิติเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ไปรษณีย์ไทยจึงพร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญของการเชื่อมโยงภูมิภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย–จีนให้ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืนในโลกไร้พรมแดน