ชวน ร่อนหนังสือจี้กกต. กล้าฟันคนผิดทำกม.ให้ศักดิ์สิทธิ์ คดีสำคัญ จี้สปิริตองค์กรอิสระ
ชวน ร่อนหนังสือจี้กกต.ยึดกม.กล้าฟันคนผิดคดีสำคัญ จี้สปิริตองค์กรอิสระ ป.ป.ช.-ศาลรธน. กล้าฟันคนผิด ทำกม.ให้ศักดิ์สิทธิ์เป็นทางออกประเทศ หากใครพ้นตำแหน่ง คนใหม่เข้ามาจะกลัวไม่ทำผิดอีก
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ที่จังหวัดตรัง นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ทำหนังสือไปถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้กำลังใจในการทำหน้าที่โดยยึดตัวบทกฎหมายเป็นหลัก ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า กกต.ทำหน้าที่ล้มเหลว ไม่เข้มแข็ง ไม่เคยเห็น กกต.ชุดไหนล้มเหลวเหมือนชุดนี้ จับโกงจับซื้อเสียงไม่ได้เลย จับได้เขตเดียวเขต 8 นครศรีธรรมราช คนกล่าวหาว่ามีทุจริตคอร์รัปชั่นเรียกเงินหรือไม่ และกำลังจะมีการพิจารณาเรื่องสำคัญๆ อย่างฮั้ว ส.ว. ตนเลยทำหนังสือให้กำลังใจประธาน กกต.ว่า ขอให้มีความกล้าหาญในการตัดสิน สิ่งที่ผิดก็ให้ผิด สิ่งที่ถูกก็ให้ถูก โดยยึดตัวบทกฎหมายเป็นหลัก เพราะ กกต.เป็นส่วนสำคัญ ยิ่งด่านแรกในการคัดนักการเมืองเข้ามาทำงาน ตนเชื่อว่าในองค์กรอิสระต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กกต. ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ
ที่ทุกฝ่ายจับตาการทำหน้าที่สำคัญในขณะนี้ ผู้ที่ทำหน้าที่ในองค์กรอิสระเหล่านั้นมีคนดีอยู่มากกว่าคนที่มีปัญหา ซึ่งคนดีเหล่านี้สามารถทำหน้าที่ให้บ้านเมืองเรารอดพ้นจากวิบัติภัยอันตรายได้ แต่ถ้าคนเหล่านี้ขาดความรับผิดชอบก็ไม่รู้จะพึ่งใคร จะต้องหาองค์กรใหม่มาคุมคนเหล่านี้หรือ มันเป็นไปไม่ได้ ท่านสมัครไปเป็นองค์กรอิสระ ไม่ได้มีใครบังคับ ท่านได้รับเกียรติแล้วท่านต้องทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 160 ของรัฐธรรมนูญในเรื่องความสุจริตเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น หากไม่ปฏิบัติ หาผลประโยชน์ ยอมให้มีการวิ่งเต้น ก็ไม่ควรอยู่ ควรลาออกไปเพื่อให้หน่วยงานดีขึ้น
“ปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้เริ่มจากการเมือง ถ้าการเมืองเริ่มจากความซื่อสัตย์สุจริต ก็ตั้งข้าราชการสุจริต ถ้าการเมืองมาจากการซื้อเสียง การโกง มาเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ก็ตั้งข้าราชการโกงมาตั้งลูกน้องโกง การรีดไถก็เกิดทั่วเมือง เมื่อต้องจ่ายเงินแลกตำแหน่ง ก็ต้องหาเงิน สถานการณ์ของรัฐบาลในขณะนี้มีปัญหาในเรื่องสมาธิในการทำงานที่ไม่ปกติ จากสารพัดปัญหาที่รุมเร้าทำให้สับสน แต่เพราะมีการละเมิดกฎหมายบ้านเมือง มีการทำสิ่งผิดจนมีการร้องเรียนกัน
เมื่อมีมูลก็ต้องสอบ บ้านเมืองก็แก้ปัญหาได้ไม่เต็มที่เพราะมัวแต่แก้ปัญหาความเลวร้ายที่สร้างมาโดยนักการเมือง มีวิธีแก้เดียวคือ ทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้คนที่คิดทำไม่ดีได้เลิกคิด ดังนั้น ถ้าสิ่งที่ต้องตัดสินลงโทษรุนแรงถึงขั้นต้องยุบ ต้องสั่งให้หมดสมาชิกภาพก็ต้องทำ เพื่อเปลี่ยนแปลงให้คนใหม่เข้ามา ไม่ใช่ว่าคนใหม่เข้ามาจะดีกว่าเดิม แต่คนใหม่ที่เข้ามาจะได้กลัวว่ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์” นายชวนกล่าว
นายชวนกล่าวว่า กลไกการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระต่างๆ จึงมีความสำคัญ หากผิดต้องตัดสิน ไม่ใช่ให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าไปวิ่งเต้นได้ อย่าไปประมาทนักวิ่ง บางคนศาลตัดสินจำคุก 3 ปี บางคนเลือกปฏิบัติ ต้องทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ตนพูดตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ว่ารัฐบาลมีสิทธิเลือกได้ระหว่างหลักนิติธรรมกฎหมายบ้านเมือง หรือเลือกพวก ตั้งแต่ตอนนายทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ แต่น่าเสียดายที่เลือกพรรคพวก ปล่อยข้อยกเว้นให้นายทักษิณ ไม่ปฏิบัติมาตรฐานเสมอกันกับคนทั้งประเทศ ในที่สุดประเทศก็ต้องมาวนเวียนกับเรื่องเหล่านี้
เพราะนายทักษิณประกาศก่อนกลับมาแล้วว่าจะไม่ติดคุก ตอนนั้นตนได้ทำหนังสือถึงแพทยสภา ขอให้ปกป้องหมอตัวเล็กๆ เพราะเกรงจะถูกบังคับให้เซ็นรับรองบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง แต่สุดท้ายปัญหาก็ย้อนกลับมาจริง รัฐบาลจึงประสบปัญหาทุกวันนี้จนไม่มีสมาธิทำงาน แค่เรื่องชั้น 14 ได้ลามไปหมดทุกเรื่องทุกวงการ ไปจนถึงศาลฎีกา ถึงแพทยสภา จะไม่มีปัญหาเลยถ้าคนคนหนึ่งทำตามกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้นที่ไม่ยึดหลักนิติธรรม ดังนั้น ต้องทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ คนจะได้กลัว ไม่ทำผิดกฎหมาย บ้านเมืองจึงจะเดินต่อไปได้
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ชวน ร่อนหนังสือจี้กกต. กล้าฟันคนผิดทำกม.ให้ศักดิ์สิทธิ์ คดีสำคัญ จี้สปิริตองค์กรอิสระ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th