ผู้ใหญ่บ้านหึงโหดมอบตัวแล้ว! หลังรัวปืนใส่เมีย พร้อมญาติดับ4 เจ็บอีก2
ผู้ใหญ่บ้านบึงกาฬหึงโหดมอบตัวแล้ว! รัวปืนใส่เมีย พร้อมญาติดับ4 เจ็บอีก2 หลังลั่นวาจาถ้าเลิกวันไหน จะฆ่าให้ตายทั้งโคตร
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 22 ก.ค. 68 ตำรวจ สภ.โซ่พิสัย ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บหลายราย ในท้องที่บ้านคำไผ่ หมู่ที่ 3 ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วิญญู อำนวยสมบัติ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง รองผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา รองผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ทราบตามลำดับชั้น และประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลโซ่พิสัย ตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ หน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไล หน่วยกู้ภัยนทีธรรม และหน่วยกู้ภัยร่วมใจบึงกาฬออกตรวจที่เกิดเหตุ
ต่อมานายสุรเชษฐ์ ไขโพธิ์ นายอำเภอโซ่พิสัย พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอโซ่พิสัยลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุด้วย เมื่อไปถึงบริเวณบ้านเลขที่ 328 พบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง สวมใส่เสื้อแขนสั้นสีเขียว กางเกงขาสั้นลายสีดำ นอนหงายอยู่ข้างรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านทราบชื่อ น.ส.ธัญญพัฒน์ พรมธิราช (ติ๋ม) อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านถูกยิงเข้าตามร่างกายหลายแห่ง
เมื่อเข้าไปในบ้านพบศพชายนอนหงานเสียชีวิต ในสภาพสวมใส่กางเกงขายาวลายทหาร เสื้อแขนสั้นลายขาวเทา ทราบชื่อนายกุด แก้วคม อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่101หมู่ที่ 3 เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความสงบถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวเข้าตามร่างกายหลายแห่ง ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อต่อมานายอภัย ศรีทอง อายุ 45 ปี และนายสุรพล พรมธิราช อายุ 60 ปี พ่อของ น.ส.ธัญญพัฒน์ ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันเข้าตามร่างกาย มีอาการสาหัส
จากการสอบถามชาวบ้านเบื้องต้นทราบว่าคนก่อเหตุคือ นายประทวน ต้นกัลยา (เอ๋) อายุ 45 ปี เป็นสามีของ น.ส.ธัญญพัฒน์ และเป็นผู้ใหญ่บ้านบ้านถ้ำจันทร์ หมู่ที่12 ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย ที่หมู่บ้านอยู่ติดกัน เป็นคนยิงกลุ่มบุคคลทั้ง 4 ราย อยู่ภายในบ้านหลังเกิดเหตุ และหลบหนีไป
ต่อมาตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามี นายสมชาย ผ่องแผ้ว หรือ รองป๊อง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่313 หมู่ที่ 12 ตำแหน่งรองนายก อบต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย ถูกนายประทวน ยิงได้รับบาดเจ็บ และถูกส่งตัวไปรักษาที่รพ.บึงกาฬแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และชันสูตรพลิกศพนายกุด และน.ส.ธัญญพัฒน์ และให้กู้ภัยนำศพไปเก็บไว้ที่ รพ.โซ่พิสัย
ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังชันสูตรพลิกศพทั้ง 2 รายอยู่นั้น ญาติของนายเฉลียว ดวงจันทร์ดี (สี) อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ที่ 12 ก็ขับรถขึ้นมาบอกว่า นายสีถูกยิงเหมือนกัน กำลังนอนหายในรวยรินอยู่ในสวนปาล์มหลังหมู่บ้าน กู้ภัยจึงรีบไปช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันนายสีนอนหงายเสียชีวิตอยู่ใต้กระท่อมเถียงนา พบถูกยิงเข้าที่ร่างกายหลายแหล่ง และพบปลอกกระสุนลูกซองจำนวน 2 ปลอกตกอยู่ใกล้ต้นปาล์มก่อนพบศพประมาณ 10 เมตร
รวมมีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 รายบาดเจ็บสาหัส จำนวน 2 ราย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามติดต่อผู้ใหญ่เอ๋ให้เข้ามอบตัวผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยผู้ใหญ่เอ๋ บอกว่า ถามคดีกับตำรวจว่า หากฆ่าคนตาย 5-6 ศพ ได้ติดคุกไหม ตอนนี้ตายแล้ว 5-6 ศพ แล้วข่าวดังอยู่ ไม่ต้องห่วงผมหรอก เมียผมก็ตายแล้ว ส่วนรองป๊องไม่รู้จะรอดหรือไม่รอด และอีก 2-3 ศพนะที่อยู่ในบ้าน ขณะที่ตำรวจถามใช่ปืนอะไร ด้านผู้ใหญ่เอ๋ บอกว่า ใช้ปืนลูกซองยาว ปืนสั้นก็มี พวกเขาท้าทายผมว่า มึงไม่ใช่ลูกเขยกู ตนก็บอกว่าผมหมดไปเยอะแล้ว กู้เงินมาก็โอนให้ฝ่ายหญิงครั้งละ 10,000-20,000 บาท ยังจะมาว่าผมไม่ใช่ลูกเขย เมียก็เก่ง ด้านตำรวจบอกว่า ค่อยๆ แก้ปัญหาไม่ต้องหนี
ส่วนผู้ใหญ่เอ๋ กล่าวว่า ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าผมจะติดคุกตลอดชีวิต ผมยิงตัวตายได้ไหม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ รีบบอกว่า ไม่ๆๆๆ ขณะที่ผู้ใหญ่เอ๋ บอกว่า ยังไงผมก็ติดคุกตลอดชีวิต เพราะมีหลายศพ ลูกๆก็โทรมาหา ให้ผมยอมมอบตัว ติดคุกลูกๆก็จะไปเยี่ยม เมียก็ไม่เอาผม แถมพ่อตายังมาข่มขู่ผมอีก นาทีสุดท้ายยิงเลยมัน แก้ไขไม่ได้แล้วลูกพี่เอ๋ย นาทีสุดท้ายผมจะยิงตัวเองนะ
ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกให้ ผู้ใหญ่เอ๋มอบตัวเถอะ ซึ่งใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง ผู้ใหญ่เอ๋จึงเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ป้อมยามตำรวจ บริเวณบ้านสามแยก ต.ศรีชมภู ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร ตำรวจจึงคุมตัวไปคุมขังที่ สภ.โซ่พิสัย
ทั้งนี้นางเดือน พรมธิราช อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของ น.ส.ธัญญพัฒน์ บอกว่า ผู้ใหญ่เอ๋กับน้องสาวยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่คบหากันมาหลายปี ผู้ใหญ่เอ๋เป็นคนขี้หึง เวลาน้องสาวอยู่ด้วยจะไม่กล้ารับสายแปลกๆ เลย แม้กระทั่งตนเองเอาเบอร์สามีโทรไปหา เพราะเบอร์ตัวเองเงินหมด น้องสาวก็ไม่รับ ส่วนลูกชาย น.ส.ธัญญพัฒน์บอกว่าเห็นผู้ใหญ่เอ๋พูดคุยกับตา และญาติๆ เมื่อแม่เดินออกมาหน้าบ้าน ผู้ใหญ่เอ๋ก็ยิงปืนใส่แม่เลย
ส่วนญาติๆของผู้เสียชีวิตก็บอกว่า ผู้ใหญ่เอ๋มีนิสัยโหดร้าย ใครสั่งสอนอะไรก็ไม่ได้ ถือว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่บ้าน คนหนุ่มไฟแรงต้องฟัง และเคารพ แกไม่ว่าจะหัวดำหัวหงอกไม่ว่า แกจะชังใครจะยิงใครทำได้หมด แกว่าอำนาจอยู่กับแก รังแกกระทั่งลูกบ้าน ไม่ชอบใครก็ไปตี ลูกบ้านก็ไม่กล้าเอาเรื่อง ไม่มีใครกล้ามีเรื่อง มีไรก็มักจะเอาปืนออกมาข่มขู่ตลอด
“ไอ้ติ๋ม ผู้ใหญ่เอ๋รักมาก แต่ยังไม่ได้แต่งกันอย่างเป็นทางการ คบหากันมานานจนสร้างบ้านได้เป็นหลัง เวลาทะเลาะกันก็จะเอาปืนมาขู่มันตลอด ไอ้ติ๋มมันทนไม่ไหวอยากจะเลิก ก็เลยมาเรียกผู้หลักผู้ใหญ่ขึ้นไปที่บ้านที่เกิดเหตุ เพื่อตกลงเจรจากัน แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรมาก ผู้ใหญ่เอ๋ก็ก่อเหตุยิงพ่อตาก่อน คือแกเคยพูดไว้ว่าถ้าไอ้ติ๋มเลิกกับแกวันไหน จะฆ่าให้ตายทั้งโคตร ซึ่งไอ้ติ๋มกับผู้ใหญ่เอ๋เลิกกันได้3-4วันแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.โซ่พิสัยจะสรุปมูลเหตุ และแรงจูงใจที่ทำให้ผู้ใหญ่เอ๋ต้องลงมือยิงภรรยาพ่อตา และญาติๆ รวม 4 ศพ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาก่อนจับกุมดำเนินคดี