ททท. พลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย เตรียมก้าวสู่ “The New Thailand” ในปี 2569
ประเทศไทยเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวครั้งใหญ่ เพื่อยกระดับสู่มาตรฐานสากลอย่างแท้จริง ภายใต้นโยบาย “The New Thailand” ที่มุ่งเน้นคุณค่า (Value) มากกว่าปริมาณ (Volume) พร้อมสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
การท่องเที่ยวไทยในปี 2568
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า แม้ปี 2568 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องเผชิญความท้าทาย แต่ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยตั้งแต่ต้นปีมีนักท่องเที่ยวกว่า 18.08 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้กว่า 1.40 ล้านล้านบาท
รัฐบาลยังได้อนุมัติงบกว่า 4,518 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าน 22 โครงการหลัก พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อน 5 New Paradigm ได้แก่ New Customer, New Product, New Partnerships, New Marketing Strategy และ New Key Performance Indicator
นอกจากนี้ ยังมุ่งพัฒนาแหล่งเที่ยว Hidden Gems ผ่านเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO และ Sport Tourism เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ พร้อมผลักดันมาตรการด้านความปลอดภัยและมาตรฐานบริการในทุกมิติ
เตรียมก้าวสู่ “The New Thailand” มุ่งสู่คุณภาพและความยั่งยืนในปี 2569
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ย้ำว่า ปี 2569 คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยยึดแนวคิดหลัก “Value is the New Volume” เดินหน้าอย่างมีทิศทางด้วย 4 จุดเน้นสำคัญ:
- ปรับโครงสร้างสู่การ “ท่องเที่ยวคุณภาพ”
- กระจายรายได้และโอกาสสู่ท้องถิ่น
- ออกแบบ ประสบการณ์เฉพาะกลุ่ม
- สร้างความยั่งยืนควบคู่กับ Soft Power
โดย ททท.ตั้งเป้าที่จะพาประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงที่สุดในโลก ด้วยการสร้าง “คุณค่าและประสบการณ์” ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจลืม
กลยุทธ์ตลาดต่างประเทศ
ททท. เดินหน้าทำตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง ทั้ง Millennials, Gen Z, Luxury และ Health & Wellness พร้อมสร้างภาพลักษณ์ความปลอดภัยและขยายเมืองท่องเที่ยวใหม่ในตลาดหลักอย่างจีน ฮ่องกง มาเลเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อินเดีย ญี่ปุ่น ตลอดจนรัสเซีย อังกฤษ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และเยอรมนี
ในขณะเดียวกัน จะกระตุ้นตลาดขนาดกลาง-เล็ก เช่น ไต้หวัน เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย อิตาลี และสเปน ด้วยการชูจุดขาย “Green Destination” และท่องเที่ยวระยะยาว ส่วนตลาดตะวันออกกลางและอิสราเอลถูกยกระดับเป็น High Value Market ด้วย Premium Leisure และ Health & Wellness พร้อมเสริมเส้นทางและความถี่เที่ยวบินเพื่อรองรับความต้องการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์ตลาดในประเทศ
ส่วนตลาดภายในประเทศ ททท. จะเดินหน้าสร้างพลังเศรษฐกิจฐานรากด้วยแคมเปญ “ไทยเที่ยวไทย” ที่ยังเป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์การตลาดเชิงพื้นที่ (Area-Based Marketing) ผสานสินค้าและบริการเชิงประสบการณ์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพสูง ทั้ง Millennials, กลุ่ม High-End/Ultra Wealth และครอบครัวหลายเจเนอเรชัน (Multi-Generation Family)
นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม Exclusive Experience ในจังหวัดหลัก พร้อมกระตุ้นการเดินทางตลอดทั้งปีด้วยตลาด Health & Wellness และการท่องเที่ยวข้ามภาค โดยชูเสน่ห์ไทยในแต่ละภูมิภาค ดังนี้
- ภาคกลาง - ชวนสัมผัสเสน่ห์ดินแดนลุ่มแม่น้ำ กับคอนเซปต์ “เที่ยวกลาง เที่ยวใกล้ เที่ยวได้เลย”
- ภาคตะวันออก - สนุกกับ “สีสันตะวันออก” ด้วยกีฬา กิจกรรมกลางแจ้ง อิ่มอร่อยกับผลไม้ และอาหารถิ่น
- ภาคเหนือ - “Season of North สุขทันที…ฤดูนี้ ฤดูเหนือ” ชูเสน่ห์อัตลักษณ์ภาคเหนือ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสวัฒนธรรมและเรื่องราววิถีชุมชน
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ - ชวนตกหลุมรัก “ISAN Muaniverse สุขไม่ซ้ำกับประเพณีสีอีสาน”
- ภาคใต้ - “Go South สัมผัสเสน่ห์ใต้ หลากหลายวัฒนธรรม” ลงใต้ไปสัมผัสเสน่ห์แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ควบคู่กิจกรรม Responsible Tourism
นอกจากนี้ ททท. ยังร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมและ อพท. ส่งเสริม เมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ได้แก่ สุโขทัย เพชรบุรี และสุพรรณบุรี พร้อมต่อยอดแนวคิด “Grand Moment” เพื่อให้ทุกทริปกลายเป็น”ช่วงเวลาแห่งความรู้สึกและความทรงจำที่ไม่อาจลืม”
ผลักดันประสบการณ์การท่องเที่ยวและสินค้าที่โดดเด่น
ททท. เตรียมคัดสรรประสบการณ์ท่องเที่ยวคุณภาพและมีอัตลักษณ์ เช่น UNSEEN Destination, การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness & Meditation), เส้นทางมูเตลู, LGBTQ, ตามรอยหนัง-ละคร รวมถึง Sport Tourism, Night Tourism และ Soft Power 5 Must Do in Thailand พร้อมพัฒนาการเชื่อมต่อทุกมิติ ทั้งสายการบิน รถไฟ เรือ และเส้นทางพิเศษ
นอกจากนี้ ยังยกระดับมาตรฐานการบริการสู่สากลด้วย Thailand Tourism Awards (TTA) และโครงการ “Trusted Thailand (Safe Travel Stamp)” เพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และยั่งยืน
เสริมการท้องเที่ยวไทยด้วยอีเวนต์ระดับโลก
ททท. เตรียมจัดอีเวนต์และเทศกาลระดับโลกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม เช่น
- Maha Loy Krathong, VIJIT Chao Phraya, Maha Songkran World Water Festival
- Tomorrowland Thailand 2026 ครั้งแรกในเอเชีย
- เทศกาลดนตรี Rolling Loud Thailand, Wonderfruit, Big Mountain
- กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา Thailand Marathon, Honda LPGA Thailand
- เทศกาลประเพณีไทย เช่น ไหลเรือไฟ จ.นครพนม, แห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี, แห่ดาวคริสต์มาส จ.สกลนคร
สุดท้ายนี้ ททท. เชื่อว่า ปี 2569 จะเป็นปีแห่งการยกระดับท่องเที่ยวไทยอย่างแท้จริง จากจุดหมายที่ “น่าเที่ยว” สู่จุดหมายที่ “ทรงคุณค่า” ครอบคลุมทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน