ผู้เชี่ยวชาญแนะวิธีสังเกต “โดรน” ป้องกันสับสน
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 6 สิงหาคม 2568 เวลา 2.59 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทสุรินทร์ 5 ส.ค. – นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ยืนยันกลิ่นเหม็นเน่าในพื้นที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ขออย่าตื่นตระหนก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญแนะวิธีสังเกตโดรน ป้องกันความสับสน
นักบินโดรนจิตอาสา สาธิตการขึ้นบินของโดรน และแนะนำการสังเกตความแตกต่างระหว่างเครื่องบิน หลังจากพบวัสดุต้องสงสัยคล้ายโดรนบินเหนือน่านฟ้า จ.สุรินทร์ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา รวมถึงการแจ้งผ่านสายด่วนความมั่นคง 1374 เป็นจำนวนมาก ซึ่งประชาชนรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
จ.สุรินทร์ จึงยกระดับป้องกัน ตรวจสอบ จับกุม โดยประสานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร รวมถึงภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในการบินโดรน ลงพื้นที่บูรณาการกับเจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เพื่อดำเนินการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศห้ามบินโดรนของกองทัพบก และสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนในจังหวัด
นักบินโดรนจิตอาสาให้ข้อมูลว่า หากพบวัตถุต้องสงสัยบนฟ้าให้สังเกตว่าถ้ามีไฟกะพริบสีเขียวและสีแดง 2 สีเท่านั้น ให้สันนิษฐานว่าคือโดรน และจดจำพิกัดที่พบเห็น ถ่ายภาพหรือวิดีโอและเวลาที่พบ แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที
เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD จากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธร และศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC เข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.พนมดงรัก หลังตรวจพบกระสุนปืนใหญ่ BM-21 จากฝั่งกัมพูชา ตกกระจายอยู่ในพื้นที่เพิ่มอีกถึง 181 ลูก
หนึ่งในจุดเสี่ยงอยู่กลางทุ่งนาโล่งกว้าง จากการตรวจสอบโดยละเอียดพบกระสุนปืนใหญ่ลูกหนึ่งยังไม่ระเบิด และฝังลึกลงไปในพื้นดินราว 3 เมตร สภาพพร้อมทำงานได้ทุกเมื่อหากมีการกระทบกระเทือน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของชาวบ้านและผู้ที่สัญจรผ่าน เจ้าหน้าที่ชุด EOD ได้เข้าทำลายกระสุนดังกล่าว
ทีมข่าวลงพื้นที่เป็นวันที่สอง บริเวณหมู่บ้านชายแดนไทย ใกล้แนวปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา หลังมีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ระบุว่ามีศพทหารกัมพูชาจำนวนมากถูกทิ้งไว้ในพื้นที่รบ ไม่มีการเก็บกู้ ส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นเน่าลอยข้ามมายังฝั่งไทย จนก่อความหวาดวิตกถึงการแพร่ระบาดของโรค
แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าของทีมข่าวคือหมู่บ้านเงียบ บ้านเรือนร้างไร้ผู้คน ชาวบ้านอพยพออกไปตั้งแต่ก่อนสถานการณ์รุนแรง ทิ้งไว้เพียงชุด ชรบ. ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวัง
ทีมข่าวสำรวจโดยรอบและไม่ได้กลิ่นเหม็นเน่าตามที่เป็นข่าว แม้จะอยู่ใกล้แนวปะทะที่สุดเท่าที่เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าถึงได้
จากการพูดคุยกับชาวบ้านที่ยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงต่างยืนยันเสียงเดียวกันว่าได้ยินข่าวจากสื่อและโซเชียล แต่ในหมู่บ้านไม่มีกลิ่นเหม็นดังกล่าว มีเพียงข้อมูลจากชายแดนที่ระบุว่ามีศพทหารจริงในแนวปะทะ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวหมู่บ้านพอสมควร
แม้กลิ่นจะไม่ลอยมาถึงฝั่งไทย แต่บางคนยังอดกังวลไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่มักได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอน เสียงที่ทำให้บางคนเชื่อมโยงไปถึงเรื่องลี้ลับและจิตวิญญาณของผู้เสียชีวิต
แม้ความเชื่อจะต่างกันไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความไม่ประมาท ชาวบ้านยังคงดูแลสุขอนามัยของตนเองและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอย่างเคร่งครัด
ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวเรื่องกลิ่นเน่าเหม็นจากพื้นที่การปะทะว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง แต่อาจสร้างความรำคาญและกระทบต่อจิตใจของประชาชน โดยเฉพาะเมื่อกลิ่นนั้นเชื่อมโยงกับการสูญเสีย
ส่วนข้อกังวลเรื่องโรคระบาด ยืนยันว่ายังไม่พบการแพร่ระบาดในพื้นที่ เนื่องจากบริเวณแนวชายแดนที่เกิดเหตุมีระยะห่างจากฝั่งไทยพอสมควร พร้อมกันนี้ได้ฝากถึงประชาชนใน จ.สุรินทร์ ให้ดูแลสุขภาพโดยการรับประทานอาหารปรุงสุกสะอาด ล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย และหากมีอาการเจ็บป่วยขอให้รีบพบแพทย์ทันที
นอกจากนี้ยังเน้นย้ำประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวปลอม และขอความร่วมมืออย่าเข้าใกล้พื้นที่แนวปะทะ ซึ่งยังมีความเสี่ยงจากวัตถุระเบิดหลงเหลือ โดยชี้ว่าเรื่องของความปลอดภัยในพื้นที่ยังน่าเป็นห่วงมากกว่ากลิ่นที่รับรู้ได้.-สำนักข่าวไทย