‘ลงดาบ’สั่งปิดร้านอาหารไร้ใบอนุญาต-ไม่มีบ่อดักไขมัน พบร้านผ่านเกณฑ์ร้อยละ97
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นพ.สุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกทม. เป็นประธานประชุมคณะกรรมการพิจารณาการดำเนินงานของเจ้าพนักงานสาธารณสุข ครั้งที่ 2/2568 โดยมี น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ ผอ.สำนักอนามัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขต และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกทม. เสาชิงช้า เขตพระนคร
สำนักอนามัยและสำนักงานเขต 50 เขต ดำเนินการตรวจถังดักไขมันในสถานประกอบการที่มีการจำหน่ายอาหารเพื่อแก้ไขปัญหาไขมันอุดตันในท่อระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายใต้ "ยุทธการปราบไขมันอุดตันป้องกันน้ำท่วม" ตามนโยบายผู้ว่าฯกทม. ระหว่างเดือนมี.ค. - พ.ค.68 โดยได้ตรวจสอบสถานประกอบการขายอาหารในพื้นที่ 50 เขต รวม 15,975 แห่ง พบว่าสถานประกอบการจำนวน 15,558 แห่ง คิดเป็น 97.39% ผ่านเกณฑ์ ติดตั้งถังดักไขมันถูกต้องและใช้การได้ดี พบสถานประกอบการ 417 แห่งไม่ผ่านเกณฑ์
ทั้งนี้สำนักงานเขตได้ออกคำสั่งแก้ไข ซึ่งสถานประกอบการมีการปรับปรุงแก้ไขเรียบร้อยแล้วจำนวน 390 แห่ง และไม่ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขจำนวน 22 แห่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตดินแดง อยู่ระหว่างดำเนินคดีทั้ง 22 แห่ง และเลิกประกอบกิจการจำนวน 5 แห่ง จากนี้ กทม. จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจถัง/บ่อดักไขมันในสถานประกอบการเพื่อขอต่ออายุใบอนุญาต หรือการตรวจเพื่อได้รับป้ายรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัยของกรุงเทพมหานคร ในทุก ๆ ปี
นอกจากนี้ในที่ประชุม ยังได้รายงานถึง ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 จะเริ่มบังคับใช้ 10 ม.ค. 2569 โดยข้อบัญญัตินี้กำหนดจำนวนการเลี้ยงสุนัขและแมวในพื้นที่อาคารชุด ห้องเช่า และที่ดิน เจ้าของสัตว์ที่เลี้ยงสัตว์เกินกว่าจำนวนที่กำหนด ให้แจ้งต่อสำนักงานเขตภายในวันที่ 9 เม.ย.69 และต้องจดทะเบียนสุนัขและแมวภายใน 120 วันหลังเกิด (หรือ 30 วันหลังรับมาเลี้ยงในเขต กทม.) ที่คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานคร 8 แห่ง สถานที่การออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ที่กำหนด และสำนักงานเขต 50 เขต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ปัจจุบันกำลังพัฒนาระบบจดทะเบียนสุนัขและแมวทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในรูปแบบออนไลน์
นอกจากนี้ สำนักอนามัยได้ดำเนินโครงการควบคุมจำนวนสุนัขและแมวในศาสนสถานและชุมชนโดยรอบ พื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีเป้าหมายควบคุมจำนวน ลดความเสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้า และลดปัญหาจากสุนัข/แมวจรจัดในศาสนสถานและชุมชน ระยะเวลาดำเนินงาน ม.ค. - ก.ย. 68 เป้าหมายทั้งหมด 70 แห่ง ปัจจุบันดำเนินการทำหมันและฉีดวัคซีนแล้ว 73 แห่ง (วัด 64 แห่ง, มัสยิด 9 แห่ง) ทำหมันสุนัขและแมวได้ 3,748 ตัว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 5,445 ตัว และฉีดไมโครชิปสุนัข จำนวน 287 ตัว
ในที่ประชุม สำนักอนามัยยังได้รายงานให้ทราบถึงผลการตรวจประเมินสุขลักษณะกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การตรวจตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ตรวจสอบแหล่งกำเนิด/โรงงานเพื่อเฝ้าระวังฝุ่นละออง ตรวจตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ตรวจสถานประกอบกิจการที่มีความเสี่ยงสูง ตรวจสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ตรวจประเมินกิจการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ตรวจประเมินสุขลักษณะห้องน้ำสาธารณะตามเกณฑ์มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะระดับประเทศ (HAS) และการควบคุมและตรวจสอบสุขลักษณะของฌาปนสถาน (เตาเผาศพ) ในส่วนของการตรวจประเมินต่าง ๆ รองผู้ว่าฯ ทวิดาได้มอบหมายให้สำนักอนามัยจัดทำปฏิทินการตรวจที่เป็นระบบมากขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่เขตซึ่งมีจำนวนจำกัด สามารถจัดลำดับความสำคัญและมุ่งเน้นการทำงานในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.