ทรัมป์เปิดใจผิดหวังปูติน ปฏิเสธแผนสันติภาพยูเครน แต่ไม่อยากตัดสัมพันธ์

ในโอกาสครบ 1 ปีนับแต่เกิดเหตุลอบยิงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ขณะปราศรัยหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2567 ซึ่งนายทรัมป์ถูกยิงบาดเจ็บที่หูขวา ส่วนคนร้ายถูกหน่วยอารักขาผู้นำสหรัฐฯทำวิสามัญฆาตกรรม นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์พิเศษทางโทรศัพท์ราว 20 นาที เปิดใจกับสำนักข่าวบีบีซีจากห้องทำงานรูปไข่ ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตันดี.ซี.ในวันนี้(15 ก.ค.68)

บางช่วงบางตอนของการสัมภาษณ์ นักข่าวถามว่า เขาจะตัดความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียหรือไม่ นายทรัมป์ตอบว่า เขารู้สึกผิดหวังในตัวประธานาธิบดีปูติน ที่ไม่ยอมรับแผนสันติภาพกับยูเครนจากข้อเสนอของรัฐบาลสหรัฐฯ แต่ไม่ถึงขั้นต้องตัดความสัมพันธ์กับนายปูติน เมื่อนักข่าวซักต่อไปว่า เขาจะโน้มน้าวอย่างไรให้นายปูตินหยุดการเข่นฆ่าประชาชนในยูเครน นายทรัมป์ตอบว่า สหรัฐฯอยู่ระหว่างทำงานเรื่องนี้อยู่ ที่ผ่านมา เขาได้ต่อสายโทรคุยกับนายปูตินมาหลายครั้ง ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างชื่นมื่นทุกครั้ง กระทั่งเขาคิดว่า สหรัฐฯใกล้จะผลักดันคู่ขัดแย้งให้ทำข้อตกลงสันติภาพได้ทุกขณะ แต่พอตกดึก นายปูตินเปลี่ยนใจ สั่งกองทัพรัสเซียให้โจมตีกรุงเคียฟแทบทุกครั้ง

ต่อคำถามว่า เขาเชื่อถือผู้นำรัสเซียต่อไป หรือไม่ นายทรัมป์ตอบว่า เขาไม่เชื่อถือใครทั้งนั้น ที่ผ่านมา นายปูตินยืนกรานว่า รัสเซียต้องการสันติภาพ อยากให้สหรัฐฯในฐานะแกนนำนาโต แก้ไขปัญหาที่ต้นตอของสงครามในยูเครน ย้ำว่า สงครามในยูเครนเป็นผลพวงจากภัยคุกคามภายนอก คือ ยูเครน นาโตและชาติตะวันตก ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านรัสเซีย

ต่อคำถามที่ว่า การรอดชีวิตจากเหตุลอบสังหารครั้งนั้น มีส่วนเปลี่ยนแปลงลักษณะการดำเนินชีวิตของเขาจากเดิมหรือไม่ นายทรัมป์ตอบว่าเขาคิดว่า มีผลกระทบต่อการดำเนินชิวิตของเขาไม่มากนัก เพิ่มเติมว่า ถ้าเราครุ่นคิดอยู่กับเรื่องนี้มากเกินไปอาจจะกระทบการดำเนินชีวิตตามปกติก็ได้

นายทรัมป์พูดเรื่องนี้ ไม่กี่ชั่วโมง หลังประกาศแผนการส่งอาวุธให้กับยูเครน พร้อมขู่จะปรับขึ้นภาษีในอัตราร้อยละ 100 ถ้ารัสเซียไม่หยุดยิงในยูเครนภายใน 50 วัน พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นในแนวทางการทำงาน และสนับสนุนหลักการป้องกันร่วมกันของ 32 ประเทศสมาชิกในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต) ถึงแม้ว่า นายทรัมป์เคยวิจารณ์นาโตเป็นองค์กรพันธมิตรทางทหารที่ไม่เหมาะสมกับโลกยุคปัจจุบัน

#ทรัมป์เปิดใจ

#ครบหนึ่งเหตุลอบสังหาร

#สงครามยูเครน

ที่มา: bbc