นักวิเคราะห์มองตลาดหุ้นตอบรับผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – นักวิเคราะห์มองตลาดหุ้นปรับตัวรับผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว วันนี้จึงไม่น่าจะมีการปรับตัวรับแรง ด้านเอกชนฝากการบ้าน ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่แก้ไขปัญหานโยบายการเงินหลายด้าน ทั้ง Spread ดอกเบี้ย ค่าเงินบาท

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวในรายการนาทีลงทุน สำนักข่าวไทย อสมท ว่า ตลาดทุนมีการตอบรับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังมีข่าวว่าจะเข้า ครม. เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ว่าก็มีการเลื่อนออกไป หากดูจากชื่อที่ตลาดคาดว่าจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าแบงก์ชาติ ตลาดคาดหวังว่าในแง่ของการดำเนินนโยบายการเงิน น่าจะผ่อนคลายมากขึ้น หรืออัตราดอกเบี้ยมีโอกาสขยับตัวลงได้มากกว่าเดิม ฉะนั้นจะเห็นว่าตลาดหุ้นโดยรวมตอบรับในทางบวก เพราะในเชิงทฤษฏี ดอกเบี้ยต่ำเป็นบวกกับตัวหุ้นเนื่องจากทำให้หุ้นปรับตัวขึ้นได้ โดยเฉพาะหุ้นที่เซ้นซิทีฟกับดอกเบี้ย เช่น ไฟแนนซ์ กลุ่ม REITs (Real Estate Investment Trusts) กลุ่มฟิกซ์อินคัม ก็จะปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี อันนี้คือสิ่งที่ตลาดคาดหวังตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ฉะนั้นเมื่อวันนี้มีการแต่งตั้งตามที่ตลาดคาด มองว่าวันนี้จะไม่มีการปรับตัวรับแรง เนื่องจากมีการปรับตัวรับไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

ด้านนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความยินดีกับผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ พร้อมฝากการบ้านนโยบายการเงินให้ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่แก้ไข โดยระบุข้อความ ชื่นชม และดีใจ กับผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ นะครับ!! ทราบว่า ท่านมีความเข้าใจสภาพเศรษฐกิจทั้งภาพ Macro และ Micro รวมทั้งมองเห็นภาพ real Sector เป็นอย่างดี

การบ้านนโยบายการเงิน ที่รอ ผู้ว่าการ ธปท คนใหม่ มาแก้ไข

1) Spread ของ ดอกเบี้ย ที่เหมาะสม และ เป็นธรรม
2) Exchange Targeting ค่าเงินบาท ที่อ่อนกว่าคู่แข่งในตลาดโลก เพื่อผลักดันการส่งออกที่เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยิ่งภาวะ ความเสี่ยงในภาษี ทรัมป์
3 ) นโยบายการเงิน ผ่อนคลาย / Inflation Targeting สอดคล้องกับ นโยบายการคลัง ของรัฐบาล
; มีกระแสเงินไหลเข้า มาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ภาค Real sector ส่วนใหญ่ของประเทศ ต่างก็บอบช้ำตามภาวะเศรษฐกิจโลก และ ของประเทศ แต่สถาบันการเงิน กลับเติบโต สวนทาง !
4) มีทางเลือกใน ตลาดเงิน ใหม่ๆ ที่ผ่านมา เราพึ่งพิงแต่ ธนาคารพาณิชย์ ที่นับวัน มีแต่จะโตวันโตคืน ขยาย Scope การบริการมากมาย แต่เรากลับไร้เครื่องมือ ทางการเงิน หรือ ทางเลือกใหม่ๆ มาเป็นทางออก ให้ธุรกิจ และประชาชน พร้อมแนะผู้บริหารทุกระดับใน ธปท. จะได้ให้ความร่วมมือกับนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของผู้ว่าคนใหม่ โดยยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งมากกว่า กรอบการบริหารแบบเดิมๆ.-517-สำนักข่าวไทย